เซียนเติง โพนสวรรค์ รู้จริงพระเครื่องสายอีสาน : มองอย่างเซียน

โดย ชนะ วสุรักคะ

เซียนเติง โพนสวรรค์ รู้จริงพระเครื่องสายอีสาน – “ผมไม่ใช่เซียนพระที่เก่งกาจมีชื่อเสียง แต่ชอบเข้าวัดทำบุญ มีความศรัทธาในพระเกจิสายอีสานที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงสะสมพระเครื่องและสร้างวัตถุมงคลมาหลายรุ่น” เป็นคำกล่าวของ “เติง โพนสวรรค์” นามจริง “ไชยวัฒน์ กุลยะ” เซียนพระหนุ่มวัย 48 ปี

เซียนเติง โพนสวรรค์

เซียนเติง พื้นเพเป็นชาว อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยนครพนม เมื่อปี พ.ศ.2546 เดิมมีอาชีพทำไร่ทำนา ก่อนผันมาทำสวนยางพารา ด้วยมีความรู้ทางเครื่องยนต์กลไกเป็นทุนเดิม หลังจบชั้น ปวส. จึงมาเปิด ร้านจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์และรับซ่อมใน อ.โพนสวรรค์ ชื่อร้านโพนสวรรค์เซอร์วิส และยังเปิดร้านอาหารติดกันชื่อ “ครัวไม่ขาดแคลน” ริมถนน ทล.2088

ช่วงปี พ.ศ.2552 หลวงปู่ประไพ อัคคธัมโม พระเกจิวิปัสสนาชื่อดัง วัดป่าศรีประไพ วนาราม บ้านขามเตี้ยน้อย ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ ศิษย์สืบสายธรรม หลวงปู่ผาง จิตตคุโณ วัดป่าอุดมคงคาคีรี อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น

เซียนเติงระบุว่า “หลวงปู่ประไพ เป็นพระเกจิสายป่าที่น่าเลื่อมใสศรัทธา มีความเป็นอยู่สมถะเรียบง่าย เมื่อได้สนทนาด้วยจะแฝงด้วยธรรมะ แม้ช่วงท่าน จำพรรษาอยู่ที่วัด ก็จะตระเวนสร้างวัดในพื้นที่ จ.นครพนม รวม 10 แห่ง ทั้งใน อ.โพนสวรรค์ อ.ท่าอุเทน เป็นต้น ถือว่าทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง”

“ก่อนท่านจะมรณภาพแค่ 1 ปี ในปี พ.ศ.2559 ขณะที่ผมอยู่ในกุฏิ หลวงปู่ประไพ ปรารภว่า จะทำอะไรก็รีบทำจะมรณภาพแล้ว กระทั่งในเวลา 02.45 น. วันที่ 12 ก.ค.2560 ท่านก็ละสังขารอย่างสงบตามที่ได้บอกไว้จริงๆ”

ย้อนไปในปี พ.ศ.2555 หลวงปู่ประไพ เป็นผู้อุปถัมภ์ในการสร้างพระธาตุโพนสวรรค์ สูง 56 เมตร เซียนเติง ในฐานะลูกศิษย์และลูกทีม “กุลชา กุลชา”จ.ส.อ.พิสุทธิ์วัชร์ มีสิทธิ์, ร.ต.ท.แสงเพชร หล้าเนิน ร่วมจัดสร้างเหรียญพระธาตุโพนสวรรค์ รุ่นแรก และชุดเบญจภาคี หลวงปู่ประไพ เพื่อหาทุนและรายได้สร้างพระธาตุ ดังกล่าว จนสร้างพระธาตุแล้วเสร็จในปี 2562

เซียนเติง โพนสวรรค์

เซียนเติงเล่าก่อนเข้าสู่วงการพระเครื่อง ว่า ปี 2555 เป็นช่วงรอยต่อระหว่างพระเก่าและพระใหม่ โดยเฉพาะพระใหม่กระแสแรง หลังสิ้นหลวงปู่ประไพ จึงได้หันมาศึกษาพระเครื่องจริงจัง ซื้อหนังสือพระเกจิทุกเล่มที่วางแผงมาศึกษา และสอบถามผู้รู้ ซึ่งแต่ละคนช่วงที่อินเตอร์เน็ตยัง ไม่แพร่หลาย เน้นศึกษาพระเครื่องหลวงปู่จันทร์ เขมิโย วัดศรีเทพประดิษฐาราม อ.เมือง จ.นครพนม”

จนมาในปี พ.ศ.2560 พระใหม่กระแสไปได้ดี จึงมีโอกาสกับทีมผู้สร้าง สร้างวัตถุมงคลหลวงปู่สอ ขันติโก อริยะสงฆ์ 6 แผ่นดินวัย 114 ปี วัดโพธิ์ศรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ช่วงนั้นสร้างวัตถุมงคลเหรียญรุ่นเจริญพร สร้างบารมี อริยทรัพย์ นาคเกี้ยวชนะมาร รูปหล่อหน้าแก่ และพระบูชา 5 นิ้ว เป็นต้น สร้างและแจกจ่ายวัตถุมงคลดังกล่าว รายได้ส่วนหนึ่งสมทบทุนรักษาหลวงปู่สอในยามอาพาธ

เมื่อเร็วๆ นี้ ยังสร้างเหรียญรุ่นแรก หลวงปู่ถนอม จันทวโร เหรียญมังกรคู่ พระเกจิแห่งวัดขามเตี้ยใหญ่ ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ เพื่อนำรายได้สร้างเสนาสนะศาลาอเนกประสงค์ ล่าสุดอยู่ระหว่างสร้างรูปหล่อเบ้าทุบ หลวงปู่หอม รตินธโร พระเกจิแห่งวัดไตรคามวสี อ.กุสุมาลย์ จ.สกลนคร เพื่อสร้างถนนคอนกรีตและกำแพงวัด

เซียนเติงกล่าวด้วยว่า “การสร้างวัตถุมงคล สิ่งสำคัญที่สุดหากเซียนพระไม่มุ่งหวังผลประโยชน์ในเชิงพุทธพาณิชย์จนเกินไป ไม่มุ่งเน้นแสวงหาความจริง ผู้ที่เช่าบูชาไปแล้วมารู้ทีหลัง ก็อาจเกิดความลังเล หมดศรัทธาต่อตนเอง ซึ่งมองว่าอาจหลอกลวงคนอื่นให้หลงเชื่อ อาจส่งผลถึงอานิสงส์ที่จะได้รับ เพื่อนฝูงหนีหาย การค้าขายไม่คล่องตัว ขาดการหนุนนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการพระเครื่อง เราทำบุญไปแล้วมีความสุข เป็นผู้ให้มากกว่าเป็นผู้รับ ชีวิตก็จะพบกับความสุขตลอดไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน