หลวงปู่แสง ยโสธโร วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
โดย เมธี เมืองแก้ว
หลวงปู่แสง ยโสธโร วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง – “พระครูโอภาสวุติคุณ” หรือ “หลวงปู่แสง ยโสธโร” อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองน้ำเจ็ด อ.เมือง จ.ตรัง เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายปักษ์ใต้ที่ชาวเมืองตรังให้ความเลื่อมใสศรัทธาและรู้จักเชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี
อัตโนประวัติ พระครูโอภาสวุฒิคุณ มีนามเดิมว่า แสง สิงแสม เกิดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2429 ที่บ้านพรุชี หมู่ที่ 2 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ครอบครัวประกอบอาชีพ ทำนา
ชีวิตในวัยเยาว์ ศึกษาเล่าเรียนระดับชั้นประถมที่โรงเรียนวัดคลองน้ำเจ็ด ได้ศึกษาต่อจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากโรงเรียนวัดตรังคภูมิพุทธาวาส
เมื่ออายุ 12 ปี บรรพชาที่วัดคลองน้ำเจ็ด แต่คราวหลังโยมบิดาถึงแก่กรรม จึงได้ลาสิกขากลับมาช่วยมารดาทำงานหาเลี้ยงชีพ
กระทั่งอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2450 ที่พัทธสีมาวัดคลองน้ำเจ็ด โดยมีพระบริสุทธิศิลาจารย์ หรือหลวงพ่อลบ เป็นพระอุปัชฌาย์ และหลวงพ่อซ้วน วัดคลองน้ำเจ็ด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ยโสธโร”
ศึกษาพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ รวมทั้งศึกษาวิทยาคมจากพระครูวิมลศีลขันธ์ (หลวงพ่อหนู)
ต่อมาได้ย้ายไปศึกษาสรรพวิทยาคมจากพระบริสุทธิศีลาจารย์ ในด้านโหราศาสตร์และวิทยาคม
นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อวัน มนโส ที่วัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) จนมีความเชี่ยวชาญยิ่ง ครั้นเมื่อหลวงพ่อซ้วน เจ้าอาวาสวัดคลองน้ำเจ็ดมรณภาพ หลวงปู่แสงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดคลองน้ำเจ็ดสืบต่อมา
เป็นพระสงฆ์ที่มีเมตตาต่อบุคคลโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่นั้นจะมีผู้คนจากทั่วสารทิศ ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ มากราบนมัสการไม่เคยขาด บ้างก็มาขอวัตถุมงคล บ้างก็มาขอรดน้ำมนต์ หรือบ้างก็มาขอพร ซึ่งท่านก็จะเมตตาอนุเคราะห์ให้ตามที่ขอมา
เป็นพระสงฆ์อีกรูปหนึ่งของภาคใต้ที่ชาวบ้านเอาแผ่นทองไปปิดตามร่างกาย ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านมักจะบนบานขอให้ช่วยเหลือ เมื่อสมปรารถนาจึงเอาแผ่นทองมาปิดตามร่างกายท่านเพื่อเป็นการแก้บน
สมัยนั้นเมื่อใครไปกราบนมัสการจึงเห็นว่าตามร่างกายไม่ว่าจะเป็นแขน หน้าแข้ง หรือลำตัว มีแผนทองเหลืองปิดเต็มไปหมด ซึ่งท่านก็ไม่ได้แสดงอาการคันหรือรำคาญแต่อย่างใด แถมชาวบ้านบางคนยังขอลอกแผ่นทองตามร่างกายของท่านนำกลับไปบูชา เพื่อเป็นของดีกันอีกด้วย
นอกจากนี้ ชาวบ้านยังเชื่อกันว่าท่านมีญาณวิเศษ สามารถรับรู้วาระจิตและการบนบานอธิษฐานขอความช่วยเหลือของ ลูกศิษย์จากที่ไกลถึงต่างจังหวัดหรือต่างประเทศได้
อนุญาตให้คณะศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น แต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เหรียญรุ่นแรก สร้าง พ.ศ.2498 เมื่อครั้งที่ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูโอภาสวุฒิคุณ เป็นเหรียญปั๊มรูปไข่ขนาดค่อนข้างเล็ก เนื้อทองแดงรมดำ สร้างประมาณ 800-1,000 เหรียญถือเป็นรุ่นพิมพ์นิยม
ยังมีเหรียญรุ่นสร้างในปี 2520 เมื่อครบฉลองอายุ 91 ปี พ่อปู่แสง เนื่องจากออกแบบได้สวยงามและมีเนื้อหาดี จึงมีผู้คนนิยมหาไปสะสมบูชากันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเหรียญพิเศษ เนื้อทองแดงกะไหล่ทองขอบเหรียญเลื่อน ซึ่งเป็นลักษณะของเหรียญรุ่นเก่า ที่กรรมการสั่งทำเป็นพิเศษ
หลวงปู่แสงเคยปรารภกับชาวบ้านว่า หากจะบนบานต่อท่านให้บนบานกับเหรียญของท่านก็ได้ เพราะท่านสามารถรับรู้ได้เช่นกัน ซึ่งนับได้ว่ากระแสพลังจิตหรือญาณของท่านสูงส่งยิ่ง
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2527 หลวงปู่แสง มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา สิริอายุ 99 ปี พรรษา 77