ผู้ป่วย ญาติโยม แพทย์ พยาบาล ยิ้ม ยกมือกราบ สาธุ เตียงผู้ป่วยแบบไฟฟ้า 100 เตียง เริ่มใช้งานให้กับผู้ป่วยโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พร้อมสนับสนุนเพิ่มอีก เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานอีก 30 ตัว ย้ำเป้าหมายคือ งานสาธารณะสงเคราะห์ สร้างประโยชน์สังคม ขอทำหน้าที่ในพระพุทธศาสนาให้เจริญงอกงาม
นับตั้งแต่ปลายปี 60 ที่ผ่านมา กองทุนหลวงพ่อพูล โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้เดินหน้าสนับสนุนด้านสาธารณะสงเคราะห์ ในหลากหลายรูปแบบและหนึ่งในนั้นคือการสนับสนุนงานด้านการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม จากการก่อสร้าง อาคาร 100 ปี สาธารณสุข ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น แบ่งเป็นแผนกอาคารอายุรกรรมชาย และหญิง รวมถึงห้องผู้ป่วยพิเศษ ซึ่งก่อนหน้าสิ่งที่ยังขาดคือ เตียงผู้ป่วยและอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ อีกเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ทำการส่งมอบเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า แบบมาตรฐาน ชุดแรกจำนวน 30 เตียง โดยมี นายภิญโญ ประกอบผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธาน นายแพทย์ วีรศักดิ์ ครองลาภเจริญ ผอ.รพ.นครปฐม พร้อมด้วยคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เข้ารับมอบอย่างเป็นทางการ และต่อมาเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำ พร้อมด้วยศิษยานุศิษย์ ได้เข้ามอบเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า อีก70 เตียง จนครบ 100 เตียง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการกับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากขึ้นและรองรับในอาคารใหม่ที่พร้อมเปิดให้การบริการอย่างเป็นทางการ
กระทั่ง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม อาคาร 100 ปี สาธารณสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ โดยเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า จำนวน 100 เตียง ได้ถูกนำมาใช้บริการให้กับผู้ป่วยทั่วไปทั้งชาย หญิง ทั้ง 4 ชั้นของอาคาร อย่างเต็มรูปแบบ แบ่งเป็นตึกอายุรกรรมชาย 1 และ 2 อายุรกรรมหญิง 1 และ 2 เพื่อบรรเทาความหนาแน่นของผู้ป่วยที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วและเสริมศักยภาพในการให้การรักษาอาการป่วยของจังหวัดนครปฐม ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายภิญโญ ประกอบผล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การจัดหาเตียงผู้ป่วยไฟฟ้าให้กับโรงพยาบาลศูนย์นนครปฐมเป็นการสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ และสร้างประโยชน์ให้กับผู้ป่วยที่ต้องการเตียงในการรอรับการรักษา ซึ่งข้อมูลที่ได้มีคือ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม มีจำนวนผู้ป่วยใน ที่ต้องนอนรับการรักษาและพักฟื้นเป็นจำนวนมาก การมีอาคารใหม่ซึ่งยังขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์โดยเฉพาะเตียงผู้ป่วย ซึ่งเมื่อได้รับการบริจาคเป็นเตียงไฟฟ้านั้นจะยกระดับการรักษาให้กับผู้ป่วยที่มารับการรักษามากขึ้นแน่นอน
นางดวงน้อย สามัคคีพร้อมสุข ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วย อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง บอกว่า ได้เข้ามารับการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โดยได้มานอนพักรักษาตัวที่ อาคารอายุรกรรมหญิง 1 ชั้น 4 ซึ่งคนในครอบครัวติดงานกันหมด แต่ก็มีแม่สามีมาเฝ้าที่ห้องผู้ป่วยรวม การมีเตียงไฟฟ้า ทำให้สะดวกสบายมากกับการรักษาตัวเพราะสามารถทำให้ดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้น และญาติที่มาเฝ้าที่เป็นผู้สูงอายุก็สามารถดูแลได้ง่าย
ทำให้เหนื่อยน้อยลงไม่ต้องมีคอยพยุงทุกครั้งในการหมุนเตียงปรับระดับแบบเก่า โดยต้องกราบขอบพระคุณหลวงพี่น้ำฝน ที่มอบเตียงมาให้ผู้ป่วยได้ใช้และเชื่อว่าเป็นประโยชน์กับทั้งผู้ป่วยและญาติ ถ้ามีโอกาสจะขอให้หลวงพี่น้ำฝน บริจาคเข้ามาอีกถ้าเป็นไปได้เพราะเป็นสิ่งที่ดีมากจริงๆ กับทุกคนในโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม
นางพรพิมล ท้วมอ้น พยาบาลวิชาชีพ ประจำอายุรกรรมหญิง 1 กล่าวว่า แม้การสนับสนุนจากภาครัฐเกี่ยวกับอุปกรณ์ทางการแพทย์จะมีเพียงพออยู่กับการใช้งาน แต่การได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภาคเอกชน หรือแม้จะเป็นจากทางวัดไผ่ล้อม ก็จะเป็นการเสริมการทำงานให้กับเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ในการดูแลรักษา ซึ่งกจากการบริจาคเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า โดยหลวงพี่น้ำฝน และเดิมทีเราใช้แบบเก่าที่เป็นเตียงแบบไขมือ ก็ไม่สะดวกสบายแบบปัจจุบัน
