คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง
ราม วัชรประดิษฐ์
ใกล้เทศกาลตรุษจีนเข้ามาทุกที เทพเจ้าจีนอีกองค์หนึ่งที่จะขาดเสียไม่ได้เลย คือ ไท้ส่วยเอี๊ย หรือ เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ซึ่งนับเป็นเทพเจ้าที่มีความสำคัญมากองค์หนึ่งของชาวจีน ชาวไทยเชื้อสายจีน รวมไปถึงชาวไทย ด้วยเป็นเทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ และมีอิทธิพลอย่างมากต่อชะตาชีวิตของมนุษย์ในแต่ละปี
ตามหลัก โป๊ยยี่สี่เถี่ยว หรือโหราศาสตร์จีน ในแต่ละปี ดวงชะตาชีวิตของแต่ละคนจะเปลี่ยนแปลงไปตามปีนักษัตรต่างๆ ทั้ง 12 นักษัตร จะมีทั้งดี ที่คนจีนเรียก “ฮะ” คือ ส่งเสริมกัน และที่ไม่ดี เรียกว่า “ชง” หมายถึงการเป็นปฏิปักษ์หรือปะทะกัน ถ้าปีใด ส่งเสริมกันก็จะทำให้เจ้าชะตาชีวิตมีความเจริญรุ่งเรือง ประสบแต่ความสำเร็จสมหวัง แต่ถ้าปีใดเป็นปีปฏิปักษ์ต่อกัน ก็จะทำให้ชีวิตของเจ้าชะตามีแต่อุปสรรคและความไม่ราบรื่นในการดำเนินชีวิตในช่วงปีนั้นๆ
คำว่า “ไท้ส่วย” ยังมีความหมายถึง “ดาวพฤหัสบดี” ในภาษาจีนโบราณ ซึ่งในความเชื่อทางโหราศาสตร์ไทยนั้น ดาวพฤหัสบดี ถือเป็นประธานแห่งดาวศุภเคราะห์ หมายถึง คุณธรรม ความดี โชคลาภ และทรัพย์สิน ดังนั้นจึงมีความสอดคล้องกับทางโหรา ศาสตร์จีน ว่า หากปีนักษัตรใดที่เป็นปฏิปักษ์กับดาวพฤหัสบดี เจ้าชะตาก็จะประสบอุปสรรคในทุกๆ ด้านเช่นกัน
ไท้ส่วยเอี๊ย จะเป็นเทพเจ้าที่เสด็จลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อคุ้มครองดวงชะตาของมวลมนุษย์ ซึ่งตามโหราศาสตร์จีนที่นับตามหลัก “จับกะจื้อ” จะมีทั้งหมด 60 พระองค์ สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนประจำในแต่ละปี เรียกว่า “เฝ้าปี” โดยแต่ละพระองค์ก็จะมีชื่อเรียกขานต่างกันไป และจะมีอิทธิพลให้คุณให้โทษแก่เจ้าชะตาในแต่ละนักษัตรแตกต่างกันไปด้วยเช่นกัน โดยเรียกชื่อปีนักษัตรต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบตามภาษาจีน ดังนี้ “ปีชง” คือ ปีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันโดยตรง จะได้รับผลกระทบมากที่สุด “ปีคัก” คือ ปีที่เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนั้นๆ “ปีเฮ้ง” คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเคราะห์กรรม และ “ปีผั่ว” คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ
สำหรับปี พ.ศ.2560 นี้ เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยที่เสด็จลงมายังโลกมนุษย์ เป็นเทพคุ้มครองดวงชะตาประจำปีเต็งอิ้ว ทรงพระนามว่า “ถั่งแช้ไต่เจียงกุง” หรือ “ถังฉาต้าเจียงจวิน” ตามตำนานกล่าวว่า …
“เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย “ถั่งแช้ไต่เจียงกุง” เดิมนามว่า ถังเจี๋ย นามรองว่า จื้อเหวิน เป็นชาวเมืองอันเชียง ในสมัยราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907) (ปัจจุบันคือ อำเภออันเซียง มณฑลหูเป่ย) ได้ศึกษาวิชาการต่อสู้แต่ยังเยาว์ มีพละกำลังมหาศาล สอบได้บัณฑิตจวีเหรินประเภทบู๊ และเชี่ยวชาญการรบจนสามารถปราบปรามจลาจลทางภาคใต้ได้อย่างราบคาบ กระทั่งราชสำนักพระราชทานความดีความชอบด้วย “ชุดปักดิ้นลายงูเหลือม” อันเป็นเกียรติยศแห่งความกล้าหาญที่สูงส่ง”
เมื่อ องค์ไท้ส่วยเอี๊ย “ถั่งแช้ไต่เจียงกุง” เสด็จลงมายังโลก จะส่งผลกระทบต่อ 4 ปีนักษัตร คือ
– ปีเถาะ ถือเป็น ปีชง
– ปีระกา ถือเป็น ปีคัก
– ปีมะเมีย ถือเป็น ปีเฮ้ง
และ – ปีชวด ถือเป็น ปีผั่ว
ดังกล่าวมานี้ “ปีเถาะ” จะเป็นปีที่เป็นปฏิปักษ์หรือปะทะโดยตรง (ชง) จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนปีที่เหลือจะเรียกว่า “ปีชงร่วม” ซึ่งได้รับผลกระทบลดหลั่นกันลงมา ผู้ที่เกิดใน 4 นักษัตรนี้ จะต้องไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย เพื่อฝากดวงชะตาต่อพระองค์ ด้วยเชื่อว่าอำนาจบารมีของพระองค์จะปัดเป่าเคราะห์ร้าย อุปสรรค และเภทภัยต่างๆ บรรเทาความเดือดร้อน แก้กรรม และประทานความสุขความสิริมงคลมาสู่เจ้าชะตา
แต่ไม่ว่าจะชงหรือไม่ก็ตาม การไหว้ “เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย” ถือเป็นความเชื่อและธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติของชาวจีนและผู้มีเชื้อสายจีนทั่วโลกที่มีสืบต่อกันยาวนานนับพันปี ในทุกๆ ปี ช่วงเปลี่ยนนักษัตรของจีน คือ “ช่วงวันตรุษจีน” เพื่อเป็นการฝากดวงชะตาต่อ “เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย” ผู้ที่มีเคราะห์ (ชง) ก็จะทุเลาเบาลง เป็นการสะเดาะเคราะห์ แปรจากร้ายให้กลายเป็นดี ผู้ที่เกิดในปีดีอยู่แล้ว (ฮะ) ก็จะเป็นการเสริมดวงชะตาให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เกื้อหนุนให้มีโชคลาภรุ่งเรือง มั่งคั่ง และเป็นสิริมงคลแก่ตน
เคล็ดสำคัญในการไหว้ฝากดวงชะตาต่อองค์ “ไท้ส่วยเอี๊ย” เจ้าชะตา จะต้องให้ความเคารพศรัทธาอย่างจริงใจและกราบไหว้ด้วยความตั้งใจมั่น จึงจะสัมฤทธิผลตามความปรารถนา
นอกจากนี้ยังมีผู้กล่าวว่า จะให้เป็นมงคลสุดๆ ควรไปไหว้ขอบคุณ “ไท้ส่วยเอี๊ยองค์ก่อน” ในช่วงก่อนตรุษจีน แล้วหลังตรุษจีนจึงไปไหว้ “ไท้ส่วยเอี๊ยองค์ใหม่” เพื่อขอให้คุ้มครองดวงชะตาให้ราบรื่นและโชคดีในปีใหม่นี้ครับผม
