คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง

ราม วัชรประดิษฐ์

สิงห์บุรี ถือเป็นเมืองสำคัญและยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ชาติไทยเมืองหนึ่ง มีอดีตอันยาวนาน จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีพบว่า มีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณมาเป็นเวลาหลายยุคหลายสมัย สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าถึงเมืองสิงห์ ถวาย สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ไว้ในสาส์นสมเด็จ ความว่า …

“…เมืองสิงห์บุรีเป็นเมืองใหญ่และเก่า มีป้อมปราการ วัง วัดมหาธาตุ และของสำคัญคือพระนอนจักรสีห์ ใหญ่ยาวกว่าพระนอนองค์อื่นๆ ในเมืองไทย ทำเป็นแบบพระนอนอินเดีย เหมือนเช่นที่ถ้ำคูหาภิมุข วัดคูหาภิมุข อำเภอเมืองยะลา คือ พระกรขวาศอกยื่นไปทางด้านหน้า ไม่ทำงอพระกรตั้งขึ้นรับพระเศียรแบบพระนอนไทย เมืองสิงห์เรียกชื่อต่างๆ ดังนี้ เมืองสิงหราชาธิราช เมืองสิงหราชา เป็นเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำจักรสีห์อันเป็นลำน้ำใหญ่ ห่างแม่น้ำเจ้าพระยา 200 เส้น เพราะแม่น้ำจักรสีห์ตื้นเขิน เมืองสิงห์จึงกลายเป็นเมืองอยู่ลับลี้…”

ปัจจุบัน จังหวัดสิงห์บุรี มีทั้งหมด 6 อำเภอ ซึ่งแต่ละอำเภอก็จะมีความสำคัญ มีประวัติศาสตร์กล่าวอ้างให้ได้รำลึกถึง มีโบราณสถาน โบราณวัตถุ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายให้ได้เยี่ยมชม รวมถึงตำนานที่เล่าขานสืบต่อกันมา โดยเฉพาะ 2 อำเภอ ที่นับเป็นความเชื่อความศรัทธาของชาวเมือง จนกลายเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองสิงห์บุรี กับวลีอันคล้องจองและเป็นที่รู้จักของผู้รักการเดินทางท่องเที่ยว ที่ว่า …

“ไหว้พระพรหมที่เมืองพรหม ไหว้พระอินทร์ที่เมืองอินทร์”

เมืองพรหม คือ อ.พรหมบุรี สื่อความหมายถึง “ที่อยู่ของพระพรหม” ที่มีพระพรหมเป็นเทพเจ้าประจำเมืองและเมืองอินทร์ ก็คือ อ.อินทร์บุรี “ที่อยู่ของพระอินทร์” มีพระอินทร์เป็นเทพเจ้าประจำเมือง ตามตำนานเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่ในอดีต ในที่นี้จะกล่าวถึง “เทวาลัยพระพรหม ณ อ.พรหมบุรี”

ในปี พ.ศ.2551 นายประภาส บุญยินดี ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีขณะนั้น ได้รับคำปรารภจากหลายฝ่าย รวมทั้งพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดสิงห์บุรีอยู่เสมอๆ ว่า ควรจะสร้าง “รูปเคารพของพระพรหม” เพื่อเป็นมิ่งมงคลแก่ภูมิสถานและชาวบ้านชาวเมือง กอปรกับ ที่ อ.พรหมบุรี เป็นสถานที่ตั้งของวัดอัมพวัน วัดสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ มี พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน พระสุปฏิปันโน เป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายแวะเวียนมาที่วัดกันแน่นขนัด โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด

บรรดาลูกศิษย์ลูกหาและผู้มีจิตศรัทธา จึงถือฤกษ์มงคลในโอกาสครบรอบ 80 ปี ของ หลวงพ่อจรัญ ในปี พ.ศ.2551 ร่วมกันสร้าง “เทวาลัยพระพรหม” ขึ้น ที่ อ.พรหมบุรี เลยทางเข้าวัดอัมพวันไปเล็กน้อย เพื่อเป็นที่ระลึก และสืบสานตำนานเก่าแก่ของเมือง เผยแพร่ประวัติของหัวเมืองพรหมในอดีต

เทวาลัยพระพรหม ประดิษฐานพระพรหมองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สีทองอร่าม มองเห็นแต่ไกล มี 4 พระพักตร์ 8 พระกร ทรงจักร หอยสังข์ คัมภีร์ คนโท คทา บ่วง ดอกบัว และลูกประคำ ด้านหน้าประดิษฐานองค์ขนาดปกติอีกองค์หนึ่ง การสักการะขอพร จะเดินเวียนขวารอบพระพรหม 3 รอบ (ตามเข็มนาฬิกา) ขอพรทุกพระพักตร์ … พระพักตร์แรก “พระพักตร์เมตตา” ประทานพรเรื่องงาน เรียน และเรื่อง รับผิดชอบในชีวิต พระพักตร์ที่สอง “พระพักตร์กรุณา” ประทานพรเรื่องอสังหาริมทรัพย์ บ้าน ที่ดิน รถ พระพักตร์ที่สาม “พระพักตร์มุทิตา” ประทานพรเรื่องสุขภาพ ครอบครัว คู่ครอง และ พระพักตร์ที่สี่ “พระพักตร์อุเบกขา” ประทานพรเกี่ยวกับโชคลาภ เงิน ทอง การขอบุตร

คาถาบูชาว่า “โอม พราหมเณ นะมะ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา” (คำแปล) ขอเคารพพระพรหม…เมตตา สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้มิสุข…กรุณา สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้มีทุกข์…มุทิตา ยินดีในการบุญ… อุเบกขา วางเฉยในบาป

เทวาลัยพระพรหม นับเป็นเอกลักษณ์สำคัญ สืบตำนานเก่าแก่ของ อ.พรหมบุรี และเป็นสถานที่รำลึกถึง พระธรรมสิงหบุราจารย์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน