สิ้นพระเถระกาฬสินธุ์พระเทพปัญญาเมธี
สิ้นพระเถระกาฬสินธุ์พระเทพปัญญาเมธี : “พระเทพปัญญาเมธี” (ปราชญ์ อักกโชโต) พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีพรรษาสูง เป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ดำเนินแบบแผนตามรอยธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้รับการยกย่องว่าปกครองและจัดระเบียบการบริหารงานของคณะสงฆ์ในจังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ และเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ฝ่ายมหานิกาย
มีนามเดิมว่า นายปราชญ์ ญาณผาด เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค.2487 ที่บ้านเลขที่ 5 หมู่ที่ 5 ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ บิดา-มารดาชื่อ นายกอง และนางเหลียม ญาณผาด
ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา ฐานะค่อนข้างยากจน
เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2499 เข้าพิธีบรรพชา ที่วัดวิเศษไชยาราม ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีพระสุขุมวาทวรคุณ (ปัจจุบันคือพระธรรมวงศาจารย์) วัดสุทัศนเทพวราราม เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์
ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น พ.ศ.2501 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนวัดวิเศษไชยาราม ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
อายุครบ 22 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2509 ที่วัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ มีพระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดสุทัศนเทพวราราม เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์
ตั้งใจศึกษาพระปริยัติธรรมขั้นสูง จึงเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงเรียนบาลี ที่สำนักเรียนวัดชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ
พ.ศ.2523 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค จากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
พ.ศ.2526 สำเร็จการศึกษาวิชาสามัญ ศึกษาศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช การศึกษาพิเศษ สำเร็จพระอภิธรรมตรี-โท
ในระหว่างที่ศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ ปฏิบัติหน้าที่เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ที่สำนักเรียนวัดชนะสงครามอีกด้วย
ต่อมาเดินทางกลับอีสานบ้านเกิดมาอยู่จำพรรษา ด้วยความที่เป็นพระหนุ่มไฟแรง จึงได้รับการมอบหมายให้เป็นครูสอนนักธรรม-บาลี สอนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ และการศึกษาผู้ใหญ่
มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในหลากหลายด้าน อาทิ ด้านการศึกษา ให้ความสำคัญต่อการศึกษาแผนกธรรม และบาลี ส่งเสริมสนับสนุนจัดหาทุนการศึกษาให้แก่พระภิกษุ-สามเณรเรียนดี ให้รางวัลผ้าไตรผู้สอบได้นักธรรมตรีและเอก รวมทั้งอุปสมบทให้แก่สามเณรที่มีอายุครบบวช
ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต่อเนื่องตลอดปี อาทิ จัดอบรมปฏิบัติธรรมพระภิกษุ สามเณร และประชาชนทั่วไปในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ด้วยผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์เมืองกาฬสินธุ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง
เป็นเจ้าคณะปกครอง ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ และรองเจ้าคณะจังหวัด ตามลำดับ
พ.ศ.2543 ได้รับพระบัญชาจากคณะสงฆ์ ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ฝ่ายมหานิกาย
พ.ศ.2555 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวง
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระวิเชียรกวี
พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชปรีชามุนี
พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพปัญญาเมธี
สร้างผลงานมากมาย เป็นพระเถระที่ทรงภูมิรอบรู้ อุปนิสัยใจคอสุขุม เยือกเย็น เป็นที่นับถือศรัทธาของสาธุชนและพุทธศาสนิกชนทั่วไป มุ่งมั่นพัฒนาวัดกลาง พระอารามหลวง ทั้งในด้านถาวรวัตถุ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม
รวมทั้งพัฒนาสำนักเรียนวัดกลางเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาสงฆ์ประจำจังหวัด จัดการศึกษาพระปริยัติธรรม เปิดสอน 3 แผนก คือแผนกบาลี เปิดสอนในระดับเปรียญธรรม 1-2 ประโยค ถึงเปรียญธรรม 5 ประโยค แผนกธรรม เปิดสอนตั้งแต่นักธรรมชั้นตรี ถึงนักธรรมชั้นเอก
ส่วนแผนกสามัญ เปิดสอนในปี พ.ศ.2535 ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6
นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดกลางกาฬสินธุ์ ซึ่งเปิดสอนตั้งแต่ พ.ศ.2519 จวบจนถึงปัจจุบัน
ช่วงบั้นปลายชีวิต เริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคเบาหวาน ก่อนที่จะมีอาการของโรคแทรกซ้อน คือ ความดัน หัวใจ และไตวาย กระทั่งมรณภาพอย่างสงบ เมื่อเวลา 02.26 น. วันที่ 7 มี.ค.2562 หลังเข้ารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นเป็นเวลา 12 วัน
สิริอายุ 75 ปี พรรษา 53
นับแต่นี้ คงเหลือไว้แต่คุณงามความดี ให้อนุชนรุ่นหลังได้กล่าวขวัญสืบไป