ตอนนี้การทำงานทำให้เจ้าหน้าที่สะดวกสบายอย่างเห็นได้ชัดเจน รวมถึงผู้ป่วยและญาติก็สะดวกขึ้นด้วย และการแนะนำวิธีการใช้เพียงไม่นานก็สามารถใช้งานได้ รูปแบบเตียงที่ได้มามีความพร้อมในหลายด้านทั้งความเบาของเตียงและฟังชันการใช้งานที่ง่าย โดยนอกจากจะปรับระดับศรีษะ หัวเข้า ยังยกระดับแบบสูงต่ำ แบบที่เตียมเดิมไม่เคยมี ทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการทางปอด ลดอาการแทรกซ้อนของการนอนติดเตียง เพราะการปรับองศาเตียงทำได้ง่ายก็สามารถทำให้ผู้ป่วยมีสภาวะฟื้นตัวได้ดีขึ้นด้วย
นางสาววัชรินทร์ ทนทาน ผู้ช่วยพยาบาลฯ กล่าวว่า การได้ใช้เตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ถือว่าทุ่นแรงและสะดวกมาก โดยการใช้งานกับผู้ป่วยทั่วไปถือว่าได้ผลดีมาก เพราะเตียงที่ได้มามีระดับการยกหัวเตียงได้รับที่ผู้ป่วยเหมาะสมและตรงความต้องการ ซึ่งที่ผ่านมาประมาณ 1 เดือนเศษ ผู้ป่วยและญาติก็ดีใจที่มีเตียงใหม่ หลายคนตื่นเต้นกับเตียงที่ได้มาตรฐาน
ซึ่งการใช้งานที่สะดวกคือตัวเตียงก็ยกระดับความสูงได้ ยกความชันของด้านหลัง และเตียงเก่าที่มีนั้นใช้งานลำบากเพราะต้องออกแรงมาก วันหนึ่งๆต้องไขเตียงผู้ป่วยหลายเตียงหลายครั้ง ก็มีความเหนื่อยล้าเมื่อได้เตียงระบบไฟฟ้า ทำให้เห็นว่าการทำงานของเราทำได้เร็วขึ้น ตัวผู้ป่วยเครียดน้อยลง เจ้าหน้าที่ก็ลดความเครียด ต้องขอกราบขอบพระคุณหลวงพี่น้ำฝนที่บริจาคมาให้ ตรงนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ตรงกับความต้องการจริงๆ
ด้านพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า ความตั้งใจครั้งแรกที่ได้มีแนวคิดในการมอบเตียงให้กับโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เนื่องจากครั้งที่เคยได้ไปเฝ้าโยมมารดา ที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม พบว่ามีผู้ป่วยชายหญิง คนชรานอนรอรับการรักษากันอย่างหนาแน่น ตามอาคารต่างๆ ก็มีที่พักไม่เพียงพอ เตียงนอนรอและนอนพักฟื้นก็ไม่เพียงพอ ต้องนำเตียงเสริมมานอนตามริมทางเดิน ทำให้เกิดความเห็นใจผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ที่ต้องคอยดูแลผู้ป่วย
ทางวัดไผ่ล้อม มีกองทุนหลวงพ่อพูล โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ได้มีการทำงานด้านพุทธศาสนาภาระกิจหนึ่งนั่นคือ งานสาธารณะสงเคราะห์ ให้กับสังคมอยู่แล้ว ประกอบกับทางโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ได้ติดต่อประสานงานขอรับการบริจาคอุปกรณ์การแพทย์ สำหรับอาคาร 100 ปี สาธารณสุขเข้ามา ซึ่งทางวัดไผ่ล้อมก็ยินดี เพราะเคยได้บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์มาหลายครั้ง ทั้งเครื่องออกซิเจน เครื่องต้มเครื่องมือฆ่าเชื้อ มาหลายแล้ว
“ซึ่งประเด็นที่ว่าทำไมต้องเป็นเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า จำนวน 100 เตียง นั่นพราะอาตมาเล็งเห็นความลำบากของผู้ป่วย ญาติ และแพทย์ พยาบาล การได้เตียงแบบไฟฟ้าน่าจะเกิดประโยชน์ได้มาก จึงได้ระดมทุนร่วมกับศิษยานุศิษย์และเจ้าภาพให้เข้ามาร่วมกันโดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงงานผลิตเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ที่ได้คิดราคาต้นทุนให้ โดย 100 เตียงใช้งบประมาณราว 3 ล้านบาทเศษ
ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าคุ้มค่าเพราะของที่ได้มีราคาไม่แพง เป็นของดีมีมาตรฐาน แข็งแรง น้ำหนักเบา ซ่อมดูแลรักษาง่าย ตรงนี้ อาตมาศึกษาข้อมูลก่อนจะนำมาบริจาคให้ โดยยิ่งได้เห็นมีการนำมาใช้งานแล้วเกิดความสะดวกและผู้ป่วยมีความสุขในยามเจ็บป่วย เจ้าหน้าที่มีความสุขในการทำงาน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ตรงตามจุดประสงค์
ซึ่งตอนนี้ทราบมาว่าเตียงผู้ป่วยไฟฟ้า ยังไม่เพียงพอก็จะเร่งเดินหน้า สนับสนุนอีก 30 เตียง ให้เพียงพอต่อการใช้งาน โดยเน้นไปให้ได้ใช้กับผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยสามัญที่นอนในห้องรวม เพื่อโอกาสที่เสมอภาคกันกับผู้ป่วยในห้องพิเศษ ทั้งนี้อาตมาจะเดินหน้าทำงานด้านพระพุทธศาสนาในการช่วยเหลือสังคมต่อไป แม้บางครั้งจะมีกระแสต่าง ๆ เข้ามากระทบ ก็ต้องอดทน เพื่อทำงานให้สังคมได้ตามเป้าหมายและจะทำสุดกำลังของอาตมานั่นเอง” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย
