พระอาจารย์สุบิน ปณีโต เครือข่ายสัจจะสะสมทรัพย์
“พระอาจารย์สุบิน ปณีโต” วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.ตราด เป็นพระสงฆ์ นักคิด นักปฏิบัติ นักพัฒนาที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนด้วยหลักเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ
ท่านก่อตั้ง “เครือข่ายสัจจะสะสมทรัพย์ เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต” ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 500 แห่ง มีเงินสะสมจำนวนมหาศาล
มีนามเดิม สุบิน สัมมา เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 ต.ค.2496 ที่บ้านเกาะขวาง ต.ห้วยแร้ง อ.เมือง จ.ตราด เป็นบุตรคนที่ 8 ของนายนำชัย และนางชม สัมมา
จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนจุฬามณี ต.ห้วยแร้ง ที่บ้านเกิด
อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท โดยมี พระครูธรรมนิตยากูล วัดเนินทราย เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิธานธรรมนิเทศน์ วัดบางปรือ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูศุภกิจวิบูลย์ วัดวิเวกวราราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ปณีโต อันมีความหมายว่า ผู้มีความอ่อนน้อมดียิ่ง หรือ ผู้มีความละเอียดประณีต
มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม จนสำเร็จนักธรรมชั้นเอก และฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐาน รวมทั้งได้ธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งทำให้พบเห็นปัญหาในสังคมที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งปัญหาการทำมาหากิน การศึกษา และปัญหาสังคม
ส่วนใหญ่ปัญหาเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอก แต่ชุมชนอยู่ในภาวะต้องตั้งรับและจำยอม
ท่านจึงบรรลุแนวคิดว่า การสอนธรรมะด้วยการเทศนาอย่างที่เป็นอยู่เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอ ต้องสอนให้รู้จักทำด้วยคือ สอนแล้วชวนทำ
อีกทั้งเห็นว่า การสะสมเงินทีละน้อยๆ น่าจะเป็นวิธีการช่วยเหลือชาวบ้านได้บ้าง
ออกแสวงหาความรู้เพิ่มเติม โดยเดินธุดงค์ไปทางภาคใต้ ปักหลักที่ จ.สตูล พูดคุยกับชาวบ้านเพื่อรับทราบข้อมูลต่างๆ ของหมู่บ้าน รวมถึงวิธีการแก้ไข
ต่อมาจึงธุดงค์ไปที่บ้านน้ำขาว อ.จะนะ จ.สงขลา เพื่อสนทนาและศึกษารูปแบบการทำกลุ่มออมทรัพย์จากครูชบ ยอดแก้ว เป็นเวลา 3 เดือน
ในที่สุด มีความเห็นว่าแนวคิดกลุ่มออมทรัพย์ของครูชบ เป็นรูปแบบการช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคนในชุมชน สามารถแก้ปัญหาและสร้างความเห็นอกเห็นใจต่อกันได้
ราวปี พ.ศ.2532 พระสุบินได้เริ่มงานชิ้นแรกที่บ้านถ้ำน้ำ บ่อ ต.บ้านนา จ.พัทลุง ซึ่งยังไม่ประสบผลสำเร็จนัก แต่ก็ทำ ให้ท่านได้ทราบข้อจำกัดและปัญหาการตั้งกลุ่มมากขึ้น จึงย้อน กลับไปทำความเข้าใจการจัดตั้งกลุ่มครูชบอีกครั้งหนึ่ง
จนท่านมั่นใจในแนวทาง “ธรรมะนำการเงิน” ตามหลักเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธมากขึ้น
พ.ศ.2533 พระสุบินเดินทางกลับมายัง จ.ตราด เพื่อทดลองตั้งกลุ่ม
พ.ศ.2535 พระครูสังฆรักษ์ทรงวุฒิ อนาวิโล รองเจ้าอาวาสวัด ไผ่ล้อม ต.บางพระ อ.เมืองตราด ได้ชวนมาจำพรรษาที่วัด เพราะเห็นด้วยกับแนวคิดของพระสุบิน ในการสอนควบคู่กับการชวนทำ
ณ วัดไผ่ล้อม พระอาจารย์สุบินทำงานเผยแผ่ธรรมะโดยการนำเรื่องการออมทรัพย์เป็นเครื่องมือ โดยใช้ชื่อว่า “กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์เพื่อพัฒนาคุณธรรมครบวงจรชีวิต”
ท่านให้นิยามที่มาของชื่อกลุ่มว่า หมายถึงเงินที่ฝากไว้จะกลับคืนมาดูแลผู้ฝากตั้งแต่เริ่มแรกจวบจนหมดลมหายใจ พูดเชื่อมโยงการออมทรัพย์สอดแทรก คำสอน เปรียบเทียบการฝากเงินสะสมทีละเล็กทีละน้อย แล้วเก็บเกี่ยวกำไรจากเงินสะสม เช่นเดียวกับการปลูกต้นไม้ โตขึ้นก็เก็บกินผลไม้ ใบร่วงหล่นลงมาเป็นปุ๋ยของตัวมันเอง
นอกจากใช้หลักธรรมในการตั้งกลุ่มแล้ว พระอาจารย์สุบิน ยังให้ชาวบ้านกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ พระสวด ชยันโตก่อนเข้าเป็นสมาชิก เน้นชี้ให้ชาวบ้านเห็นปัญหาของสังคมว่าสังคมหมู่บ้านถูกเอารัดเอาเปรียบในทุกด้าน จึงต้องรวมตัวกันจัดการเรื่องการเงินกันเอง
ทุกวันนี้ กลุ่มสัจจะสะสมทรัพย์ฯ แพร่ขยายไป ทั่วประเทศ และเครือข่ายพระสงฆ์เพื่อการพัฒนา ยังเชื่อมโยงไปสู่การส่งเสริมกิจกรรมชุมชนอีกหลายอย่าง เช่น กิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ, กิจกรรมการปลูกพืชด้วยปุ๋ยอินทรีย์และน้ำสกัดชีวภาพ, กิจกรรมการค้าปลีกโดยชุมชน เป็นต้น
กิจกรรมเหล่านี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานการใช้ธรรมะนำทั้งสิ้น เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่จะให้คนในสังคม เอื้ออาทรและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านให้พ้นจากวังวนของความยากจน ด้วยหลักเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