“เชิด ขันตี ณ พล”

“พระครูพิพิธสุทธารักษ์” หรือ “หลวงปู่หมื่น ผัคคุโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดปัจจิมเชียงยืน และอดีตเจ้าคณะอำเภอเชียงยืน จ.มหาสารคาม เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เรืองวิทยาคม มีชื่อเสียงโด่งดังในพื้นที่อำเภอเชียงยืน สืบทอดปฏิปทาจากพระครูพิทักษ์โกสุมพิสัย หรือหลวงปู่โม่ง วัดโพธิ์ศรี บูรพาจารย์รุ่นเก่าอีกรูปหนึ่งแห่งเมืองมหาสารคาม

เกิดในสกุลแสงต้น เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2469 ที่บ้านหนองล่าม ต.เหล่าบัวบาน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เป็นบุตรของพ่อก่ำ-แม่ติ่ง แสงต้น ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

ช่วงวัยเด็กหลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านหนองล่าม ได้ลาออกมาช่วยงานครอบครัว เนื่องจากครอบครัวฐานะยากจน

เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์เข้าพิธีอุปสมบท ที่อุโบสถวัดศรีสมพร ต.นาทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม มีพระครูพิทักษ์โกสุมพิสัย วัดโพธิ์ศรี ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นพระอุปัชฌาย์

อยู่จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ณ สำนักเรียนวัดศรีสุทธาราม จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก ต่อมาได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่วัดศรีสมพร 5 พรรษา

ต่อมาได้รับนิมนต์ให้กลับมาจำพรรษาที่วัดศรีสุทธาราม บ้านหนองล่าม

ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาเสนาสนะ สาธารณูปโภค สาธารณูปการภายในวัดอย่างเต็มที่ รวมทั้งก่อตั้งสำนักเรียนเพื่อให้พระภิกษุ-สามเณรได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย โดยไม่ต้องเดินทางไปเรียนไกลถึงในตัวอำเภอ โดยท่านรับหน้าที่เป็นครูสอนเอง

นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจวิทยาคม ขอฝากตัวเป็นศิษย์พระครูพิทักษ์โกสุมพิสัย หรือหลวงปู่โม่ง วัดโพธิ์ศรี จ.มหาสารคาม ซึ่งได้เมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี กันบ้านกันเมือง

พ.ศ.2535 ย้ายไปจำพรรษารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปัจจิมเชียงยืน อ.เชียงยืน จ.มหาสาร คาม และจำพรรษาอยู่วัดแห่งนี้ตราบจนวาระสุดท้ายของท่าน

ลำดับงานปกครองสงฆ์ พ.ศ.2498 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุทธาราม บ้านหนองล่าม พ.ศ.2503 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรี สมพรบ้านแบก พ.ศ.2522 เป็นพระอุปัชฌาย์และรองเจ้าคณะอำเภอเชียงยืน

พ.ศ.2535 เป็นเจ้าอาวาสวัดปัจจิมเชียงยืน พ.ศ.2542 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเชียงยืน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2517 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ที่ พระครูพิพิธ สุทธารักษ์ พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2532 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรรองเจ้าคณะอำเภอ ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2542 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

ส่วนงานด้านการศึกษา ท่านเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมวัดศรีสุทธาราม วัดศรีสมพร เป็นกรรมการตรวจข้อสอบ นักธรรมและธรรมศึกษาวัดมหาชัย เป็นกรรมการสอบบาลีสนามหลวงหน่วยสอบวัดอภิสิทธิ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดปัจจิมเชียงยืน และเป็นประธานกรรมการสอบธรรมสนามหลวง หน่วยสอบอำเภอเชียงยืน

ด้านงานเผยแผ่ เป็นพระธรรมทูตอำเภอเชียงยืน เป็นรองประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำอำเภอเชียงยืน เป็นประธานหน่วยอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน อำเภอเชียงยืน

พร่ำสอนญาติโยมอยู่เสมอว่าเกิด แก่ เจ็บ ตาย แขวนคออยู่ทุกย่างก้าว ดังนั้น จงอย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท ให้ประพฤติปฏิบัติแต่กรรมดี ละเว้นชั่ว จะทำให้ชีวิตตนเองและครอบครัวประสบแต่ความสุขความเจริญตลอดไป

ช่วงปัจฉิมวัยมีอาการอาพาธบ่อยครั้งด้วยโรคชรา สุดท้ายถึงแก่มรณภาพอย่างสงบใน พ.ศ.2546

สิริอายุ 77 ปี พรรษา 57

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน