นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายกรณีโทษความผิดเกี่ยวกับใบอนุญาตขับรถยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากยังต้องผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบอีกหลายขั้นตอน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายให้ครอบคลุมในทุกประเด็นปัจจัยเสี่ยง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าผู้ขับขี่เป็นปัจจัยสำคัญ และนับเป็นสาเหตุหลักต้นๆ ของอุบัติเหตุทางถนน ดังนั้น การคัดกรองคนใช้รถใช้ถนนด้วยกติกาสากล คือ ใบอนุญาตขับรถ จึงเป็นความสำคัญลำดับแรกที่สังคมยอมรับร่วมกัน เพื่อให้เกิดความรับผิดชอบในความปลอดภัยซึ่งกันและกัน ประกอบกับข้อมูลจากศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน พบว่าผู้ขับขี่กลุ่มที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถจะมีสัดส่วนการเสียชีวิตมากกว่ากลุ่มที่มีใบอนุญาตขับรถถึง 2 เท่า เนื่องจากกลุ่มที่มีใบอนุญาตขับรถจะรู้วิธีทำให้ตนเองปลอดภัยจากการขับขี่รถมากกว่าผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกตระหนักดีว่าประชาชนทุกภาคส่วนถือเป็นบุคคลสำคัญที่จะร่วมพิทักษ์สิทธิความปลอดภัยผู้ใช้รถใช้ถนน โดยก่อนหน้านี้ ได้ดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 77 วรรคสอง โดยได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องกับ “ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. ….” ในทุกหมวด ทุกมาตรา มาแล้วจำนวน 3 ครั้ง คือช่วงเดือนกรกฎาคม 2560 (1 ครั้ง) และเดือนสิงหาคม 2560 (2 ครั้ง) และรวบรวมความคิดเห็นที่มีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและวิเคราะห์ในแต่ละประเด็น ประกอบการพิจารณาในกระบวนการตรากฎหมายทุกขั้นตอนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความเหมาะสมและเป็นตามวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ส่วนรวม
.
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ประชาชนให้ความสนใจกับประเด็นดังกล่าวอย่างกว้างขวาง และร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาโดยรอบด้าน กรมการขนส่งทางบกพร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในสังคมอีกครั้ง ผ่านช่องทางแบบสำรวจรับฟังความคิดเห็นบทกำหนดโทษใบอนุญาตขับรถ (URL: https://goo.gl/forms/Olo63cu2ZOMNxvMv1) รวมถึงในทุกช่องทางรับฟังความคิดเห็นของกรมการขนส่งทางบก เช่น เว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th, สายด่วน 1584, เฟซบุ๊กแฟนเพจ “1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ” (URL: https://www.facebook.com/dlt1584/), E-Mail: [email protected] เป็นต้น ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม – 11 กันยายน 2561 ทุกความเห็นและข้อเสนอแนะของสังคมจะถูกรวบรวมไปวิเคราะห์ในแต่ละประเด็น เพื่อประกอบการพิจารณาก่อนเสนอเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไป นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกจะประสานหน่วยงาน สื่อมวลชน หรือองค์กรต่างๆ ที่ได้ดำเนินการสำรวจความเห็นประชาชนก่อนหน้านี้ มาประกอบการพิจารณาด้วยเช่นกัน
.
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้ายว่า การเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายเป็นเพียงเครื่องมือหนึ่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและกำกับการใช้รถ แต่ส่วนสำคัญอยู่ที่ผู้ขับขี่ต้องตระหนักถึงหลักความปลอดภัยและวินัยในการใช้รถใช้ถนนและนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยกรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาและยกระดับมาตรฐานคุณภาพกระบวนการออกใบอนุญาตขับรถให้มีความเข้มงวดและโปร่งใส ด้วยการพัฒนาระบบเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาเพิ่มมาตรฐานการดำเนินการและรองรับความต้องการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ในทุกขั้นตอนด้วยระบบ Electronic ทั้งหมดครบทุกแห่ง ทั้งสำนักงานขนส่งจังหวัด และสำนักงานขนส่งสาขาทั่วประเทศ อาทิ ระบบทดสอบข้อเขียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Exam ควบคู่กับการพัฒนาหลักสูตรเพิ่มชั่วโมงอบรมภาคทฤษฎีเพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพผู้ขับรถ, ระบบทดสอบขับรถแบบ E-Driving พัฒนาระบบจองคิวอบรมภาคทฤษฎีเพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ DLT e-Booking ควบคู่กับการสนับสนุนเพื่อพัฒนาสร้างมาตรฐานให้องค์กร นิติบุคคล หรือภาคเอกชน ในบทบาท รูปแบบโรงเรียนสอนขับรถยนต์ที่มีคุณภาพควบคุมด้วยระบบ E-Classroom เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน