พระครูวิสุทธิสังฆคุณ – “พระครูวิสุทธิสังฆคุณ” หรือ “หลวงปู่คาน วิสุทโธ” อดีตเจ้าอาวาสวัดบูรพาหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ อดีตเจ้าคณะอำเภอแกดำ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีเมตตาธรรมสูง
สืบสายธรรมจากหลวงปู่เนียม พุทธสโร แห่งวัดศรีบุญเรือง (วัดบ้านหนองหล่ม) ต.ดอนหว่าน อ.แกดำ จ.มหาสารคาม พระเกจิชื่อดังมหาสารคาม
เกิดในสกุล จันทะฤทธิ์ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2466 ที่บ้านดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม บิดา-มารดา ชื่อ นายเภาและนางหมื่อ จันทะฤทธิ์
จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบ้านหนองหล่ม ต้องออกมาช่วยงานครอบครัวทำไร่ทำนา
อายุ 20 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ.2487 เข้าพิธีอุปสมบท ที่อุโบสถวัดบ้านหัวหนอง ต.ดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม โดยมีเจ้าอธิการเนียม พุทธสโร วัดศรีบุญเรือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระบุญมา เตชวโร วัดบ้านหัวหนอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระบุญ อมโร วัดศรีบุญเรือง เป็นพระอนุสาวนาจารย์
อยู่จำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง มุมานะศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ
นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจด้านวิทยาคม ขณะนั้นหลวงปู่เนียม พระอุปัชฌาย์มีชื่อเสียงในฐานะพระเกจิ จึงขอฝากตัวศิษย์
หลวงปู่เนียมให้ความเมตตาถ่ายทอดวิทยาคมให้จนหมดสิ้น รวมทั้งยังสอนอ่านเขียนอักษรธรรม อักษรไทยน้อย ทำให้มีความรู้ในการอ่านเขียนอักขระโบราณอีกแขนง
ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ซึ่งได้อุทิศตนพัฒนาวัดแห่งนี้จนเจริญรุ่งเรืองทุกด้าน จนถึงปี พ.ศ.2534 จึงย้ายไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบูรพาหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ
ด้วยวัตรปฏิบัติที่เสมอต้นเสมอปลาย หลวงปู่คานจึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนในพื้นที่ ในแต่ละวันจึงมีผู้มากราบนมัสการ รับฟังธรรม และประพรมน้ำพระพุทธมนต์เสริมความเป็นสิริมงคล รวมทั้งปรารถนาวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนรุ่น 1 ที่เข้มขลังอย่างไม่ขาดสาย
สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาค จะนำมาพัฒนาวัดบูรพาหนองบัว ต.วังแสง อ.แกดำ จ.มหาสารคาม จนเจริญรุ่งเรืองไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ อาคารเรียนพระปริยัติธรรม กำแพงแก้ว ศาลาการเปรียญ เป็นต้น
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2497 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง พ.ศ.2508 เป็นเจ้าคณะตำบลดอนหว่าน พ.ศ.2535 เจ้าอาวาสวัดบูรพาหนองบัว พ.ศ.2542 เป็นเจ้าคณะอำเภอแกดำ
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรีที่ พระครูวิสุทธิสังฆคุณ พ.ศ.2538 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
จนถึงปี พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
หลักธรรมคำสอนที่หลวงปู่คานพร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอดเป็นเรื่องของความไม่เที่ยงของสังขาร สรรพสิ่งในโลกที่เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็จะเสื่อมและดับไป ดังนั้นพุทธศาสนิกชนจะต้องดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาท หมั่นประพฤติปฏิบัติแต่กรรมดี ยึดศีล 5 เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างเคร่งครัด หากทำได้ทั้งตนเองและครอบครัวจะพานพบแต่ความสุขและความเจริญ
ล่วงเข้าปัจฉิมวัย หลังจากที่หลวงปู่คานได้พ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอแกดำ ท่านก็ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอแกดำ ได้กลับมาจำพรรษาอยู่วัดศรีบุญเรือง บ้านหนองหล่ม ซึ่งเป็นถิ่นมาตุภูมิ ได้อยู่ใกล้ชิดญาติพี่น้องช่วงบั้นปลายของชีวิต
ด้วยความไม่เที่ยงของสังขารท่านอาพาธบ่อยครั้งเพราะความชราภาพ แต่ยังรับงานนิมนต์อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยด้วยญาติโยมมีศรัทธาจะปฏิเสธไม่ได้ บางครั้งอาการกำเริบหนักท่านยังฝืนสังขารไปตามกิจนิมนต์ที่รับไว้
หลังตรากตรำรับใช้พระพุทธศาสนามายาวนาน สุดท้ายได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2556
สิริอายุ 90 ปี พรรษา 69
เชิด ขันตี ณ พล
