สิ้น‘หลวงปู่ลี อรุโณ’ พระเถระสุปฏิปันโน

คอลัมน์ มงคลข่าวสด

สิ้น‘หลวงปู่ลี อรุโณ’ พระเถระสุปฏิปันโน – “หลวงปู่ลี อรุโณ” หรือ “พระครูมงคลธรรมาภิราม” เจ้าอาวาสวัดปทุมธรรมาราม บ้านชะโงม หมู่ 5 ต.ขามเฒ่า อ.เมือง จ.นครพนม พระสุปฏิปันโนที่อุทิศตนรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างเต็มกำลัง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวเมืองนครพนม

ยังเป็นพระนักพัฒนารูปหนึ่งที่มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งในต่างจังหวัดและในต่างแดน ทุกครั้งที่มีงานบุญทอดกฐิน ผ้าป่า ชาวบ้านในพื้นที่และลูกศิษย์จะพร้อมใจกันรวบรวมปัจจัยเพื่อมาก่อสร้างเสนาสนะ ถาวรวัตถุ ในวัดให้เจริญรุ่งเรือง

นอกจากนี้ ยังเป็นทายาทพุทธาคมจากหลวงปู่ตุ่น วัดปากห้วยม่วง ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม อีกด้วย

มีนามเดิม ลี สุนา เกิดในตระกูลชาวนา เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2463 ปีระกา ที่บ้านชะโงม บิดา-มารดาชื่อ นายโฮม และนางบัวพา เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทร 6 คน

ช่วงวัยเยาว์ขณะมีอายุ 12 ขวบ เข้าพิธีบรรพชา เพื่อบวชเรียนที่วัดสวัสดี บ้านชะโงม หมู่ 5 ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ราชพัสดุและเป็นศูนย์เด็กเล็กฯ

หลังบวชนาน 10 ปีจึงลาสิกขา ใช้ชีวิตฆราวาส มีครอบครัว

แต่หลังภรรยาเสียชีวิต ตั้งใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง และอยู่จวบจนสิ้นอายุขัย

สิ้น‘หลวงปู่ลี อรุโณ’ พระเถระสุปฏิปันโน

ในปีพ.ศ.2534 ขณะมีอายุ 71 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดจอมศรี ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม มีพระครูสิริปุญโญ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสิริปริยัติคุณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และเจ้าอธิการฉลาด เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จากนั้นย้ายมาที่ป่าช้ารกร้างหนองอีเฒ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน แต่สมัยก่อนพื้นที่แห่งนี้เป็นป่ารกร้าง ยังไม่มีศาลาการเปรียญ มีเพียงผ้าเต็นท์เก่าคลุมโยงผูกกับต้นไม้ เป็นศาลาชั่วคราว มีเพียงแคร่ไม้เก่าตั้งพระพุทธรูป หลังจากมาอยู่ได้ 1 ปีจึงเริ่มลงมือถากถางป่า

ต่อมาได้รับบริจาคที่ดินเนื้อที่ 13 ไร่ ให้สร้างวัด จึงเริ่มถากถางป่าและควักเงินส่วนตัวซื้อที่ดินเนื้อที่ 3 ไร่ เพิ่มเป็น 15 ไร่ มีเจ้าภาพที่ศรัทธาก่อสร้างอุโบสถ แล้วเสร็จเมื่อปี 2536 หลังจากดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี 2537 สร้างกุฏิ 6 หลัง ศาลาการเปรียญ ศาลาอเนกประสงค์ตามลำดับ จนวัดเจริญรุ่งเรืองสืบมา

กระทั่งปีพ.ศ.2552 ลูกหลานที่ไปทำงานต่างจังหวัดและต่างแดนเล็งเห็นว่าเพื่อให้วัดมีปูชนียสถานไว้เป็นที่ยึดเหนี่ยวศูนย์รวมจิตใจ จึงบริจาคเงินส่วนตัว ลงเสาเอก ก่อสร้างเจดีย์ด้านหลังอุโบสถ เป็นเจดีย์ความสูง 30 เมตร สูง 5 ชั้น

เจดีย์ชั้นบนสุดเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมพุ่มข้าวบิณฑ์ ฐานกว้างด้านละ 10 เมตร การก่อสร้างคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 60 แต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์และยังไม่ได้ตั้งชื่อเจดีย์

การก่อสร้างเจดีย์ใช้เงินกฐินและผ้าป่าที่ลูกหลานในต่างจังหวัดและต่างแดนเดินทางมาทอดถวายปีละ 5-6 แสนบาท นอกจากนี้ยังได้สร้างหอระฆัง ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง

สิ้น‘หลวงปู่ลี อรุโณ’ พระเถระสุปฏิปันโน

เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2550 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ชั้นโท ในราชทินนามที่พระครูมงคล ธรรมาภิราม

เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอันเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนอีกรูปของเมืองนครพนม

มีเจตนารมณ์สืบทอดและเผยแผ่ธรรมะ ตลอดจนการอบรมสั่งสอนแก่ศิษยานุศิษย์ทั่วไป ผู้ใดที่เข้ามากราบมาพบหลวงปู่ ทั้งที่มีปัญหาและไม่มีปัญหา จะได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ให้มุ่งมั่นทำแต่ความดี

หลวงปู่ลีมรณภาพด้วยโรคชราภาพ เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 18 พ.ค.2562 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา หลังอาพาธมานานกว่า 2 ปีในกุฏิ สิริอายุ 99 ปี พรรษา 26

สร้างความเศร้าสลดอาลัยเป็นอย่างยิ่ง

ต่อมาคณะสงฆ์นำโดยพระครูพิชิตพัฒนคุณ เจ้าคณะอำเภอเมืองนครพนม เป็นประธานสรงน้ำศพหลวงปู่ลี ก่อนตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่ศาลาการเปรียญวัด

เบื้องต้นตั้งศพสวดอภิธรรม 7 วัน 50 วัน และ 100 วัน ตามลำดับ

จากนั้นคณะกรรมการหมู่บ้าน คณะสงฆ์ จะร่วมประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดวันขอพระราชทานเพลิง คาดว่าเป็นช่วงหลังเทศกาลออกพรรษา

ข่าวเกี่ยวของ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน