คอลัมน์ อริยะโลกที่6

“พระธรรมสิทธิมงคล” หรือ“พ่อท่านฉิ้น โชติโก” อดีตเจ้าอาวาสวัดเมืองยะลา และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดยะลา

ท่านเป็นแม่ทัพธรรมค้ำจุนพระพุทธศาสนา เสริมสร้างสันติสุขให้กลับคืนสู่ดินแดนปักษ์ใต้ อีกทั้งเป็นพระเกจิอาจารย์สายตรง “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” และเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร แห่งวัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี

มีนามเดิมว่า ฉิ้น ทองกาวแก้ว เกิดเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2469 ที่บ้านเลขที่ 129 หมู่ที่ 1 ต.วัดสน อ.ระโนด จ.สงขลา พ.ศ.2485

บรรพชาที่วัดสามบ่อ โดยมีพระครูปทุมธรรมธารี เจ้าอาวาสวัดสามบ่อ เป็นพระอุปัชฌาย์

อายุครบ 21 ปี อุปสมบท โดยวิธีญัติกรรม(สวดญัติ) เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2490 ที่พัทธสีมาวัดสามบ่อ มีพระครูปทุมธรรมธารี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการคำ วัดสน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์แคล้ว วัดสามบ่อ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับสมณฉายาว่า โชติโก แปลว่า ผู้มีธรรมอันเจริญรุ่งเรือง

หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านเดินทางกลับมาศึกษาเล่าเรียนอยู่จำพรรษาที่วัดพุทธภูมิดังเดิม

พ.ศ.2492 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค และสอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักวัดพุทธภูมิ อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมกับเริ่มงานรับภารกิจคณะสงฆ์ในการอบรมข้าราชการใน อ.รามัน จ.ยะลา

พ.ศ.2494 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค จากสำนักวัดพุทธภูมิ อ.เมือง จ.ยะลา ในปีเดียวกันนั้น ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพุทธภูมิ และเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนไปด้วย

ในปี พ.ศ.2495 สืบเนื่องจากจังหวัดยะลา มีการย้ายสถานที่สร้างศาลากลางจังหวัดหลังใหม่แทนหลังเดิม เพื่อให้เป็นไปตามโบราณราชประเพณีจึงสมควรสร้างวัดในพระพุทธศาสนาไว้คู่กัน ดังนั้น คณะรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน 1174 จำนวนเนื้อที่ 55 ไร่ 51 งาน 12 ตารางวา ให้เป็นที่ตั้งวัด หลังจากนั้น 4 ปี พ.ศ.2506 กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศแต่งตั้งสำนักสงฆ์ขึ้นเป็นวัด มีชื่อว่า วัดเมืองยะลา ครั้นต่อมาในปี พ.ศ.2507 พระมหาฉิ้น โชติโก ได้รับตราตั้งให้มาดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดเมืองยะลา เป็นรูปแรก ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เป็นวัดอันดับที่ 127 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 82 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2508

ด้วยผลงานเป็นที่ประจักษ์ในการพัฒนาการศึกษา การสังคมสงเคราะห์ และปฏิปทาศีลวัตรงดงาม ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2528 ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะอำเภอเบตง-ธารโต จ.ยะลา พ.ศ.2539 เป็นเจ้าคณะจังหวัดยะลา พ.ศ.2553 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดยะลา

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระไพศาลประชานาถ พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชปัญญาโสภณ พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณ ศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพศีลวิสุทธิ์ พ.ศ.2549 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ในราชทินนามที่ พระธรรมสิทธิมงคล

พ่อท่านฉิ้น ยังเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกพระอาจารย์ทิม ธัมมธโร แห่งวัดช้างให้ ต.ป่าไร่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ร่วมสร้างหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2497

พระธรรมสิทธิมงคล มีแนวคิดให้วัดเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากเป็นแหล่งเผยแผ่ธรรมะ ให้ความรู้อบรมสั่งสอนธรรมะ ชี้แนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง อบรมศีลธรรมจริยธรรมให้แก่เยาวชน ให้การศึกษาอบรมแก่พระภิกษุ-สามเณร ให้การสงเคราะห์แก่ผู้ด้อยโอกาสแล้ว

ด้วยมีอายุสูงวัย ในช่วงค่ำวันที่ 30 ก.ย.2559 เกิดเป็นลมหมดสติอย่างกะทันหัน คณะศิษย์รีบนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา โดยคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาล ทำการปั๊มหัวใจช่วยยื้อชีวิต อย่างสุดความสามารถ แต่ไม่อาจยื้อชีวิตเอาไว้ได้

ละสังขารลงอย่างสงบ สิริอายุ 89 ปี พรรษา 68

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน