พระครูสุนทรกัลยาณพจน์ วัดโอกาส จ.นครพนม

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

พระครูสุนทรกัลยาณพจน์ (คำพันธ์ กัลยาโณ) อดีตเจ้าคณะอำเภอเมืองนครพนม และอดีตเจ้าอาวาสวัดโอกาส .นครพนม พระเถระที่มีศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชนให้ความเลื่อมใสศรัทธา มีนามเดิมว่า คำพันธ์ เทพกูล เกิดเมื่อวันที่ 5 ..2454 ที่บ้านไชยบุรี .ท่าอุเทน .นครพนม ครอบครัวประกอบอาชีพชาวไร่ชาวนา

ชีวิตในวัยเยาว์ ขณะมีอายุ 14 ปี บรรพชาเมื่อวันที่ 1 ..2468 ที่วัดไตรภูมิ .ไชยบุรี .ท่าอุเทน .นครพนม โดยมีพระโพธิสาร เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมที่สำนักเรียนวัดโพธิ์ไชย ในตำบลบ้านเกิด ก่อนย้ายติดตามโยมมารดาไปอยู่บ้านพันลำ .บึงกาฬ .หนองคาย

อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 20 ..2474 ที่พัทธสีมาวัดศรีบุญเรือง .บึงกาฬ .หนองคาย มีพระครูชัยบุรยาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูปลัดเมฆ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสมุห์หา เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พระครูสุนทรกัลยาณพจน์

มุ่งมั่นศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ที่สำนักเรียนวัดโสภณธรรมทาน .บึงกาฬ สามารถเรียนจบนักธรรมชั้นตรีโทเอก ตามลำดับ

ด้วยความเป็นพระนักเทศน์เดี่ยว เทศน์โจทก์ และเทศน์มหาชาติ เมื่อครั้งยังเป็นหัวหน้าพระสงฆ์ออกเผยแผ่อบรมศีลธรรม ที่ .หนองคาย ปัจจัยที่ได้รับจากกัณฑ์เทศน์ ท่านได้มอบบำรุงขวัญแก่ทหารตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในคราวเกิดสงครามอินโดจีน

และด้วยความรู้ความสามารถด้านการก่อสร้าง ตลอดจนมีความรู้ความชำนาญอักษรธรรม ลาว ขอม และเป็นพระธรรม กถึก ความสามารถได้แพร่กระจายไปทั่ว

เมื่อปีพ..2499 ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโอกาสได้ว่างลง จึงได้รับคำสั่งจากเจ้าคณะจังหวัดในขณะนั้นให้มาดำรงตำแหน่ง เนื่องจากวัดนี้เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองนครพนม และตั้งอยู่ย่านการค้าชุมชนใจกลางเมือง กลับปล่อยให้ล้าหลังเสมือนเป็นวัดร้างมานานกว่า 40-50 ปี ประกอบกับได้มีพ่อค้าหัวใสได้ทำหนังสือเสนอขอให้ยุบวัด เพื่อต้องการเอาที่ดินของวัดไปทำประโยชน์ด้านการค้า

ครั้นเมื่อเข้ามาอยู่วัดโอกาส ได้พบเห็นสภาพความทรุดโทรมของวัดที่ไม่มีถาวร วัตถุอะไรเลย จึงได้เริ่มลงมือสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และกำแพงรอบวัด จัดระเบียบวินัยของพระภิกษุสามเณร จนเป็นผลสำเร็จยาวนานกว่า 30 ปี กระทั่ง ญาติโยมในย่านนี้ซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนเกิดความเลื่อมใสศรัทธา

จัดตั้งกองทุนสุนทรกัลยาณพจน์เพื่อหาดอกผลบำรุงวัด และเจียดเงินส่วนตัว บริจาคไว้เป็นทุนการศึกษาสำนักเรียนวัดมหาธาตุ .เมืองนครพนม

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ ..2478 เป็นเจ้าอาวาสวัดเจริญธรรม .บึงกาฬ .หนองคาย ..2486 เป็นเจ้าอาวาสวัดกัลยาราม .สามผง .ศรีสงคราม .นครพนม เป็นเจ้าคณะตำบลสามผง เป็นพระอุปัชฌาย์

..2500 เป็นเจ้าอาวาสวัดโอกาส .เมือง .นครพนม ..2518 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองนครพนม ..2522 เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองนครพนม

ลำดับสมณศักดิ์ ..2497 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนาม พระครูสุนทรกัลยาณพจน์ ..2518

ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม ..2522 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม

..2527 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม ..2533 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

ในช่วงดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเจริญธรรม สร้างศาลาโรงธรรม กุฏิ 2 ชั้น 3 หลัง ปฏิสังขรณ์หอพระติ้วพระเทียม พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครพนม และร่วมสร้างโรงเรียนเทศบาล 1 ตึกอาพาธสงฆ์ โรงพยาบาล เป็นต้น

พระครูสุนทรกัลยาณพจน์ เป็นพระนักปฏิมากร โดยปั้นภาพนูนเรื่องรามเกียรติ์รอบผนังอุโบสถวัดโอกาส และเป็นรูปพุทธประวัติ พระมาลัย พระเวสสันดร ทศชาติชาดก และปั้นภาพนูนต่ำเล่าเรื่องสามก๊กเป็นตอน 55 ภาพ

บนศาลาการเปรียญหลังเก่าของวัดนี้ เพื่อเตือนสติพระเณรและเป็นปริศนาธรรม ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา จนเป็นที่เล่าขานและมีผู้สนใจมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก ด้วยความไม่เที่ยงในสังขาร มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 1 ..2537 เวลา 02.00 . สิริอายุ 84 ปี พรรษา 64

ชนะ วสุรักคะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน