พระสารคามมุนี วัดมหาชัย สารคาม : อริยะโลกที่ 6

โดยเชิด ขันตี ณ พล

พระสารคามมุนี วัดมหาชัย สารคาม : อริยะโลกที่ 6 – พระสารคามมุนี” หรือ “หลวงปู่สาร พุทธสโร” อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาชัย และอดีตเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีวัตรปฏิบัติงดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวมหาสารคาม

พระสารคามมุนี วัดมหาชัย สารคาม

ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีผลงานมากมายทั้งการศึกษา การพัฒนาเสนาสนะ การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

มีนามเดิม สาร ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม เกิดเมื่อวันที่ 9 ..2428 ณ บ้านใต้นางใย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม

เมื่ออายุ 17 ปี เข้าพิธีบรรพชา ณ วัดอุทัยทิศ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม

จนเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดอุทัยทิศ มี พระครูโยคีอุทัยทิศ วัดอุทัยทิศ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดชัย วัดอุทัยทิศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระสมุห์ดี วัดอุทัยทิศ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา พุทธสโร

ด้วยความมุ่งมั่น ประสงค์ที่จะศึกษาพระธรรมวินัย จึงขอให้พระเจริญราชเดช เจ้าเมืองมหาสารคามในขณะนั้น ซึ่งเป็นญาติพาท่านลงไปฝากที่สำนักเรียนวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพฯ

มุมานะเล่าเรียนอย่างหนัก พ..2458 สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรบาลีธรรมบทและสอบได้นักธรรมตรี

..2462 ท่านได้เดินทางกลับมหาสารคาม มาจำพรรษาอยู่ที่วัดมหาชัย ต.ตลาด อ.เมือง

หลวงปู่สารเป็นผู้มีสติปัญญาเฉียบแหลมมีความรู้ด้านธรรมบาลีแตกฉาน ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและเป็นผู้จัดการเรียนการสอน ปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดมหาชัย

ตลอดเวลาท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็งมุ่งพัฒนาการเรียนการสอนให้เป็นระเบียบ ส่งผลให้สำนักเรียนวัดมหาชัยในสมัยนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอีสานอย่างรวดเร็ว

ยังศึกษาเรียนรู้ระบบงานบริหารปกครองคณะสงฆ์ จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง เป็นที่ไว้วางใจของคณะสงฆ์ว่ามีความรู้ความสามารถที่จะดูแลปกครองพระภิกษุสามเณรได้

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ..2465 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองมหาสารคาม

..2468 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ..2475 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม

หลวงปู่สารปฏิบัติหน้าที่กิจของสงฆ์ด้วยความขยันขันแข็งไม่เคยขาดตกบกพร่อง

ลำดับสมณศักดิ์ พ..2469 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูอดุลศีลพรต

..2477 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสารคามมุนี

..2480 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะจังหวัดชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

..2482 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสารคามมุนี

..2499 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระสารคามมุนี ศรีสินธุคณาภิบาล ยติคณิสสร บวรสังฆารามคามวาสี

มีผลงานเป็นที่ประจักษ์หลายด้าน อาทิ จัดการอบรมพระภิกษุสามเณร ที่วัดมหาชัย ไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อยเสียหาย

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งสำนักอบรมครูธรรมและครูตามโรงเรียนต่างๆ ก่อสร้างโรงเรียนประจำจังหวัดและอำเภอทั่วทั้งจังหวัด ในวันสำคัญทางศาสนา หลวงปู่จะแสดงเทศนาบรรยายธรรมให้ญาติโยมนำไปปฏิบัติตลอดปี ด้วยความที่เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ วัดมหาชัยจึงมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมทำบุญและรับฟังเทศน์จากหลวงปู่สารเป็นจำนวนมาก

..2471 ท่านได้ร่วมกับญาติโยมที่มีจิตศรัทธาก่อสร้างพระอุโบสถ 1 หลัง

..2473 ได้สร้างพระประธานประดิษฐานไว้ในอุโบสถ พร้อมด้วยพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร ในครั้งนั้นยังได้จัดสร้างเหรียญที่ระลึกพระแก้วมรกตขึ้นจำนวนหนึ่ง ออกแจกจ่ายญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญ

ในปัจจุบันกลายเป็นเหรียญที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด และมีราคาเช่าหาแพงถึงหลักหมื่น พระเกจิชื่อดังในยุคนั้นร่วมงานพุทธาภิเษกจำนวนมาก อาทิ หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี เป็นต้น

ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร หลวงปู่เริ่มอาพาธบ่อยครั้งด้วยโรคหัวใจ สุดท้ายท่านถึงแก่มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 76 ปี พรรษา 56

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน