พระครูประโชติเขมคุณ วัดสุภารามส่องเหนือ
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
พระครูประโชติเขมคุณ วัดสุภารามส่องเหนือ – “พระครูประโชติเขมคุณ” หรือ หลวงพ่อสุพรหม พรหมสโร อดีตเจ้าคณะตำบลตลาด เขต 3 และอดีตเจ้าอาวาสวัดสุภารามส่องเหนือ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นพระภิกษุที่มีวัตรปฏิบัติดี อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน อยู่ในศรัทธาของชาวมหาสารคามมาโดยตลอด
อัตโนประวัติ เกิดในสกุล มะโรงรัตน์ เมื่อวันที่ 10 ต.ค.2495 ที่บ้านแมด ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จาก ร.ร.บ้านหม้อ ก็มาช่วยงานครอบครัวทำไร่ทำนา
แต่ด้วยมีจิตใจเอนเอียงเข้าหาพระธรรม ชมชอบเข้าวัดฟังเทศน์แหล่นิทานธรรมะ ด้วยเหตุนี้จึงตั้งปณิธานว่าในภายภาคหน้าจะต้องเป็นพระนักเทศน์แหล่ให้ได้
เมื่ออายุครบบวช พ.ศ.2516 ได้เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดท่าเสมาบ้านแมด ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยมีพระครู สารคามคณารักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์
จำพรรษาอยู่ที่วัดท่าเสมาบ้านแมดระยะหนึ่ง ต่อมาได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดสุภารามส่องเหนือ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ได้มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นตรี–โท–เอก ตามลำดับ
เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยการเทศน์แหล่เป็นนิทานธรรมะสั่งสอนญาติโยม ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ ฟังเข้าใจง่ายทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างรวดเร็ว ท่านต้องรับกิจนิมนต์ไม่เว้นแต่ละวัน
พ.ศ.2523 ตำแหน่งเจ้าอาวาสว่างลง คณะสงฆ์แต่งตั้งให้ท่านขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ด้านงานการศึกษา พ.ศ.2523-2539 ได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดสุภารามส่องเหนือ และโรงเรียนอุทัยทิศวิทยา
ด้านงานเผยแผ่ พ.ศ.2526 เป็นกรรมการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล พ.ศ.2527 เป็นพระธรรมทูตสายที่ 5 ประจำอำเภอเมืองมหาสารคาม ส่วนงานด้านสาธารณูปการ สร้างกุฏิทรงไทย สร้างเมรุ สร้างพระอุโบสถ เป็นต้น
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่พระครูประโชติเขมคุณ
มีความมุ่งมั่นในการใช้ธรรมะ เพื่อขัดเกลาเยาวชนของชาติให้เป็นคนดี ก้าวเข้าสู่สังคมได้อย่างถูกต้องและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข จึงเปิดการสอนธรรมศึกษาขึ้นที่โรงเรียนเทศบาลบ้านส่องนางใย เปิดสอนในระหว่างเข้าพรรษา โดยหลวงพ่อเป็นครูสอนเอง และนำพระสงฆ์ผู้ทรง ภูมิความรู้จากวัดต่างๆ มาสอน ต่อมาได้จัดตั้งเป็นศูนย์จริยธรรมศึกษาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยวัตรปฏิบัติเสมอต้นเสมอปลาย เป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนอย่างรวดเร็ว แต่ละวันจะมีผู้เดินทางมานมัสการรับฟังธรรมจากหลวงพ่ออย่างล้นหลาม
สำหรับหลักธรรมที่พร่ำสอนญาติโยม จะเน้นให้รักษาศีล 5 บอกว่าปุถุชนคนธรรมดายังมีกิเลสอยู่ เพียงขอให้ยึดศีล 5 เป็นหลักในการดำเนินชีวิตก็พอ และอย่าประมาทจะทำอะไรลงไปขอให้มีสติ รับรองว่าชีวิตจะพานพบแต่ความสุขความเจริญ
ถึงแม้หลวงพ่อสุพรหม จะพรรษาน้อยและอายุเพียง 40 กว่าปี แต่สุขภาพของท่านไม่ค่อยดีจึงอาพาธบ่อยครั้ง แต่ท่านยังรับนิมนต์เทศน์อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย บางครั้งไม่สบายเกิดเจ็บป่วย ท่านก็ยังฝืนสังขารรับนิมนต์ ไม่ว่าจะในพื้นที่หรือต่างจังหวัด
ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร วันที่ 24 กันยายน 2540 ท่านเกิดอาพาธหนักญาติโยมนำส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม และสุดท้ายมรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 45 ปี พรรษา 24
ต่อมาวันที่ 28 ก.พ. 2541 ได้มีพิธีพระราชทานเพลิง ที่เมรุวัดสุภาราม ส่องเหนือ
โดย เชิด ขันตี ณ พล