พระครูสุภัทรกาญจนกิจ พระเกจิดังเมืองกาญจน์ : มงคลข่าวสด

พระครูสุภัทรกาญจนกิจ พระเกจิดังเมืองกาญจน์ : มงคลข่าวสด – “พระครูสุภัทรกาญจนกิจ” หรือ “หลวงพ่อสนองชาติ ฐิตจิตโต” พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดเย็นสนิทธรรมาราม ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ปัจจุบันสิริอายุ 79 ปี พรรษา 40

ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระที่เคร่งครัดพระธรรมวินัย ใส่ใจด้านการปฏิบัติกัมมัฏฐาน เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและคนโดยทั่วไป

มีนามเดิม สนองชาติ เศียรประภัสสร เป็นชาวพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2483 บิดา-มารดา ชื่อ นายชูศักดิ์ และนางสำอางค์ เศียรประภัสสร

ในช่วงวัยเยาว์ เที่ยวเล่นซุกซนตามประสาเด็กชนบททั่วไป แต่สุขภาพไม่ แข็งแรง เลี้ยงยาก มีอาการเจ็บไข้บ่อย ทำให้ยายที่เลี้ยงดูตอนเด็ก เป็นห่วง จึงยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของพระ จะได้เลี้ยงง่าย ตามความเชื่อของคนโบราณ พระครูเนกขัมม วิสุทธิคุณ หรือหลวงพ่อฮวด เจ้าอาวาสวัด ไม้รวกจึง รับไว้เป็นบุตรบุญธรรม

เมื่อมีอายุครบเกณฑ์เข้าเรียนหนังสือ บิดานำท่านไปฝากที่โรงเรียนวัดหนองแห้ว อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เรียนจบชั้นประถมศึกษา

เมื่อเรียนจบชั้นประถมต้น เข้าเรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนนิตยานุกูล อ.ท่าเรือ

ระหว่างเรียนที่โรงเรียนนิตยานุกูล ท่านฝากตัวเป็นศิษย์วัดอยู่ที่วัดแค ซึ่งมีพระปลัดบุญรอดเป็นเจ้าอาวาส และเป็นพระธุดงค์ชาวเขมรผู้ทรงวิทยาคม มีความชำนาญทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติ มีความเชี่ยวชาญในอักขระเลขยันต์ ศึกษาสรรพวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อบุญรอด ควบคู่กับการเรียนทางโลก

ต่อมาเข้าไปเรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่กรุงเทพฯ โดยเข้าเรียนที่โรงเรียนอำนวยศิลป์ พระนคร เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงมาก เป็นที่นิยมของคนต่างจังหวัด

กระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ท่านไม่ได้ศึกษาต่อ กลับมาอยู่บ้านที่ จ.พระนครศรีอยุธยา มาทำงานช่วยเหลือครอบครัว

พ.ศ.2500 อายุ 17 ปี เข้าพิธีเป็นบรรพชา มีหลวงพ่อฮวด เจ้าอาวาสวัดไม้รวก เป็นพระอุปัชฌาย์

ครั้งนี้ ศึกษาหาความรู้ในวิชาอย่างจริงจัง ที่สำนักใดที่ว่ามีวิชาเก่งกล้า ท่านจะเข้าไปกราบฝากตัว พร้อมเครื่องบูชาครู ขอเป็นศิษย์เพื่อศึกษาวิชา

หลังจากลาสิกขา ไม่ได้ศึกษาต่อ แต่เริ่มหางานทำเพื่อช่วยเหลือตนเองและเป็นการแบ่งเบาภาระครอบครัว เปลี่ยนงานหลายครั้ง ในที่สุดสมัครเป็นลูกจ้างชั่วคราวของการรถไฟแห่งประเทศไทย

ทำงานอยู่จนอายุได้ 39 ปี เกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2522 ที่วัดทองบน ต.บางโพงพาง อ.ยานนาวา กรุงเทพฯ โดยมีพระครูจันทรโอภาส เจ้าอาวาสวัดด่าน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระฉะอ้อน อภิปุณโณ เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระประยงค์ เป็นพระอนุ สาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ยังไปเรียนวิชาต่างๆ จากหลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดง, หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง, หลวงพ่อนา วัดดอนพุด รวมทั้งศึกษาค้นคว้าจากตำรับตำราของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค

ต่อมาได้ฝากตัวเป็นศิษย์และเข้าพิธีครอบครูกับหลวงพ่อเงิน แห่งวัดดอนยายหอม หลวงพ่อสนองชาติได้ขอคำแนะนำหลายอย่างที่ท่านกำลังติดขัดอยู่ หลวงพ่อเงินก็เมตตาชี้แนะให้จนเข้าใจกระจ่างแจ้งทุกอย่าง และให้คำสอนที่หลวงพ่อ สนองชาติท่านจดจำมาถึงทุกวันนี้ว่า “ถ้าจะทำของอะไร ต้องทำให้ดีที่สุด เสกจนมั่นใจแล้วจึงค่อยแจกจ่ายให้คนเอาไปใช้ เพราะคนที่ศรัทธาเอาของเราไปใช้เท่ากับเขาฝากชีวิตไว้กับเรา”

จากนั้นท่านจึงกลับมาพำนักที่วัดไม้รวก

ตั้งใจออกเดินทาง เพื่อแสวงหาสถานที่สงบร่มเย็นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและพัฒนาให้เป็นวัดต่อไป จนที่สุดคณะศิษย์ นิมนต์มาที่วัดร้างที่บ้านจันอุย ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังจากเข้ามาสำรวจและพิจารณาเห็นว่าเหมาะควรแล้ว จึงเริ่มเข้ามาสร้างกุฏิหลังเล็ก เพื่อปฏิบัติธรรมและพัฒนาต่อมาเป็นวัดเย็นสนิทธรรมาราม ในปัจจุบัน

พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสุภัทรกาญจนกิจ พ.ศ.2548 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลลาดหญ้า

ปัจจุบันเป็นพระเกจิที่ผู้เคารพนับถือ มุ่งมั่นสืบทอด จรรโลง ถวายอกให้พระพุทธศาสนา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน