พระครูสิทธิธรรมวิภัช วัดราชบูรณะ พิษณุโลก
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
วัดราชบูรณะ พิษณุโลก – “พระครูสิทธิธรรมวิภัช” (สำลี วราโภ) เป็นพระเถระที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนชาวเมืองสองแคว ด้วยความเป็นพระนักเทศน์ ที่ศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดเวลา
เป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีเมตตาจิต
ปัจจุบันสิริอายุ 62 ปี พรรษา 41 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
มีนามเดิมว่า สำลี หงษาชุม เกิดเมื่อวันที่ 27 ก.พ.2500 ที่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 1 บ้านหนองสังข์ ต.หนองสังข์ อ.นาแก จ.นครพนม
ในช่วงวัยเด็กเล่าเรียนศึกษาหาความรู้ที่โรงเรียนบ้านหนองสังข์ จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ศึกษาต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
เมื่ออายุ 15 ปีได้เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดโพธิ์ชัย ต.พระซอง อ.นาแก จ.นครพนม ศึกษาพระปริยัติธรรม
ครั้นมีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบางสะพาน ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2521
หลังเข้าพิธีอุปสมบทศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติตามพระวินัย พ.ศ.2521 สามารถสอบได้ นักธรรมชั้นตรี–โท–เอก ตามลำดับ รวมทั้งได้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม–บาลี ณ สำนักเรียนวัดราชบูรณะ เป็นเวลานาน 13 ปี เป็นการสอนรวมกันที่ศูนย์ศึกษาวัด พระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
นอกจากนี้ ยังได้รับมอบหมายให้เป็นกรรมการตรวจข้อสอบนักธรรม เป็นวิทยากรอบรมศีลธรรม และเป็นครูสอนหนังสือ
พ.ศ.2527 ได้รับการแต่งตั้งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ พ.ศ.2530 ได้รับการแต่งตั้ง เป็นเจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ
พ.ศ.2541 ได้รับพระราช ทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่พระครูสิทธิธรรมวิภัช
พ.ศ.2547 ได้รับพระราช ทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พระครูสิทธิธรรมวิภัชได้พัฒนาสร้างและบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานที่เก่าแก่ ให้มีสภาพคงอยู่คู่กับพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะในบริเวณวัดราชบูรณะ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ มีสิ่งล้ำค่าจำนวนมาก ที่ต้องดูแลรักษาเอาไว้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเข้ามาเยี่ยมชม
อาทิ พระบรมสารีริกธาตุ ค้นพบเมื่อปีพ.ศ.2528 ที่หอระฆังของเจดีย์หลวง บรรจุอยู่ในผอบเงินผอบทอง 8 เหลี่ยมจำนวนมาก
ยังมีหลวงพ่อดำ พระประธานในวิหารหลวง พระประธานในพระอุโบสถ ซึ่งภายในพระวิหารยังมีของเก่าแก่ที่มีค่ามหาศาลจำนวนมาก เพื่อให้ญาติโยมได้ศึกษาหาความรู้
ตลอดทั้งภายในบริเวณวัดมีโบราณสถาน ประกอบด้วย พระเจดีย์หลวงสมัยสุโขทัย, หอไตรเสากลม 16 ต้น บรรจุพระคัมภีร์, หอไตรไม้อายุ 70-100 ปี และเรือรับเสด็จสมัยรัชกาลที่ 5 ร.ศ.130
ให้ความสนใจกับการสร้างพระเครื่องวัตถุมงคล จนได้รับการกล่าวขวัญในพุทธคุณเป็นยิ่งนัก เฉพาะการสร้างพระนางพญา ย้อนยุค รุ่นมิตรภาพ 49 รวมทั้งมีนางพญาเข่าโค้ง นางพญาเข่าตรง นางพญาสังฆาฏิ และพระพุทธชินราชใบมะยม
เป็นการสร้างพระเครื่องรุ่นแรกของวัดราชบูรณะ มีการศึกษาจากสมุดข่อย ตามขั้นตอนของพิธีโบราณ และรวบรวมมวลสารจากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา ปรินิพพาน เป็นต้น
ท่านได้ใช้วิชาความรู้ในทางธรรมที่ได้เล่าเรียนสอนวิชาพระพุทธศาสนาและด้านจริยธรรมกับนักเรียนในสถานศึกษาต่างๆ ในพื้นที่
อีกทั้งยังเพิ่มพูนความรู้ในเรื่องพระพุทธศาสนาปลูกฝังคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรมให้แก่นักเรียน นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน และนำความรู้ที่ได้รับไปศึกษาต่อ ซึ่งท่านมองว่าพระพุทธศาสนาและการศึกษาสามารถที่จะพัฒนาคนให้เป็นคนดี
การที่จะเป็นคนดีและเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน ก่อนอื่นต้องมีคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรมที่ดีงามก่อน จึงจะทำให้เป็นคนที่มีศักยภาพ มีคุณภาพ เป็นบุคคลที่มีประโยชน์ เป็นที่พึงประสงค์ของสังคม
เป็นพระนักพัฒนาตลอดเวลาที่ปกครองวัดราชบูรณะ ทุ่มเท แรงกายแรงใจพัฒนาวัดแห่งนี้ให้เจริญก้าวหน้า ให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนมาโดยตลอด
โดย อนุชา แก้วคำมา