สืบเนื่องจากวันที่ 20 ม.ค.2558 คณะรัฐมนตรีมีมติให้แต่งตั้ง “สมเด็จพระพุทธชินวงศ์” (สมศักดิ์ อุปสโม) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานกรรมการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ฝ่ายสงฆ์ มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ให้เป็นพุทธอุทยาน ศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยและของโลก

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ได้ตระหนักว่า การจัดโครงการปฏิบัติธรรมของคณะสงฆ์ในแต่ละครั้งที่ผ่านมา สำนักพุทธมณฑลกำหนดสถานที่ให้ใช้พื้นที่ 22 (ใกล้ป่าเวฬุวัน) ของพุทธมณฑล เป็นสถานที่จัดปฏิบัติธรรม โดยจัดโครงการปีละ 4 ครั้ง คือ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธันวาคม สถานที่ปฏิบัติธรรมโดยรวมไม่เป็นสัปปายะต่อการปฏิบัติธรรม สถานที่พักไม่สะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติธรรมไม่สมบูรณ์ และบางครั้งสภาพอากาศไม่อำนวย

การจัดโครงการปฏิบัติธรรมของคณะสงฆ์หนกลาง จำนวน 23 จังหวัด ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีพระสงฆ์ซึ่งเป็นตัวแทนในแต่ละจังหวัดเข้าปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก เช่น วันมาฆบูชา ปีพุทธศักราช 2529 มีพระสงฆ์เข้าปฏิบัติธรรม เป็นจำนวน 1,250 รูป เป็นต้น

การจัดโครงการแต่ละครั้ง ต้องมีการปรับพื้นที่และจัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติธรรม เช่น เต็นท์ปฏิบัติธรรม เต็นท์โรงอาหาร แผ่นปูพื้น ห้องน้ำ เป็นต้น ใช้งบประมาณในการดำเนินการจัดโครงการครั้งละ 4-6 ล้านบาท ในแต่ละปีจึงใช้งบประมาณในการดำเนินการเป็นจำนวนมากถึง 15-20 ล้านบาท

 

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ จึงมีดำริสร้างอาคารถาวร เพื่อสามารถรองรับคณะสงฆ์จากทั่วประเทศและสาธุชนที่จะเข้าปฏิบัติธรรม โดยสร้างเป็นอาคารขนาดกว้าง 50 เมตร ยาว 100 เมตร 2 ชั้น ดังนี้

ชั้นบน ประกอบด้วย ห้องพักพระวิปัสสนาจารย์ ห้องประชุมย่อย ห้องพักพระมหาเถระ มีห้องน้ำในตัว และห้องโถงใหญ่เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สามารถอำนวยความสะดวกต่อผู้เข้าปฏิบัติธรรมได้ครั้งละ 3,000 รูป/คน

ชั้นล่าง ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 28 ห้อง พักได้ห้องละ 50 รูป/คน มีห้องน้ำจำนวน 409 ห้อง แบ่งเป็นโซนบรรพชิตและ โซนฆราวาส พร้อมทั้งมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ

“อาคารปฏิบัติธรรมโพธิญาณมหา วิชชาลัย” เป็นชื่อของอาคารปฏิบัติธรรมแห่งนี้ โดยได้อัญเชิญนามเทียบเคียงจากบทพระราชนิพนธ์ เรื่องพระมหาชนกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตอนที่ทรงคิดวิธีพัฒนาต้นมะม่วงและทรงตั้งมหาวิทยาลัย ชื่อ โพธิยาลัยมหาวิชชาลัย หรือ ปูทะเลมหาวิชชาลัย เพื่อให้การศึกษาแก่พสกนิกร

อาคารปฏิบัติธรรมโพธิญาณมหาวิชชาลัยแห่งนี้ เป็นสถานที่สัปปายะต่อการปฏิบัติธรรมอย่างยิ่ง ได้รับบริจาคงบประมาณในการก่อสร้างจากคณะสงฆ์หนกลาง 23 จังหวัด และสาธุชนผู้มีจิตศรัทธา ใช้งบก่อสร้างทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 108 ล้านบาท

วัตถุประสงค์ในการสร้างอาคารปฏิบัติธรรมโพธิญาณมหาวิชชาลัยนั้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ดำเนินการตามนโยบายการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ให้พุทธมณฑลเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติธรรมของคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อให้เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยและของโลก

ทั้งนี้ ขอเชิญร่วมพิธีมอบอาคารปฏิบัติธรรม “โพธิญาณมหาวิชชาลัย” และทอดผ้าป่าสามัคคีในโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล ณ อาคารปฏิบัติธรรมโพธิญาณมหาวิชชาลัย พุทธมณฑล จ.นครปฐม

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จทรงเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยสมเด็จพระพุทธ ชินวงศ์ ประธานโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล และประธานดำเนินการก่อสร้าง, นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานฝ่ายฆราวาส วันพุธที่ 23 พ.ค.2561 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี กองละ 1,000 บาท และสมทบทุนโครงการอนุรักษ์และพัฒนาพุทธมณฑล โอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 107-0-73791-9 หรือบริจาคโดยตรงที่ 1.สำนักงานพุทธมณฑล นครปฐม 2.วัดพิชยญาติการาม คลองสาน 3.วัดสุวรรณาราม บางกอกน้อย สอบถามรายละเอียด โทร.0-2438-1739, 08-5909-9590

บริจาค 1,000 บาท รับเหรียญฉลอง 25 พุทธศตวรรษ เนื้ออัลปาก้า เลี่ยมกรอบทองไมครอน

บริจาค 2,000 บาท รับพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ เนื้อดิน พุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม โดยพระคณาจารย์ 108 รูป เมื่อปี พ.ศ.2500

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน