เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งครั้งสำคัญที่ “เอไอเอส” ได้เดินหน้าส่งมอบบริการสุดพิเศษผ่านแนวคิด AIS SERENED: Your Exclusive Experience ให้ลูกค้าได้รู้สึกถึงการเป็นคนพิเศษ ในฐานะคนสำคัญของเอไอเอส โดยร่วมเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ให้แก่ลูกค้าเซเรเนดด้านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และร่วมสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันวิจิตรงดงาม ผ่านผลงาน “ศิลป์แผ่นดิน” ARTS OF THE KINGDOM อย่างใกล้ชิด พร้อมสัมผัสความวิจิตรบรรจงของผลงานประณีตศิลป์ และงานหัตถศิลป์ชั้นสูงที่หาชมได้ยาก อันเป็นผลงานของช่างฝีมือคนไทยจากสถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรลดา มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

ซึ่งกิจกรรมสุดพิเศษครั้งนี้ได้รับเกียรติจากท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต ปฏิบัติหน้าที่รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราขชนนีพันปีหลวง กล่าวต้อนรับทุกท่าน และมีบรรยายพิเศษแบบเจาะลึกจากวิทยากรกิตติมศักดิ์ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ไทย ที่มาเล่าถึงประวัติความเป็นมาของผลงานชิ้นเอกที่จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ต.เกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา

บุษยา สถิรพิพัฒน์กุล หัวหน้าหน่วยธุรกิจบริหารลูกค้าและการบริการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เซเรเนด เป็นบริการดูแลและมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าคนสำคัญ ซึ่งครั้งนี้เอไอเอสได้พาลูกค้ามายังสถานที่สุดพิเศษ ใส่ชุดผ้าไทย และชมงานหัตถศิลป์ที่หาชมได้ยาก ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดกิจกรรมเชิญชวนคนไทยให้มาร่วมสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทย อันเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ซึ่งนอกจากความงดงามและประณีตในรายละเอียดเชิงศิลปะแล้ว ผลงานต่างๆ ยังบอกเล่าเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของประเทศไทยได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับการยกย่องอย่างสูงในระดับนานาชาติ เอไอเอส ในฐานะพสกนิกรชาวไทย จึงอยากร่วมส่งต่อความภาคภูมิใจผ่านการเปิดประสบการณ์ให้กับคนไทย ได้มาสัมผัสบรรยากาศและเรียนรู้งานศิลป์ชั้นสูงภายในพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดินแห่งนี้ ซึ่งล้วนเกิดจากพระวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอุทิศพระองค์ ทรงงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยพระราชปณิธานที่จะทำให้พสกนิกรพ้นจากความยากจน และสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรมฝีมือของช่างไทยให้ยั่งยืนคู่แผ่นดินไทยตลอดไป

ภายในพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน จัดแสดงผลงานอันทรงคุณค่า ที่ช่างฝีมือไทยบรรจงสร้างด้วยความปราณีต บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย อาทิ

  • สัปคับพระคชาธาร

สัปคับจำหลักทองประดับเพชร โครงในทำจากเงิน จำลองแบบจากพระที่นั่งพุดตานคชาธาร ซึ่งทอดประดับ ณ มุขทิศเหนือ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท อันเป็นสัปคับพระคชาธาร สำหรับออกราชสงคราม จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 ใช้ช่างฝีมือทั้งหมด 73 คน และใช้ระยะเวลาการทำทั้งสิ้น 1 ปี 6 เดือน

  • ขันถมทองลายมงคล 108

เครื่องถมขนาดใหญ่ที่ใช้วิธีการ “ถมทอง” สลักด้วยลายแห่งความมงคลทั้ง 108 ซึ่ง ‘เครื่องถม’ จัดเป็นงานศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมของไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เป็นที่นิยมกันมากในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นงานฝีมือที่เริ่มจากการตีแผ่นเงินเพื่อขึ้นรูปให้เป็นรูปทรงต่างๆ แล้วทำลวดลายด้วยวิธีสลักให้พื้นผิวต่ำลงไปเป็นร่อง เกิดเป็นลวดลาย หรืออาจใช้วิธีการเขียนลวดลายลงบนผิวเงินที่ขึ้นรูปไว้แล้ว แล้วนำไปแช่ในน้ำกรดเพื่อกัดพื้นผิวเงินให้เป็นร่อง ทำให้เกิดลวดลายเหมือนการสลัก ต่อจากนั้นจึงนำยาถมสีดำมารมด้วยความร้อน และถมตามร่องของลวดลายเดิมจนเต็มเสมอพื้นผิวเงิน เมื่อตะไบให้ผิวเรียบเสมอกันแล้วนำทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งผสมเป็นเนื้อเดียวกันกับปรอททาบนชิ้นงานให้ทั่ว จากนั้นจึงใช้ความร้อนเพื่อให้ปรอทระเหิดออกไปเหลือแต่ทองคำติดอยู่สีดำของยาถม สีทองของทองคำ จึงเรียกว่า “ถมทอง”

  • บุษบกมาลา

เครื่องประกอบพระราชอิสริยยศที่ผสมผสานงานฝีมือทั้งถมทอง คร่ำ ลงยาสี เครื่องเงินเครื่องทอง แกะสลักไม้ ตกแต่งปีกแมลงทับ และย่านลิเภา

  • ฉากปักไหมน้อย หิมพานต์

งานปักผ้าด้วยวิธีที่เรียกว่า “ปักซอย” ใช้ไหมเส้นบางชั้นในสุดของไจไหม เป็นเส้นไหมที่ละเอียดอ่อนนุ่ม ปักด้วยวิธีโบราณ หักดิ้น แล่งเงิน แล่งทอง สอดไส้ไหมสี เลื่อมเงิน เลื่อมทอง ลูกปัด และลูกแก้ว นานาสี เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงครองศิริรราชสมบัติครบ 60 ปี พ.ศ. 2549 และในโอกาสมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 8 รอบ 5 ธันวาคม 2550 ใช้ช่างฝีมือ 162 คน ระยะเวลาการทำ 2 ปี 6 เดือน

  • แกะสลักไม้ และแกะสลักตุ๊กตาไม้

ผลงานไม้แกะสลักของสถาบันสิริกิติ์มี 2 ลักษณะคือแกะเป็นภาพนูนบนเนื้อไม้และแกะลอยตัว มีทั้งผลงานขนาดเล็ก อาทิ ตุ๊กตาไม้โมกมัน ปกรายการพระกระยาหาร ฯลฯ และยังมีชิ้นงานขนาดใหญ่ที่น่าภาคภูมิใจ คือ ฉากจำหลักไม้สักทอง ตำนานเพชรัตน์ ฉากจำหลักไม้สระโบกขรณี และผลงานชิ้นเอกล่าสุด ฉากจำหลักไม้เรื่อง สังข์ทอง และหิมพานต์

  • เรือพระที่นั่งมงคลสุบรรณ จำลอง

เรือพระที่นั่งกิ่งในสมัยรัชกาลที่ 3 มีหัวเรือเป็นพญาครุฑยุดนาค โครงเรือและคานเรือทำด้วยเงินทาทอง ท้องเรือและลำเรือทั้ง 2 ข้างถมทอง กระดูกงูและกงเรือเป็นเงินทาทอง โขนเรือรูปครุฑมือกางจับนาค ปักฉัตร 7 ชั้น และ 5 ชั้น ทำด้วยทองคำฉลุประดับเพชร ท้ายเรือประกบหางปลายกนก สลักทองลงยาอย่างงดงาม กว้าง 24 ซม. ยาว 3.35 ม. สูง 88 ซม. ใช้ช่างฝีมือ 98 คน ระยะเวลาการทำ 2 ปี 7 เดือน

  • ห้องปีกแมลงทับ

ห้องจัดศิลปกรรมชิ้นพิเศษ ที่ประดับตกแต่งด้วยปีกแมลงทับ ผนังห้องทั้ง 2 ข้าง ตกแต่งด้วยแผ่นสานลิเภา สอดด้วยปีกแมลงทับ บนเพดานประดับด้วยโคมไฟระย้ารูปหงส์และพญานาค ซึ่งตกแต่งด้วยปีกแมลงทับและแก้วเจียระไน ทำจากปีกแมลงทับที่ทิ้งตัวตายตามธรรมชาติ ซึ่งมีความคงทน แข็งแรง สีสวยเหลือบเงางามตามธรรมชาติ

สำหรับพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชมได้ทุกวันอังคาร – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 15.30 นาฬิกา บัตรเข้าชมราคา 150 บาท นักเรียน นักศึกษา และผู้สูงอายุ 75 บาท (แสดงบัตรประจำตัว) โดยลูกค้าเอไอเอสที่สนใจเข้าเยี่ยมชมงาน “ศิลป์แผ่นดิน” สามารถรับสิทธิพิเศษส่วนลดค่าเข้าชม มูลค่า 50 บาท เพียงกดรหัส ณ จุดจำหน่ายบัตร (1 หมายเลขต่อ 1 สิทธิ์ต่อเดือน) ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2562

“เซเรเนด ไม่ใช่เพียงสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับแค่ส่วนลด เพราะเอไอเอสตั้งใจมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้คุณสัมผัสได้ทุกวัน ผ่านบริการ สิทธิประโยชน์ และกิจกรรมมากมาย ที่คัดสรรมาอย่างตั้งใจ เพื่อรองรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิต ตอบแทนความรู้สึกดีๆ ที่คุณมีให้เราเสมอมา”

ลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด ติดตามความพิเศษเหนือใครได้ที่ www.ais.co.th/serenade/

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน