ยลภายในองค์พระธาตุพนม สักการะอุรังคธาตุพระพุทธเจ้า

ยลภายในองค์พระธาตุพนม – “พระธาตุพนม” ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ ของพุทธศาสนิกชนไทย-ลาวสองฝั่งโขง มี พระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัด

เป็นเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก่อด้วยอิฐ ฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 57 เมตร ภายในประดิษฐานพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) พระพุทธเจ้า ประดับตกแต่งด้วยศิลปะลวดลายอันประณีตวิจิตรทั้งองค์

พระเครื่อง

 

พระธาตุประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และพระธาตุประจำวันเกิดนักษัตรผู้ที่เกิดปีวอก

ตามตำนานกล่าวไว้ว่า สร้างเมื่อพ.ศ.8 ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์รุ่งเรือง โดยท้าวพญาทั้ง 5 คือ พญานันทเสน พญามณี จุลพรหมทัต พญาอินทปัตถนคร พญาคำแดง และพญาสุวรรณพิงคาระ พระมหากัสสปะพร้อมพระอรหันต์ 500 รูป

มีการบูรณะครั้งที่ 1 ในราวพ.ศ.500 และบูรณปฏิสังขรณ์ตามลำดับ จนกระทั่งวันที่ 11 ส.ค.2518 พระธาตุพนมได้หักล้มพังทลายลง จากเหตุพายุฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ก่อนที่จะมีการบูรณะแล้วเสร็จในปีพ.ศ.2522 สมัยรัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นนายกรัฐมนตรี

พระเครื่อง

ภายในองค์พระธาตุพนมนอกจากจะบรรจุสิ่งของ เครื่องใช้ในสมัยโบราณ พระพุทธรูปปางต่างๆ นับหมื่นชิ้นแล้ว ภายในยังมีบันไดสามารถปีนป่ายไปจนถึงยอดพระธาตุชั้นที่ 6

พระครูพนมปรีชากร เลขานุการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมกล่าวว่า พระธาตุพนมมีความสูงถึงยอดฉัตร 57 เมตร แบ่งเป็น 6 ชั้น ชั้น 1 คือส่วนฐานพระธาตุพนม เมื่อเข้าไปจะพบเห็นฐานพระธาตุองค์เก่าที่หักล้มในปีพ.ศ.2518 สามารถเดินรอบได้

ชั้นที่ 2 หลังไต่ขึ้นบันไดลิงที่ติดตั้งข้างผนัง จะพบพระพุทธรูปที่ญาติโยมนำมาบรรจุเอาไว้หลายร้อยองค์ หนึ่งในนั้นคือ พระพุทธรูปของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินทรงมาบรรจุไว้

พระเครื่อง

ชั้นที่ 3 ถือเป็นหัวใจสำคัญของพระบรมธาตุเจดีย์ เป็นชั้นที่บรรจุพระอุรังคธาตุ (ส่วนหน้าอก) ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงนำต้นไม้เงินต้นไม้ทอง เทียนเงินเทียนทอง มาถวายสักการะพระอุรังคธาตุบนชั้น 3 คณะญาติโยมผู้ที่ขึ้นไปก็จะพบเห็น

ชั้นที่ 4 เป็นมณฑปครอบพระอุรังคธาตุ 9 ชั้น มีพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยโบราณบรรจุไว้ ชั้น 5 เป็นชั้นมหาปราสาท จะเห็นมหาปราสาท ติดกำแพงด้านทิศใต้ขององค์พระธาตุพนม ชั้นนี้บรรจุคัมภีร์ใบลาน บอกเล่าเรื่องราวขององค์พระธาตุพนม ตลอดจนธรรมะคำสอนต่างๆ

ชั้นที่ 6 ชั้นสุดท้าย เมื่อขึ้นไปจะพบเห็นพระพุทธรูปทองคำ ปัจจุบันมี 3 องค์ หน้าตัก 9 นิ้ว และหลายขนาดที่ญาติโยมศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนม ได้สร้างถวายเพื่อมาประดิษฐาน เลยชั้น 6 ขึ้นไปจะเป็นบันไดออกสู่ด้านนอกพระธาตุพนม จะมีปล่องไว้ลอดออกเพื่อปรับเปลี่ยนหลอดไฟ

พระเครื่อง

พระครูพนมปรีชากรกล่าวต่อว่า การเข้าไปกราบในองค์พระธาตุพนมชั้นในมีข้อห้ามไว้ ห้ามผู้หญิงเข้าไปโดยเด็ดขาด แม้กระทั่งภายในกำแพงแก้ว ส่วนญาติโยมผู้ชายที่จะเข้าไปนั้นต้องมีวัตถุประสงค์ว่าเข้าไปเพื่ออะไร บางท่านมีความประสงค์จะนำเอาพระพุทธรูปเพื่อประดิษฐานไว้ ก็สามารถเข้าไปได้

“ผู้ที่จะเข้าไปภายในจะต้องเปลี่ยนชุดนุ่ง ขาวห่มขาวที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ และได้รับอนุญาตจากทางวัดเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น โดยพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาส อนุญาตเสียก่อน ขณะเข้าไปจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำวัดพาขึ้นไป นุ่งขาวห่มขาวแล้วต้องรับศีลห้า หลังบรรจุพระพุทธรูปบนแท่นฐานชั้นที่ 1 เมื่อออกมาต้องขอขมาทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นบาปเป็นกรรมติดตัวไป”

พระครูพนมปรีชากรกล่าวด้วยว่า ผู้ที่เข้าแล้วปกติจะก้าวข้ามพระพุทธรูปที่บรรจุไว้ตั้งแต่ชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นฐานพระธาตุตั้งแต่สมัยกรมศิลปากรมาบูรณะ สมัยนั้นได้ตอกเสาเข็ม 44 ต้น จะนำพระพุทธรูปทองคำบรรจุในฐาน เมื่อก้าวย่างขึ้นไปเท่ากับว่าเหยียบกายพระพุทธรูปแล้ว จึงต้องมีการขอขมาดังกล่าว

สำหรับการขอขมา หากญาติโยมคนใดหลงลืมหรือพลาดพลั้ง อาจเผลอโดยไม่มีเจตนา ให้ตั้งจิตตั้งใจอธิษฐานจิตขอขมาที่บ้านว่า “ข้าพเจ้าได้ประมาทล่วงเกินต่อพระธาตุพนม ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ขอเดชอำนาจพระธาตุได้อโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า เพื่อไม่ได้เป็นบาปเป็นกรรมเวรเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าและครอบครัว”

โดย ชนะ วสุรักคะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน