หลวงพ่อโปร่งโชติโก วัดถ้ำพรุตะเคียน จ.ชุมพร : อริยะโลกที่ 6
หลวงพ่อโปร่งโชติโก – หรือ พระครู โสตถยาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดถ้ำ พรุตะเคียน ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พระเถระนักปฏิบัติที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และยังเป็นพระนักพัฒนา ทำให้เป็นที่นับถือศรัทธา
นามเดิมว่า โปร่ง อยู่กลัด เกิดเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2473 ที่บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 5 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี บิดา–มารดา ชื่อนายเปรื่องและนางทองหล่อ อยู่กลัด มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 4 คน
เรียนประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดราง กำหยาด อ.บางเลน จ.นครปฐม ส่วนชั้นประถมปีที่ 4 ท่านได้ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนชมนิมิต ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ครั้นอายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ในช่วงพรรษาแรก ได้ไปเรียนกัมมัฏฐานกับ หลวงปู่หลิม ที่วัดน้อย ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี
ภายหลัง ได้มีผู้หญิงมาชอบ เห็นว่าจะอยู่ไม่ได้ จึงลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตฆราวาสอีกครั้ง หลังจากสึกแล้วก็ไปอยู่ที่หัวหิน ไปทำงานเป็นนายท้ายเรือตังเก จากนั้นได้มีครอบครัว โดยได้ลูกสาวตำรวจมาเป็นคู่ชีวิต มีบุตรด้วยกัน 3 คน
ต่อมาจึงได้คิดกลับมาอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อปี พ.ศ.2519 ที่วัดนาขวาง ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2519 โดยมีพระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวงพ่อสุด) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์น้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูพยนต์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์
จำพรรษาอยู่ที่วัดนาขวาง 1 พรรษา จากนั้นขออนุญาตหลวงพ่อสุดออกท่องธุดงค์ ครั้งหนึ่งได้ไปจำพรรษาที่วัดถ้ำเขาพลู อ.ปะทิว จ.ชุมพร ด้วยวัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใส ทำให้ชาวบ้านเกิดความศรัทธาจึงได้ช่วยกันสร้างกุฏิไม้ให้ 1 หลัง สร้างศาลาเอาไว้ทำบุญ และฟังธรรม
จนถึงปี พ.ศ.2528 ชาวบ้านได้ขอร้องให้อยู่เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้าน โดยร่วมกันสร้างกุฏิไม้บนยอดเขาเพิ่มขึ้น และได้ จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ถ้ำพรุตะเคียน
ต่อมาในปี พ.ศ.2532 ได้เกิดพายุเกย์ขึ้นที่ จ.ชุมพร เกิดความเสียหายไปทั่ว ทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกหักโค่นราบเป็นหน้ากลอง บ้านเรือนถูกพัดพังเสียหายจำนวนมาก
หลังจากชาวบ้านได้ช่วยกันฟื้นฟูหมู่บ้าน อีกทั้งแรงศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมา จึงได้ช่วยกันก่อสร้างพัฒนาสำนักสงฆ์ถ้ำพรุตะเคียน ทำให้มีกุฏิปูน จำนวน 30 หลัง กุฏิไม้ จำนวน 31 หลัง
นอกจากนี้ พุทธศาสนิกชนยังได้ร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ ศาลาหอฉัน ศาลาอเนกประสงค์ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ หอระฆัง และพระอุโบสถ กระทั่งปี พ.ศ.2547 ได้รับการยกฐานะเป็นวัด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2554
หลวงพ่อโปร่ง เป็นพระเถระที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้าน ด้วยเพราะเป็นพระนักพัฒนาและพระนักอนุรักษ์
พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระครูโสตถยาธิคุณ
ด้านวัตถุมงคล เนื่องจากหลวงพ่อโปร่ง เป็นพระสายกัมมัฏฐาน ไม่นิยมการสร้างวัตถุมงคลแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่อาจขัดศรัทธาญาติโยมได้
ได้จัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาหลายรุ่น เป็นที่เชื่อถือในความศักดิ์สิทธิ์ จึงมีผู้ศรัทธาเลื่อมใส ไปขอบูชามากมายจนชื่อเสียงของท่านโด่งดังไปในหลายจังหวัด วันที่ 2 ก.ย.2562 มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 89 ปี พรรษา 43