หลวงพ่อสีทน กมโล วัดภูพร้าว อุบลราชธานี

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

หลวงพ่อสีทน กมโล วัดภูพร้าว อุบลราชธานี – พระครูกมลภาวนากร” หรือ หลวงพ่อสีทน กมโล วัดสิรินธรวราราม (ภูพร้าว) .อุบลราชธานี พระเถระ ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ ที่มีความเคร่งครัดต่อพระธรรมวินัย และทำประโยชน์ต่อส่วนรวมมากมาย เช่น เป็นหลักชัยให้กับทหาร ตำรวจ และผู้ยากไร้ตามแนวชายแดน

หลวงพ่อสีทน กมโล 

เป็นศิษย์ของ หลวงปู่บุญมาก ฐิติปัญโญ ซึ่งเป็นศิษย์ของ หลวงปู่เสาร์ พัฒนาวัดภูหล่น จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่หลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่นมาสร้างขึ้น

ต่อจากนั้นได้มาพัฒนาวัดภูพร้าว หรือวัดสิรินธรวราราม ที่ ต.ช่องเม็ก ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นวัดเก่าของหลวงปู่บุญมาก

มีนามเดิมว่า สีทน รักพงษ์ เกิดเมื่อพ..2493 ที่บ้านดอกจิก ต.ดอกจิก อ.พิบูล มังสาหาร จ.อุบลราชธานี ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

อายุ 22 ปี เข้ารับการอุปสมบท ณ วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี เมื่อ พ..2515 โดยมี พระครูวิบูลธรรมภาร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมศรี อุตตโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระบุญเย็น โรจโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “กมโล”

ศึกษาพระปริยัติธรรม และชอบธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อแสวงหาความสงบวิเวก ธุดงค์ไปอยู่ประเทศลาว 3 ปี จนประเทศลาวเปลี่ยนแปลงการปกครองประมาณปี พ..2517-2518 จึงได้กลับประเทศไทย ระหว่างที่ธุดงค์อยู่ที่ประเทศลาวนั้น ได้พบและอยู่ปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์หลายรูป

เช่น หลวงปู่บุญมาก ฐิติปัญโญ ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เสาร์ และยังได้ไปปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่กิ ธัมมมุตโต วัดป่าสนามชัย ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่บุญมาก

เป็นครูบาอาจารย์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบที่น่าเคารพ วาจาท่านศักดิ์สิทธิ์มาก ซึ่งท่านได้มรณภาพไปเมื่อปี พ..2525 ส่วนหลวงปู่กิท่านได้มรณภาพไปเมื่อปี พ..2542

แนะนำวิธีอยู่ป่าคนเดียว สอนให้เห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา

ตอนนั้นท่านตั้งใจภาวนามาก อยู่ตามป่าเขา แต่ก่อนนี้เวลาบำเพ็ญเพียรเต็มที่จิตอยากจะพูด แล้วสิ่งที่พูดนั้นเป็นความจริงเสียด้วย รู้ไปหมดว่าใครเป็นอะไรมาแต่ก่อน มองเห็นกายทิพย์กายหยาบอยู่ด้วยกัน บางทีเขามานิมนต์แทนที่จะเดินลงทางบันได กลับออกไปทางหน้าต่างแทน ซึ่งอันนี้อันตรายมาก ครูบาอาจารย์ต้องมาช่วยกันแก้ไข ทั้งนี้ เนื่องจากจิตตึงเครียดเกินไป ต้องค่อยๆ ผ่อนให้สบายๆ พักผ่อนให้มากขึ้น อาการนั้นก็จะหายไปเอง

ปี พ..2528 ไปพัฒนาวัดภูหล่น ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่นับเป็น 100 ปี ซึ่งแต่ก่อน หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ท่านได้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ การมาสร้างวัดภูหล่นนี้มาตามนิมิตตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว ในระหว่างนั้นท่านได้มาคอยอุปัฏฐาก หลวงปู่กิ จึงต้องเดินทางไปมาระหว่างวัดหลวงปู่กิและวัดภูหล่น

สำหรับที่ภูพร้าวนี้เป็นวัดเก่าของหลวงปู่บุญมาก ซึ่งท่านก็เป็นครูบาอาจารย์เช่นกัน จึงได้ขึ้นมาพัฒนาวัดภูพร้าวอีกวัดหนึ่งผลงานที่หลวงพ่อสีทนได้ทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม นอก จากการเผยแผ่ธรรมะ ซึ่งเป็นงานสำคัญของพระสงฆ์แล้ว ขณะที่ท่านมาสร้างวัดที่ภูพร้าว ได้เห็นทหารตำรวจชายแดนเขาลำบากมาก ท่านจึงได้ไปช่วยสร้างที่พักให้เขา หาน้ำหาไฟฟ้าไปให้ใช้ ทหารจึงรักท่านมาก

ในด้านการส่งเสริมการศึกษาของเด็กและเยาวชน ท่านได้หาทุนอาหารกลางวัน ซื้อรถจักรยานบริจาค เด็กๆ จะได้ใช้เดินทางไปโรงเรียนเพราะบางแห่งบ้านอยู่ไกลโรงเรียนมาก ไม่มีรถโดยสารเหมือนในเมือง การได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และส่วนรวมทำให้เกิดความสุข ผู้เสียสละและทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยไม่หวังสิ่งตอบ แทนย่อมเป็นบุคคลที่โลกต้องการ แม้แต่เทวดาเขาก็รู้และอนุโมทนา

มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 21 ..2549 เวลา 04.15 . ด้วยโรคเนื้องอกที่ตับ

สิริอายุ 56 ปี พรรษา 34

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน