หลายคนคงรู้กันว่า “ผมขาว” หรือ “ผมหงอก” นั้น มักจะเกิดขึ้นกับร่างกายในช่วงวัยใกล้เกษียณ แต่แท้จริงแล้ว มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องประสบกับปัญหาผมหงอกก่อนวัย ตั้งแต่อายุก่อน 30 ปี ซึ่งทำให้ดูแก่กว่าวัยและขาดความมั่นใจได้มากพอสมควร เพราะคนวัยนี้ยังคงต้องทำงานและเข้าสังคมอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความใส่ใจในปัญหา สถาบันวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม ของ สตาร์ลิสต์ จึงค้นคว้าเรื่องนี้มาอย่างยาวนานนับ 10 ปี และวันนี้พร้อมจะแบ่งปันความรู้สู่คนทั่วไปแล้ว
หงอกก่อนวัยเกิดได้อย่างไร?
- พันธุกรรม
พันธุกรรมคือปัจจัยแรกอันดับแรกสุดที่ส่งผลต่อร่างกาย สำหรับผู้ที่มีผมหงอกก่อนวัยนั้นจะมีลักษณะเส้นผม ขนาดใหญ่ และแข็ง โดยพบว่าผมหงอกจะเริ่มขึ้นตั้งแต่อายุไม่ถึง 30 ปี
- ผมที่ขาดการบำรุง และหนังศีรษะที่แห้ง
การที่คนเราจะมีสุขภาพผมและหนังศีรษะที่ดีนั้น จำเป็นต้องได้รับโปรตีนและวิตามิน บี12 (โคบาลามิน: Cobalamin) ในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน
- บุหรี่
นอกจากจะทำลายปอดและทำให้ผิวหน้าดูแก่ก่อนวัยแล้ว บุหรี่ยังมีปฏิกิริยากับเส้นผม ทำให้ผมผลิตเม็ดสีได้น้อยลง จนเกิดผมหงอกในที่สุด ซึ่งผู้ที่สูบบุหรี่จะมีผมหงอกเร็วกว่าคนที่ไม่สูบบุหรี่มากถึง 2 เท่า
- ความเครียด
จากผลการวิจัยปี 2013 ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค ระบุว่า ความเครียดจะไปลดประสิทธิภาพการทำงานของสเต็มเซลล์ของรากผมให้น้อยลง ทำให้เส้นผมไม่แข็งแรง หลุดร่วงได้ง่าย และยังส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถผลิตสีผมให้เป็นปกติได้
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ
หากเรามีสุขภาพไม่แข็งแรง ก็อาจทำให้เส้นผมสุขภาพไม่ดีไปด้วยเช่นกัน สังเกตได้จากคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะมีเส้นผมที่สุขภาพดี ดำเงางาม
หงอกก่อนวัยป้องกันได้ เพิ่มความมั่นใจให้เต็ม100
- พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่น้อยกว่า 7 – 8 ชั่วโมง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน อาจลองเป็นการเดินหรือวิ่งเหยาะๆต่อกัน 30 นาทีต่อวันขึ้นไป เป็นเวลา 3-5 วันต่อสัปดาห์ (รวมแล้วประมาณ 150 นาทีต่อสัปดาห์)
- ลดความเครียด ผ่อนคลายสมอง โดยฝึกพัฒนาจิตคิดบวกอยูเสมอ
- ลด-ละ-เลิกบุหรี่
- ปกป้องผมจากความร้อนทั้งการอยู่กลางแจ้งแดดเผานานๆ ใช้น้ำอุ่น หรือหลีกเลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผมบ่อยๆ เพราะความร้อนจะทำให้หนังศีรษะและรูขุมขนเสื่อมสภาพเร็ว
- เลือกทานอาหารที่มีวิตามินบี12 ซึ่งจะพบมากในสัตว์ปีกและสัตว์ทะเล เช่น หอย ปลา ไข่ รวมถึงตับ และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม โยเกิร์ต เนยแข็ง สาหร่ายสไปรูลิน่า รวมถึงวิตามินอาหารเสริมด้วย
เปลี่ยนผมหงอกสู่ผมดำอย่างปลอดภัย คุณเลือกได้
อีกหนึ่งวิธียอดฮิตในการแก้ไขปัญหาผมหงอกให้กลับมาเป็นสีธรรมชาติได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็คือการปิดผมผงอกด้วยน้ำยาเปลี่ยนสีผม หรือที่เรียกกันอย่างติดปากว่า “ย้อมผม” ซึ่งเราต่างทราบกันดีว่าน้ำยาเหล่านี้จะผสมด้วยสารเคมีมากมาย หากใช้บ่อยครั้งอาจทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ดังนั้นการที่จะปิดผมขาวได้ไว แต่ต้องแลกกับสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะที่แย่ลง คงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด จะดีกว่าไหม ถ้าวันนี้เราสามารถเลือกวิธีปิดผมหงอกที่ปลอดภัยต่อตัวเองได้ อย่าง 2 วิธีนี้
1.การทำสมุนไพรใช้เองแบบDIY 
– หมักผมโดยใช้น้ำมัน เช่น น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันมะพร้าว เพื่อฟื้นฟูผมและหนังศรีษะที่แห้งกว่าปกติ
– นำผงเฮนน่าเทลงในชามกระเบื้องหรือชามแก้ว ปริมาณตามต้องการ เช่น ผมสั้นอาจใช้แค่ 50 กรัม ผมยาวอาจใช้ 100 กรัม แล้วค่อยๆ เติมน้ำร้อน(ไม่ใช้น้ำเดือด) ลงไปผสมทีละน้อย แล้วคนให้เข้ากัน ทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงแล้วจึงนำมาย้อมผม
– หมักผมทิ้งไว้ 4-6 ชั่วโมงจึงล้างออก
แต่ถ้าหากเราไม่มีเวลานานขนาดนั้นอาจลองทำตามวิธีที่ 2 ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ปลอดภัยไม่ต่างกัน
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปิดผมหงอกที่มีคุณภาพ ไม่เป็นอันตรายต่อหนังศรีษะและเส้นผม
ในปัจจุบันมีแชมพูปิดผมหงอกให้เลือกใช้ในท้องตลาดค่อนข้างมาก แต่ประเภทที่จัดว่าปลอดภัยที่สุดคือ แชมพูสมุนไพรปิดผมขาว(ผมหงอก) ที่ “ไม่มีแอมโมเนีย” ไม่มีกลิ่นฉุน และใช้วัตถุดิบที่สกัดสมุนไพรธรรมชาติ 100% เช่น มีส่วนผสมของเฮนน่าช่วยให้ผมดกดำดูเป็นธรรมชาติ มีคาร์โมมายด์ช่วยป้องกันลดการระคายเคืองหนังศรีษะ และกีวี่บำรุงผมให้นุ่มลื่นชุ่มชื่น โดยผู้เลือกซื้อต้องไม่ลืมข้อสำคัญที่ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นต้องได้รับการรับรอง อย. และมีความน่าเชื่อถือด้วยแบรนด์ที่จำหน่ายมายาวนาน
อาทิ ผลิตภัณฑ์ EASY BLACK จาก STAR LIST ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวข้างต้น ทั้งยังมีสีสันให้เลือกใช้มากมาย เพื่อให้เหมาะสมกับหลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็น สีดำธรรมชาติ (Natural Black) สีน้ำตาลธรรมชาติ (Natural Brown) สีน้ำตาลคอฟฟี่ (Coffee Brown) และสีน้ำตาลประกายม่วง (Violet Brown)
จะปิดผมหงอกก่อนวัยทั้งที ก็ต้องทำให้มีสีสันสมวัย แต่ไม่ได้จำกัดแค่ในกลุ่มผมหงอกก่อนวัยเท่านั้น ผู้มีผมหงอกตามธรรมชาติก็ใช้ได้อย่างปอดภัยและมีคุณภาพที่ดีเช่นกัน
