‘ธรรมะคือความจริง’ นพ.วัฒนา สุพรหมจักร

ข่าวสดพระเครื่อง : “นพ.วัฒนา สุพรหมจักร” ใช่จะเป็นหมอผ่าตัดที่เชี่ยวชาญคนหนึ่งของเมืองไทยเท่านั้น แต่ยังมีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างลึกซึ้ง และถือเป็นสานุศิษย์คนสำคัญที่ได้นำแนวทางการสอนเรื่องการเจริญสติของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ ซึ่งได้มีโอกาสดูแลรักษาเกจิอาจารย์ชื่อดังรูปนี้อย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะละสังขารเมื่อ ปี 2531

นพ.วัฒนา สุพรหมจักร

ล่าสุดโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” จัดโดย ซีพี ออลล์ ได้เชิญคุณหมอวัฒนา เป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “ธรรมะคือความจริง มิใช่เรื่องศรัทธา”

นพ.วัฒนาเกริ่นนำว่า คนปัจจุบันเอาเงินเป็นที่ตั้งเห็นความมั่งคั่งคือจุดหมาย กระวนกระวายกับความโลภของตนเอง ไม่ยำเกรงบุญบาปและศีลธรรม เคยถามเรื่องนี้กับหลวงพ่อเทียน ท่านบอกว่าที่เราเรียกว่าเงิน เป็นเพียงกระดาษเท่านั้นเอง เมื่อใช้มีคนยอมรับถึงจะมีราคา แต่เงินซื้อได้แค่ 2 อย่าง คือ ความสะดวกกับความพอใจ แต่ซื้อความหมดทุกข์ ไม่ได้

นพ.วัฒนา แจกแจงให้ฟังว่า ส่วนใหญ่การนับถือศาสนาพุทธในบ้านเราจะเป็นระดับศรัทธา เป็นความศรัทธาแบบฟังชัดพูดเข้าใจแต่พอไปถึงบ้านสงสัย เพราะความเชื่อที่ขึ้นแก่ศรัทธาเหมือนความเชื่อที่เป็นสีเทา ออกแดดดูขาว เข้าร่มมาดูดำ ตัดสินใจไม่ถูก แต่แท้ที่จริงแล้วคำสอนพุทธศาสนาเป็นเรื่องขาวดำ ขาวดำคือว่ามันไม่มีข้อสงสัย ถ้ารู้จริง

“ธรรมะต้องหาความจริงไม่ใช่แค่ศรัทธา มีศรัทธาดี เป็นสิ่งที่ดีแล้ว เป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ขอให้พัฒนาต่อเพื่อให้เกิดปัญญา”

“มีคนในยุคปัจจุบันพยายามอ้าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ว่านับถือพุทธศาสนา ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าไอน์สไตน์ เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดีเด่นของโลกคนหนึ่ง แต่สิ่งที่ไอน์สไตน์พูดเกี่ยวกับพุทธศาสนานั้นน่าฟังมาก ท่านบอกว่าวิทยาศาสตร์ ที่ไม่มีศาสนาร่วม ด้วยเป็นของที่ไม่สมประกอบ แต่ศาสนาไม่มีวิทยาศาสตร์คือตาบอด ศาสนาที่เราเชื่อด้วยศรัทธาอย่างเดียวบางทีไปไม่ได้เพราะว่ามีศรัทธาอย่างเดียว กลายเป็นเรื่องงมงายได้ ฉะนั้นก็เหมือนกับคนตาบอดอย่างที่ไอน์สไตน์พูด”

นอกจากนี้ คุณหมอวัฒนายังเล่าให้ฟังว่า ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้าเคยถามกับทาง ผู้นับถือศาสนาเชนว่าอดีต ปัจจุบัน อนาคต อะไรสำคัญที่สุด ทางศาสนาเชนบอกว่าอดีต เพราะได้ทำกรรมในอดีตถึงมาเกิดในปัจจุบัน แต่พระพุทธเจ้าบอกไม่ใช่ แท้ที่จริงแล้วที่สำคัญที่สุดในเรื่องกรรม คือมโนกรรม ความคิดสำคัญที่สุด

ส่วนในเงื่อนเวลา พระพุทธเจ้าระบุปัจจุบันสำคัญที่สุด ด้วยเหตุว่าอดีตผ่านไปแล้วแก้ไม่ได้ เราหมุนนาฬิกาย้อนกลับไม่ได้ อนาคตเป็นสิ่งที่เรากะไม่ได้ รู้แต่ว่าปัจจุบันที่เราทำได้ถ้าทำปัจจุบันให้ดี ไปถึงวันพรุ่งนี้ วันนี้ก็จะเป็นอดีตที่ดีของพรุ่งนี้ ถ้าเกิดเราตั้งใจดีอยู่แล้วคงจะไม่เลวร้ายสำหรับวันรุ่งขึ้น เพราะฉะนั้นให้อยู่ที่ปัจจุบัน

หากได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์อย่างถ่องแท้จะรู้ว่าทรงชี้แนะแนวทางการใช้ชีวิตไว้ให้ผู้คนในโลกใบนี้ไว้แล้ว อย่างที่คุณหมอวัฒนาย่อยออกมาเป็นภาษาง่ายๆ ให้ฟังว่า พระพุทธเจ้าสอนว่าคนจะมีความสุขในปัจจุบันต้องทำ 4 อย่าง

1.ต้องมีอาชีพ เมื่อมีอาชีพแล้วต้องพัฒนาอาชีพตัวเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป มีความรับผิดชอบ

2.ต้องรู้จักรักษาทรัพย์ที่หามาได้ อันทรัพย์ที่หามาได้ จากเหงื่อจากแขน 2 ข้าง หาได้โดยชอบธรรมเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ต้องรู้จักรักษาไม่ให้ไฟไหม้ไม่ให้น้ำท่วมไม่ให้โจรขโมยมาลักขโมย

3.ต้องมีกัลยาณมิตรคือมีเพื่อนที่ดี เพื่อนที่ดีอธิบายได้หลายอย่าง แต่แบบภาษานอกวัดคือ พูดแล้วสติปัญญาดีขึ้น นี่คือกัลยาณมิตร

4.เมื่อครบ 3 อย่างแล้วต้องเลี้ยงชีพให้พอเหมาะ อย่าให้ฟุ่มเฟือยจนเกินไป อย่าให้ขัดเคือง คับแค้นจนเกินไป ถ้าผู้ใดมีฐานะแล้วเลี้ยงชีพด้วยความฝืดเคืองจะตายอย่างคนอนาถา และในการใช้ทรัพย์สินนั้นให้เหมือนกับน้ำเข้ามากกว่าน้ำออก

สรุปแล้วคุณหมอวัฒนาได้แจกแจงให้เห็นแล้วว่าพระพุทธองค์ทรงแนะนำและชี้ทางสว่างให้กับมวลมนุษย์ไว้เรียบร้อยแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเราๆ ท่านๆ จะดำเนินชีวิตมุ่งสู่แนวทางพ้นทุกข์ได้มากน้อยแค่ไหน

ผู้ที่สนใจเข้ารับฟังธรรมบรรยายกับโครงการ “เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ” ได้ที่อาคารซีพี ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนสีลม ทุกวันศุกร์ เวลา 12.00-13.30 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

อ่านข่าวพระเครื่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน