หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย วัดป่าโคกหม่อน จ.สุรินทร์

อริยะโลกที่6 : หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย เจ้าอาวาสวัดป่าโคกหม่อน บ้านเฉนียง ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นพระปฏิบัติธรรมสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

เกิดเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2467 เลือดเนื้อเชื้อสายแขมร์ สะเร็น เป็นลูกคนที่ 5 ในจำนวนพี่น้อง 5 คน ครอบครัวประกอบอาชีพปักดำทำนาไร่

หลวงปู่เอียน ฐิตวิริโย

จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนบ้านทมอ อ.ปราสาท จากนั้นช่วยงานครอบครัวทำมาหากินทำไร่ทำนา

ในปี พ.ศ.2498 อายุ 30 ปี ได้พบ หลวงปู่สาม อกิญจโน พร้อมชักชวนให้ลงภาคใต้ เพื่อเข้าบรรพชาที่วัดไม้ขาว ประกอบพิธีในอุทกุกเขปสีมา (โบสถ์น้ำ) อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยมี พระครูนิโรธรังสี หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอาจารย์วัน อุตตโม เป็นพระคู่สวด

หลังบวชไปจำพรรษาที่วัดเจริญสมณกิจ (หลังสวน) อ.เมือง ภูเก็ต เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงปู่เทสก์ 1 พรรษา

ต่อมาย้ายไปจำพรรษาที่วัดท่าฉัตรชัย จ.ภูเก็ต 1 พรรษา จึงเข้าอำลาหลวงปู่เทสก์กลับมาตุภูมิ และได้พบหลวงปู่สาม อกิญจโน สร้างที่พักสงฆ์ในป่าละเมาะริมถนนสายสุรินทร์-ปราสาท ก.ม.12 บ้านตระงอน ต.นาบัว ขณะนั้นยังไม่สร้างเป็นวัดป่าไตรวิเวก อยู่ จำพรรษากับหลวงปู่สาม 1 ปี แล้วย้ายไปจำพรรษาที่วัดป่าศรัทธาราม จ.นครราชสีมา 3 พรรษา แล้วลงภาคใต้อีกครั้งเพื่อนมัสการหลวงปู่เทสก์ ก่อนไปตระเวน จำพรรษาในเขตพื้นที่ จ.กระบี่ และจ.พังงา 4 พรรษา

ขึ้นภาคอีสานนมัสการหลวงพ่อโชติ คุณสัมปันโรน วัดวชิราลงกรณ์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังทราบว่าหลวงปู่สามแนะนำให้ไปบวชกับหลวงปู่เทสก์จึงรับไว้เป็นศิษย์ สอนวิปัสสนากรรมฐาน 6 พรรษา ย้ายไปจำพรรษาที่วัดบ้านตะเคียน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 1 พรรษา จึงย้อนกลับไปเยี่ยมบิดา-มารดา ญาติโยมต่างเห็นว่าหลวงปู่เอียนแสวงหาวิเวกปฏิบัติธรรมเนิ่นนาน อายุเริ่มชราจึงหาวัดใกล้บ้านเกิด

พ.ศ.2518 ชาวบ้านนิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโคกหม่อน ทำให้เนื้อที่ 7 ไร่ มีต้นไม้ร่มรื่น

ต่อมามีลูกศิษย์ทั้งข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ประชาชนแวะเวียนมาทำบุญสม่ำเสมอ มีเงินจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมเป็น 17 ไร่ สร้างเมรุ และถาวรวัตถุอื่นๆ มีเนื้อที่ปลูกผักสวนครัว มะม่วง น้อยหน่า มะนาว และผลไม้หลากหลายชนิดแจกจ่ายให้ราษฎร และจัดเก็บปรุงอาหารเลี้ยงพระภิกษุ

พ.ศ.2530 ได้จัดตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษา ให้เด็กนักเรียนยากจน ปัจจุบันมีเงินทุน 1 ล้านบาท โดยมอบเงินทุนให้ในวันวิสาขบูชาของทุกๆ ปี พร้อมนี้ยังได้จัดตั้งมูลนิธิวัดป่าโคกหม่อนขึ้นเพื่อปฏิสังขรณ์วัด และเป็นทุนการศึกษาให้พระภิกษุสามเณร เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2537 หลวงปู่เอียนได้ทำพินัยกรรม 1 ฉบับ เพื่ออุทิศร่างกายให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เลขที่ 229/2537

ด้วยวัตรปฏิบัติดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้เป็นที่เคารพศรัทธาในหมู่ญาติโยมอย่างรวดเร็ว ได้รับการยกย่องทั้งจากพุทธศาสนิกชนและคณะสงฆ์ว่าเป็นพระกัมมัฏฐานรูปหนึ่งที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ

ครั้งนี้ชื่อเสียงหลวงปู่ดังขจรขจายไปในหลายจังหวัดของภาคอีสาน

คติธรรม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นทุกข์ เพราะความยึดถือ ของทุกอย่างต้องปล่อยให้ว่าง นี่คือเป้าหมายที่ตั้งไว้

เหตุที่อุปสมบท เนื่องจากสะดุดใจกับคำสอน ปุตโต คีเว แปลว่า บุตรผูกคอ ธนปาเท แปลว่า ทรัพย์ผูกเท้า ภริยา หัตเถ แปลว่า ภรรยาผูกมือ เมื่อมีคนตายทำไมถึงต้องมัดตราสัง เหตุที่มัดเพราะต้องการให้คนพิจารณาปริศนาธรรม

ด้วยเหตุนี้ หลวงปู่เอียนจึงไปอุปสมบทใช้ชีวิตสมถะ ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ มุ่งเน้นการเรียน ปฏิบัติธรรมเป็นหลัก

ทุกวันนี้ หลวงปู่เอียน ในวัย 94 ปี ยังคงมุ่งมั่นทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ด้วยความรู้ ความสามารถ และความเสียสละ บำเพ็ญคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติบ้านเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน