หลวงพ่ออุย อภิวัฑฒโน วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม
คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6
หลวงพ่ออุย อภิวัฑฒโน – พระครูนิภาสธรรมวัฒน์ หรือ หลวงพ่ออุย อภิวัฑฒโน เจ้าอาวาสวัด ช่องคีรีศรีสิทธิวราราม อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อดีตพระเกจิเรืองวิทยาคม ชื่อเสียงโด่งดัง
มีนามเดิมว่า มณี ภู่บัว เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 เม.ย. 2460 เกิดที่บ้านโคกหนองไผ่ หมู่ 2 ต.สายออ อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา บิดา–มารดา ชื่อ นายโขนและนางศรีไพร ภู่บัว ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา
เหตุที่เรียกว่า อุย เนื่องมาจากตอนเด็กมีรูปร่างอ้วนอุย จึงถูกเรียกขานกันว่า “อุย”
ในวัยเด็ก เรียนหนังสือจบชั้นประถมปีที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2475 ที่โรงเรียนประชาบาลวัดโคกหนองไผ่ พร้อมทั้งช่วยครอบครัว ทำนา
ต่อมาทางราชการเกณฑ์คนหนุ่มส่งไปจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อพัฒนาเป็นเมืองหลวงแห่งที่ 2 และมีข่าวว่าคนหนุ่มที่ถูกส่งไปป่วยเป็นไข้ป่า เสียชีวิตจำนวนมาก ทางครอบครัวจึงส่งให้มาอยู่กับลุงที่นครสวรรค์ ที่บ้านวังม้า ต.วังม้า อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์
ในปีเดียวกัน (พ.ศ.2486) ญาติจัดการอุปสมบทให้ที่วัดวังม้า ขณะนั้นอายุได้ 26 ปี อุปสมบทเมื่อวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 มีหลวงพ่อภู่ วัดลาดยาว เป็นพระอุปัฌาย์, หลวงพ่อสิงห์ วัดดอนโพธิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดวังม้า เป็นพระ อนุสาวนาจารย์
อยู่จำพรรษาที่วัดวังม้า พ.ศ.2487 จำพรรษาที่วัดโพธาราม พ.ศ.2488 จำพรรษาที่วัดยาง (วัดสุคตวราราม) และย้ายมาจำพรรษาที่วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม
พ.ศ.2489 สอบได้นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนวัดนครสวรรค์
ในคราวแรกสภาพวัดช่องคีรีศรีสิทธิวรารามเต็มไปด้วยป่าไม้ ในช่วงแรกที่มาอยู่ จำพรรษา มีพระสงฆ์เพียง 3 รูปเท่านั้น
ศึกษาวิทยาคมจากหลวงพ่อประสิทธิ์ วัดวังม้า ซึ่งเป็นพระเถระที่มีอายุกาลพรรษาสูงและมีวิทยาคมรูปหนึ่งของเมืองนครสวรรค์ ทั้งยังศึกษาวิชาจากพระเถระอีกหลายรูปที่มีชื่อเสียงของนครสวรรค์
พ.ศ.2524 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูชั้นประทวน พ.ศ.2552 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูนิภาสธรรมวัฒน์
เริ่มก่อสร้างโบสถ์ในปี พ.ศ.2507 ใช้เวลาก่อสร้าง 7 ปี จึงแล้วเสร็จ เมื่อปี พ.ศ.2514 ก่อสร้างศาสนวัตถุ ทั้งโบสถ์วิหาร ศาลาการเปรียญ ด้วยความร่วมมือของผู้ที่ศรัทธาในวัตรปฏิบัติของท่าน
นอกจากนี้ ยังบริจาคทรัพย์สร้างโบสถ์ ศาลา กุฏิ ที่วัดโคกหนองไผ่ บ้านเดิม 5 ล้านบาท ตั้งมูลนิธิโรคเอดส์ให้โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ด้วยทุน 2 ล้านบาท สร้างศูนย์สุขภาพชุมชนวัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม 1 ล้านบาท ตั้งมูลนิธิหลวงพ่ออุย ภู่บัว เพื่อการศึกษาให้โรงเรียนเทศบาล 5 วัดช่องคีรีศรีสิทธิวราราม 1 ล้าน 3 แสนบาท
วัตรปฏิบัติที่สำคัญคือ การออกบิณฑบาตทุกเช้าตั้งแต่ตี 5 หลวงพ่ออุยจะเดินบิณฑบาตไปรอบตลาดปากน้ำโพและกลับถึงวัดเวลาประมาณ 07.00 น. ต่อมาอายุได้ 83 ปี หลวงพ่อต้องหยุดบิณฑบาต เนื่องจากอายุมากขึ้นและเคยได้รับอุบัติเหตุ รวมทั้งถูกแก้วบาดเท้าเวลาบิณฑบาต ปัจจุบันนี้ทุกวันหลวงพ่ออุยยังคงเดินจงกรมรอบโบสถ์ทุกวันเพื่อเป็นการออกกำลังกายและฝึกสมาธิควบคู่ไปพร้อมกัน
อีกประการหนึ่งที่หลวงพ่ออุยปฏิบัติเป็นประจำคือ การฉันเอกา ท่านฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียวคือ มื้อเพล ท่านมักสอนผู้ที่มากราบไหว้ท่านว่า “เช้าๆ อย่าขี้เกียจเดิน มันเป็นยาขนานเอก” และท่านยังแนะนำหลักธรรมในการปฏิบัติตนของชาวพุทธว่า “รักษาศีล 5 ให้ครบถ้วนก็เพียงพอแล้ว”
ด้านวัตถุมงคล มักจะมีผู้มีจิตศรัทธาสร้างมาให้เสกและให้มอบให้ ไม่มีการให้เช่าบูชา แทบทุกรุ่นจะไม่มีเหลืออยู่ที่วัด และวัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วไป อาทิ เหรียญรูปไข่ รุ่นแรก สร้าง พ.ศ.2513 จนเป็นที่แสวงหาและมีราคาค่านิยมมาก
มรณภาพอย่างสงบ เมื่อเวลา 07.52 น. วันที่ 7 เม.ย.2556 ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ด้วยโรคชรา สิริอายุ 96 ปี
แม้ท่านจะละสังขารไปนานกว่า 6 ปีแล้ว แต่นามของหลวงพ่ออุยยังคงอยู่ในศรัทธาของสาธุชนและศิษยานุศิษย์มิรู้เสื่อมคลาย