“เชิด ขันตี ณ พล”
“พระครูสารกิจประยุต” หรือ หลวงพ่อกาบ ฐานทัตโต เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และยังเป็นพระนักพัฒนา ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนในจังหวัดมหาสารคามและใกล้เคียง
ปัจจุบันสิริอายุ 61 ปี พรรษาที่ 40 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดขุนพรหมดำริ ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม และรองเจ้าคณะอำเภอเมืองมหาสารคาม
มีนามเดิมว่า กาบ วังหอม เกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2500 ณ บ้านเลขที่ 27 หมู่ 14 ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม บิดา-มารดา ชื่อ พ่อเคน และ แม่กว้าง วังหอม
ในวัยเยาว์เรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนบ้านวังแสง ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม
ครั้นเมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดศิริบุรีวังแสง ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม มีพระครูปัญญาภิสาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสถิตสิริคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวรกิจสุนทร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
หลังจากนั้นจำพรรษาอยู่วัดศิริบุรีวังแสง ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอกในเวลา 3 ปี
พ.ศ.2526 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดขุนพรหมดำริ บ้านอุปราช
เมื่อปกครองวัดขุนพรหมดำริ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจพัฒนาวัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสาธารณูปการปรากฏให้เห็นมากมาย อาทิ อุโบสถ ซุ้มประตู กุฏิ ศาลาการเปรียญ เป็นต้น
ร่วมกับชุมชนพัฒนาถนนและขุดบ่อน้ำแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้ง
ส่วนด้านการศึกษาได้ให้ความสำคัญ ท่านรับหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมวัดขุนพรหมดำริมาโดยตลอด
หลวงพ่อกาบเป็นพระที่เคร่งครัดในระเบียบวินัยมาก พระภิกษุ สามเณร ที่มาเรียนกับท่านจะต้องประพฤติตนอยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ทำให้สำนักเรียนแห่งนี้มีชื่อเสียงขจรไกล แต่ละปีมีพระภิกษุสามเณรมาจำพรรษาศึกษาเล่าเรียนเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งยังสนับสนุนการศึกษาโดยใช้ปัจจัยส่วนตัวจัดหาหนังสือรวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ใช้ประโยชน์ทางการศึกษามอบให้แก่ทางสำนักเรียนวัดขุนพรหมดำริ พร้อมจัดหารางวัลให้แก่พระภิกษุสามเณรและเยาวชนที่เข้าสอบความรู้ธรรมสนามหลวงทุกปี
วัตรปฏิบัติที่หลวงพ่อกาบดำเนินมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี คือ ทุกวันพระท่านจัดอบรมธรรมะ มุ่งเน้นการปฏิบัติเป็นหลัก ด้วยเชื่อว่าการฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานจะสามารถทำให้ญาติโยมเป็นผู้มีสติมีจิตใจที่เข้มแข็ง
และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับญาติโยม ได้ปรับปรุงบรรยากาศภายในบริเวณวัดให้ร่มรื่นย์สวยงามโดยการปลูกต้นไม้ไว้จำนวนมาก และได้ก่อสร้างรีสอร์ตธรรมะขึ้นภายในบริเวณด้านหลังวัดจำนวน 21 หลัง เพื่อเป็นที่พักและสถานที่ให้ญาติโยมได้ปฏิบัติธรรมอย่างเงียบสงบ และเป็นสัดส่วน
พ.ศ.2537 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นโท ที่พระครูสารกิจประยุต พ.ศ.2548 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลท่าสองคอน เขต 1
พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เทียบเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม