คอลัมน์ อริยะโลกที่6

“สมเด็จพระวันรัต” (นิรันดร์ นิรันตโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม พระเถระผู้รับธุระงานพระศาสนาอย่างอเนกประการ ด้วยวิริยอุตสาหะอันมากด้วยภูมิรู้และภูมิธรรมยิ่ง ล้วนก่อประโยชน์และความเจริญแก่งานคณะสงฆ์อย่างต่อเนื่อง

เป็นชาวชลบุรีโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 12 ก.พ.2458 ที่ซอยคูกำพล ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี

บรรพชาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.2474 ขณะอายุ 16 ปี ที่วัดเทพศิรินทราวาส โดยมี สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) วัดเทพศิรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระเทพกวี (จั่น วิจญฺจโล) วัดเทพศิรินทร์ เป็นพระบรรพชาจารย์

อุปสมบทเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2479 ที่พัทธสีมาวัดเทพศิรินทร์ มี สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระเขมทัสสี (เมฆิยเถระ) วัดเขาบางทราย อ.เมือง ชลบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ด้านภูมิวิชาความรู้ จบการศึกษาสายสามัญ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนชลราษฎรอำรุง อ.เมืองชลบุรี จบเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อปีพ.ศ.2481

วัตรปฏิบัติน่าเลื่อมใสยกย่อง เป็นพระที่สมถะ เรียบง่าย ไม่ถือตัว ไร้ทิฐิ ยึดมั่นในคำสอนพระอุปัชฌาย์ สานงานจนเป็นรูปธรรม ทั้งการศึกษาและงานเผยแผ่

กล่าวสำหรับหลักธรรม ถูกบรรจุในหัวสมองแต่เป็นพระมหารุ่นหนุ่ม กล่าวกันในหมู่ศิษย์ว่า ท่านเป็นตู้พระไตรปิฎกเคลื่อนที่ เป็นคลังปัญญาที่หาตัวจับยาก เหตุเป็นผู้ค้นคว้า สมัยเป็นหนุ่มไม่เคยเก็บงำทรัพย์สินเงินทองที่ได้จากการบริจาค นำไปซื้อตำรับตำรา ด้วยประสงค์จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์คลังความรู้ เพื่อการศึกษาของพระสงฆ์

อีกทั้งความเมตตา เมื่อชาวบ้านละแวกวัดถูกไวยาวัจกรไล่ที่จนไร้ที่ซุกหัวนอนและที่ทำกิน ในฐานะอธิบดีสงฆ์ท่านหาได้นิ่งนอนใจ ไกล่เกลี่ยด้วยคุณธรรม กรณีพิพาทจึงสงบแต่นั้นมา

งานด้านตำรา ช่วยชำระคัมภีร์อพิธานัปปทีปิกา คัมภีร์ธาตุปปทีปิกา และตำราเรียนต่างๆ อีกมากมายในกองตำรามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

งานบูรณปฏิสังขรณ์ แต่ครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุสิ่งก่อสร้างในพระอารามที่ชำรุด อาทิ ซุ้มประตูหน้าวัด ซุ้มระฆัง ศาลาบริเวณพระอุโบสถ พระอุโบสถ กำแพงแก้วรอบพระอุโบสถ กุฏิเจ้าอาวาส หอระฆัง ขุดลอกสระน้ำ ฯลฯ

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2490 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระนิรันตรญาณมุนี ชั้นราชในราชทินนามเดิม ชั้นเทพที่พระเทพโมลี ชั้นธรรมที่พระธรรมไตรโลกาจารย์ รองสมเด็จพระราชาคณะ ที่พระสาสนโสภณ

พ.ศ.2539 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ที่ “สมเด็จพระวันรัต”

สมเด็จพระวันรัตเป็นที่รักยิ่งของศิษย์ ก่อนสิ้นลมท่านในฐานะเป็นลูกคนจีนเก่าแก่ ฝากพินัยกรรมชิ้นสุดท้าย อันเป็นสมบัติส่วนตัวของท่านที่ได้มาแต่บรรพบุรุษ คือ ที่ดินกว่า 100 ไร่ ที่กระจายตามพื้นที่ต่างๆ ใน จ.ชลบุรี

ท่านสั่งกำชับว่า “ใกล้กับวัดใดให้ถวายเป็นสมบัติของวัดนั้น”

รายได้จากงานศพของท่านมอบให้โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ เพื่อช่วยเหลือการศึกษาของเยาวชน ซึ่งท่านเป็นที่ปรึกษาอยู่ และมอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเพิ่มทุน “80 ปี พระสาสโสภณ”

เมื่อเวลา 19.25 น. วันที่ 20 พ.ย.2546 ท่านละสังขารด้วยระบบหัวใจล้มเหลว ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กรุงเทพฯ สิริอายุ 89 ปี พรรษา 67

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานโกศไม้สิบสองและรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมเวลากลางคืนตลอด 7 คืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน