พระอาจารย์บุญทัน อัตถกาโม

ดบึงวังยาว จ.มหาสารคาม

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

พระอาจารย์บุญทัน อัตถกาโม – เป็นพระนักปฏิบัติธรรมรุ่นใหม่ที่พุทธศาสนิกชนชาวมหาสารคาม เลื่อมใสศรัทธาต่อวัตรปฏิบัติที่เสมอต้นเสมอปลาย ทั้งงานปกครอง งานบริหารการศึกษา งานพัฒนาสังคม รวมทั้งงานอนุรักษ์ป่าไม้ชุมชน

ปัจจุบัน สิริอายุ 61 ปี พรรษา 41 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบึงวังยาว ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม เกิดในสกุล โพธิสิงห์ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2500 ที่บ้านกุดชุม จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันขึ้นกับ จ.ยโสธร) ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

หลังจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ช่วยงานครอบครัวทำไร่ไถนาด้วยความขยันขันแข็ง เมื่ออายุ ย่างเข้าสู่วัยรุ่นได้ตัดสินใจเดินทางลงไปแสวงโชคที่เมืองหลวงรับจ้างทำงานสารพัด เมื่อได้เงินก็ส่งกลับไปจุนเจือครอบครัวที่บ้านเกิด

ครั้งหนึ่งได้เดินทางกลับมาบ้านเพื่อเยี่ยมครอบครัว ได้มีโอกาสไปเที่ยววัดถ้ำแสงเพชร จ.อำนาจเจริญ ซึ่งเป็นวัดป่าสาขาของ หลวงปู่ชา สุภัทโท สภาพเป็นวัดป่าติดภูเขา มีแต่ความร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม รวมทั้งได้เห็นวัตรปฏิบัติที่เคร่งครัดของพระที่วัดแห่งนี้ เกิดความศรัทธาอันแรงกล้าในการที่จะปฏิบัติธรรม

จนถึงปี พ.ศ.2521 เมื่ออายุครบบวช อุปสมบทที่พัทธสีมา วัดหนองป่าพง จ.อุบล ราชธานี โดยมีหลวงปู่ชา สุภัทโท หรือ พระโพธิญาณเถระ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เลี่ยม ฐิตธัมโม เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระอาจารย์ชุ ฐิตคุโณ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังอุปสมบท ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย และฝึกวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงปู่ชา นานถึง 3 พรรษา โดยหลวงปู่ชาอบรมสั่งสอนมุ่งเน้นให้ปฏิบัติเพื่อให้เกิดปัญญาจะได้พิจารณาถึงเหตุแห่งทุกข์

ทั้งนี้ หลวงปู่ชา ห้ามฉันอาหารทุกชนิดเมื่อเลยเวลาเที่ยงไม่ว่าจะเป็นนม ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มบำรุงกำลัง และให้ฉันในบาตรเพียงวันละครั้งเท่านั้น ฉันเพื่อยังชีพให้สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้เท่านั้น

พระอาจารย์บุญทัน ยังได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ตามวัดป่าสาขาหลวงปู่ชาหลายแห่ง เช่น ที่วัดป่าสุภัททาวาส จ.มุกดาหาร 1 พรรษา วัดเดชอุดม จ.อุบลฯ 1 พรรษา และได้เดินทางไปจำพรรษาอยู่ที่วัดบึง จ.พระนครศรีอยุธยา นานถึง 4 พรรษา มุมานะศึกษาเล่าเรียน สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอกและสอบได้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

จากนั้นได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดจิตภาวนาราม อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อรับตำแหน่งประธานสงฆ์ (เทียบเท่าเจ้าอาวาส) อยู่ได้ 2 ปี

พ.ศ.2531 เดินธุดงค์มายังจังหวัดมหาสารคาม และมาปักกลดในบริเวณป่าริมหนองน้ำอันเป็นสถานที่ตั้งวัดบึงวังยาวในปัจจุบัน เมื่อญาติเจ้าของที่ดินมาพบเห็นวัตรปฏิบัติที่งดงาม เกิดความเลื่อมใสศรัทธาบริจาคที่ดินให้ 4 ไร่ เพื่อสร้างวัดและนิมนต์ท่านให้อยู่จำพรรษาพัฒนาวัดแห่งนี้ให้เจริญรุ่งเรือง ท่านจำพรรษาอยู่จวบจนปัจจุบัน

เป็นพระนักปฏิบัติ วัตรปฏิบัติเสมอต้นเสมอปลาย และเป็นศิษย์หลวงปู่ชา สุภัทโท ท่านกำหนดกฎระเบียบไว้ไม่ให้พระภิกษุ–สามเณร ใช้วิทยุ โทรทัศน์ พัดลม หรือเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งฉันภัตตาหารในบาตรวันละ 1 ครั้งเท่านั้น

สำหรับหัวข้อธรรมะที่ท่านพร่ำสอนมุ่งเน้นให้รักษาศีล 5 ให้รู้จักตนเอง ให้ใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา และอย่าดำรงชีวิตอยู่ด้วยความประมาท

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญทางด้านการศึกษาของสงฆ์ สนับสนุนการเรียนการสอนโดยบริจาคปัจจัยให้แก่พระภิกษุ–สามเณร และอุปการะเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา ด้านอาหารและปัจจัย

งานปกครองคณะสงฆ์ ท่านได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบึงวังยาว และ พ.ศ.2541 เป็นพระธรรมทูตประจำจังหวัดมหาสารคาม ถือเป็นพระนักปฏิบัติธรรมรุ่นใหม่ เพื่อทำหน้าที่สืบสานพระพุทธศาสนาให้เจริญสถาพรอยู่คู่โลกสืบไป

เชิด ขันตี ณ พล