หลวงปู่ปัน สัมปันนธัมโม

วัดเทพนิมิตรจันทร์แสงวนาราม

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

โดย…เชิด ขันตี ณ พล

หลวงปู่ปัน สัมปันนธัมโม วัดเทพนิมิตรจันทร์แสงวนาราม : อริยะโลกที่ 6 – “หลวงปู่ปัน สัมปันนธัมโม” พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง สืบสายธรรมจาก หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น อดีตพระเกจิมีชื่อเสียงโด่งดัง

เป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติดี อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย ถึงแม้จะอยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิตก็ตาม

ปัจจุบัน สิริอายุ 79 ปี พรรษา 19 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดเทพนิมิตรจันทร์แสงวนาราม ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นามเดิม ปัน คำวงศ์ เกิดปี พ.ศ.2482 ที่บ้านหนองบัว ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

ในวัยเด็ก จบชั้นประถมศึกษา ป.4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน แล้วออกมาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา อายุได้ 15 ปี บิดา–มารดา นำไปบรรพชาที่วัดบ้านนาข่า อ.มัญจาคีรี จนเมื่ออายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่อุโบสถวัดนาข่า

หลังเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย สามารถสอบได้นักธรรมชั้นโท แต่หลังจากอุปสมบทได้ประมาณ 10 พรรษา มีความจำเป็นต้องลาสิกขา

ขณะใช้ชีวิตฆราวาส มีโอกาสได้ใกล้ชิดรับใช้ หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งสมัยเมื่อ 50-60 ปีที่แล้วมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ

รับหน้าที่อุปัฏฐากหลวงปู่ผาง ด้วยการตักน้ำให้สรงทุกวัน ด้วยความที่เป็นผู้มีความสนใจด้านวิทยาคม จึงกราบขอฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมด้วย

ซึ่งหลวงปู่ผาง เมตตารับเป็นศิษย์ แต่มีข้อแม้ห้ามดื่มสุราอย่างเด็ดขาด และห้ามนำวิชาไปใช้เบียดเบียนทำร้ายผู้อื่น เพราะจะเป็นบาปหนัก ซึ่งก็ได้รับปากและมุมานะศึกษาวิชาอาคมนานถึง 3 เดือน ซึ่งถือว่าลำบากมากต้องอาศัยความเพียรเป็นเลิศถึงจะประสบผลสำเร็จและที่สำคัญต้องท่องให้ได้กับปากจริงๆ

ใช้ชีวิตฆราวาส จนถึงปี พ.ศ.2542 เมื่อหมดภาระทางครอบครัว จึงได้เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ อุปสมบท ที่อุโบสถวัดชัยชุมพล (ธรรมยุต) อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ โดยมีพระครูอรรถธรรมโสภณ หรือหลวงปู่แหล่ เป็นพระอุปัชฌาย์

จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าพัฒนาคีรี (ธรรมยุต) บ้านแจ้งทัพม้า อ.มัญจาคีรี ผ่านไป 3 ปี ท่านออกธุดงควัตรไปตามป่าเขาหลายแห่งในภาคอีสาน โดยเฉพาะตามรอยตะเข็บชายแดนไทย–กัมพูชา เพื่อแสวงหาความหลุดพ้น ไปจำพรรษาอยู่ตามวัดป่าหลายแห่ง อาทิ วัดเขาบอระเพ็ด วัดใหม่สุวรรณโณ พื้นที่ จ.สระบุรี, วัดโคกแขวน จ.นครราชสีมา, วัดโนนสว่าง จ.บุรีรัมย์ เป็นต้น

ต่อมามีปัญหาด้านสุขภาพ จึงได้ญัตติใหม่เป็นพระสงฆ์ในสังกัดมหานิกาย โดยมีหลวงพ่อดี กิตติโสภโณ วัดทัพป่าจิก อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้มาจำพรรษาอยู่วัดบ้านสะอาด อ.โคกโพธิ์ชัย จ.ขอนแก่น

จนถึงปี พ.ศ.2560 วัดเทพนิมิตรจันทร์แสงวนาราม ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง ชาวบ้านขามป้อม จึงได้นิมนต์ให้มาดำรงตำแหน่ง เป็นหัวแรงในการพัฒนาวัดแห่งนี้ให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป

ภายหลังมาอยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนี้ ด้วยความที่ท่านเป็นพระปฏิบัติดี หลวงปู่ปัน เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนในวงกว้างอย่างรวดเร็ว แต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่เข้มขลังจากหลวงปู่อย่างล้นหลาม

ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ

ทุกวันนี้ หลวงปู่ปัน แม้จะล่วงเข้าปัจฉิมวัย แต่สุขภาพของท่านยังแข็งแรง จึงรับกิจนิมนต์โดยตลอด รวมทั้งหากเมื่อญาติโยมมาหา ท่านก็ปัดเป่าให้ด้วยพุทธมนต์และน้ำมนต์ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ ท่านจึงเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตนสำหรับพระภิกษุ–สามเณรรุ่นหลัง

อ่าน : หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต : หลวงปู่ผาง จิตฺตคุตฺโต “ตำนานพระอรหันต์วัดดูน”