ในบรรดาทำเลเขตจังหวัดปริมณฑลที่รายล้อมกรุงเทพฯ ที่มีศักยภาพและถูกมองว่าเป็นทำเลแห่งอนาคต ขณะเดียวกันยังเต็มไปด้วยร่องรอยของอดีต ชื่อของ “จังหวัดสมุทรปราการ” ต้องถูกกล่าวถึงอย่างแน่นอน ทั้งในฐานะอดีตเมืองหน้าด่านทางทะเล จุดยุทธศาสตร์ทางน้ำที่สำคัญ ที่ตั้งของป้อมปราการที่ปกป้องพระนครจากข้าศึกมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ซึ่งที่ยังหลงเหลือในปัจจุบัน เช่น ป้อมพระจุลจอมเกล้า ป้อมผีเสื้อสมุทร และในฐานะเมืองที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจลำดับต้นๆ ของประเทศเมื่อไม่นับรวมกับกรุงเทพฯ

ด้วยลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มทั้งหมด พื้นที่ส่วนใหญ่โอบล้อมด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาและทอดตัวยาวสู่ทะเลอ่าวไทย ทิศเหนือติดกับกรุงเทพมหานคร ทิศใต้ติดกับทะเลอ่าวไทย ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดฉะเชิงเทรา ทำให้พื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางกิโลเมตรของเมืองปากน้ำเปลี่ยนจากเมืองยุทธศาสตร์การรบเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าและการคมนาคมของภูมิภาค รวมทั้งการเติบโตของเมืองในเขตอุตสาหกรรม มีประชากรตามทะเบียนราษฎร์ประมาณ 1.3 ล้านคน ประชากรแฝงอีกเกือบเท่าตัว แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 6 อำเภอ 50 ตำบล

ครบครันด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค ทั้งยังมีเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมโยงภูมิภาคต่างๆ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ เป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัย ทั้งรถไฟฟ้า ท่าเรือ คลังสินค้า รองรับการขนส่งสินค้าภาคอุตสาหกรรมไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น ส่งผลทำให้ตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ GPP (Gross Provincial Product) ของจังหวัดสมุทรปราการ มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสัดส่วนรายได้ภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ 42 % การขนส่ง 23 % การขายส่ง-ขายปลีก 14 % การบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ 6 % การเงินประกันภัย 4 % และอื่นๆ 11 %

อย่างไรก็ตาม จังหวัดสมุทรปราการไม่ได้มุ่งเน้นพัฒนาเขตอุตสาหกรรมเพียงอย่างเดียวแต่ควบคู่การพัฒนาเมืองสู่การเป็นเมืองสีเขียว การรักษาศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ด้วยวิสัยทัศน์การพัฒนาจังหวัดที่มุ่งสู่การเป็น “เมืองอุตสาหกรรมสะอาด ปลอดภัย น่าอยู่” จึงมียุทธศาสตร์ที่สำคัญ 5 ด้าน ดังนี้

  1. เสริมสร้างศักยภาพภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมที่ปราศจากมลพิษให้มีศักยภาพในการแข่งขันในระดับภุมิภาคเขตเศรษฐกิจอาเซียน
  2. พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยยกระดับรายได้และการจัดการศึกษา สาธารณสุข ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม สาธารณูปโภคเพื่อเสริมสร้างเมืองให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน
  3. ส่งเสริมระบบโลจิสติกส์ โดยพัฒนาการบริหารจัดการ และปรับปรุงโครงข่ายการคมนาคมขนส่ง
  4. ส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรม โดยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว สินค้าและการบริการ
  5. การสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยการพัฒนาระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามความมั่นคง

เพราะอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 29 กิโลเมตร การเดินทางจึงสะดวกสบาย เดินทางง่ายโดยรถยนต์ส่วนตัว รวมทั้งระบบขนส่งสาธารณะทั้งรถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า สมุทรปราการจึงเป็นต้วเลือกแรกๆ ที่หลายคนเลือกทั้งในแง่การอยู่อาศัยและการท่องเที่ยวพักผ่อนซึ่งที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจซ่อนตัวอยู่หลายแห่ง ทั้งทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรม และประเพณี และอาหารการกิน มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวได้ แถมเที่ยวได้ตลอดทั้งปี สะท้อนให้เห็นผ่านคำขวัญประจำจังหวัด ป้อมยุทธนาวี พระเจดีย์กลางน้ำ ฟาร์มจระเข้ใหญ่ งามวิไลเมืองโบราณ สงกรานต์พระประแดง ปลาสลิดแห้งรสดี ประเพณีรับบัว ครบถ้วนทั่วอุตสาหกรรม”

สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี เช่นพระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ, วัดอโศการาม, วัดบางพลีใหญ่ใน,วัดบางพลีใหญ่กลาง, วัดไพชยนต์พลเสพราชวรวิหาร, วัดโปรดเกศเชษฐาราม, ศาลพระเสื้อเมือง, พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ, เมืองโบราณ, สถานตากอากาศบางปู, ป้อมพระจุลจอมเกล้า, ป้อมแผลงไฟฟ้า

ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติยังคงความสมบูรณ์ เช่นที่คุ้งบางกระเจ้า แหล่งโอโซนพื้นที่มากถึง 11,000 ไร่ ที่ได้ชื่อว่าปอดกลางเมือง ได้รับการยกย่องให้เป็น Best Urban Oasis of Asia จากนิตยสารไทม์ ซึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศมีทั้งกิจกรรมการปั่นจักรยาน ดูนก ชมความสมบูรณ์และสวยงามของป่าชายเลน และสัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ได้อีกหลายหลายรูปแบบ ซึ่งใกล้ๆ กันมีตลาดบางน้ำผึ้งที่จัดตั้งขึ้นโดยชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย และบ้านสาธิตการทำธูปหอม

เมื่อเข้ามาฝั่งเมืองปากน้ำ ไฮไลท์ของเมืองคือ “หอชมเมือง” ที่สูงกว่า 179 เมตรใจกลางเมืองสามารถมองเห็นวิวเมืองได้ 360 องศา เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาทอดยาวไปจนถึงอ่าวไทย และยังสามารถมองเห็น “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” ซึ่งเป็นประติมากรรมลอยตัว จากระยะไกลได้ชัดเจนเหมือนมีมนต์ขลัง ซึ่งหากต้องการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณเพื่อพักจิตใจจากความวุ่นวายของโลกภายนอกด้วยความสวยงามวิจิตรของผลงานประติมากรรมภายใน ซึ่งแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน คือ ชั้นสุวรรณภูมิ ชั้นโลก และชั้นจักรวาล และภายนอกจัดเป็นสวนประดับด้วยประติมากรรมลอยตัวของตัวละครเรื่องรามเกียรติ์ รายล้อมอยู่รอบอาคารอีกด้วย

นอกจากนี้ สมุทรปราการยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวของคนทุกไลฟ์สไตล์ อย่างเช่น “เมืองโบราณ” ที่จำลองสถานที่ที่สำคัญในประเทศไทยแบบเสมือนจริง หรือนำของจริงมาจำลองไว้ อยู่ในพื้นที่กว่า 600 ไร่ ทั้งยังแสดงถึงวิถีชีวิตและความโดดเด่นด้านภูมิปัญญาผ่านการออกแบบสถาปัตยกรรมของทั้ง 4 ภาค ภายในมีเส้นทางการท่องเที่ยว นั่งรถรางชมเมือง ล่องตลาดน้ำ ไหว้พระ และปั่นจักรยาน เป็นต้น และตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมของฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก “ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ” ไฮไลท์คือการโชว์จับจระเข้ด้วยมือเปล่า ทั้งยังสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ที่ด้านในจัดแสดงกระดูก และหุ่นจำลองไดโนเสาร์

สำหรับผู้ชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยกิจกรรมปั่นจักรยาน ไฮไลต์สำคัญคือ “ลู่ปั่นเจริญสุขมงคลจิต Sky Lane Thailand” รอบสนามบินสุวรรณภูมิ หนึ่งรอบเป็นระยะทางกว่า 23 กิโลเมตร หรือหลังเก็บรถจักรยานแล้วสามารถขับรถเลยไปต่อที่ “สถานตากอากาศบางปู” เพื่อตากอากาศทางชายทะเลอ่าวไทย ชมป่า ชมนกกว่า 200 ชนิด จากนั้นจึงไปรับประทานอาหารทะเลสดๆ ที่ร้านอาหารในศาลาสุขใจปลายสะพาน หรือสัมผัสบรรยากาศเย็นสบาย ชิมขนมไทยโบราณ หลากหลายร้านต้นตำหรับกุ้งเหยียด ณ ชุมชนบ้านสาขลา เลยไปอีกนิดเพื่อไปลิ้มชิมรสอาหารทะเลเลื่องชื่อที่ “บ้านขุนสมุทรจีนโฮมสเตย์” พร้อมเก็บบรรยากาศพระอาทิตย์ยามเย็นและนอนดูดาว เป็นการชาร์ตพลังงานของวันหยุดแบบคุ้มแสนคุ้ม

จากทรัพยาการทางธรรมชาติ ลักษณะภูมิประเทศ และด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองของจังหวัดสมุทรปราการ ที่พัฒนาเขตอุตสาหกรรมไปพร้อมกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวสีเขียว การรักษาศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี การมุ่งหน้าเป็น “เมืองอุตสาหกรรมสะอาด ปลอดภัย น่าอยู่” จึงอยู่ไม่ไกลเกินมุ่งหวัง

เพิ่มเติม จังหวัดสมุทรปราการ www.samutprakan.go.th
สำนักงานท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ www.samutprakan.go.th/newweb/

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน