พระโอวาทมอบนายกฯ-ครม. ให้มีสติระลึกรู้-ไม่เหลิงอำนาจ
พระโอวาทมอบนายกฯ-ครม.- ช่วงบ่ายวันที่ 28 สิงหาคม 2562 สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จทรงเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 21/2562 ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
ในโอกาสนี้ ประทานพระวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เฝ้าถวายสักการะ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของรัฐบาลนี้ และเป็นทำเนียบของรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคล
ทั้งนี้ นายกฯ ถวายพวงมาลัยและจุดธูปเทียนบูชาพระศรีศากยะทศพลญาณ ประธานพุทธมณฑลสุทรรศน์
จากนั้น เมื่อสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จถึงห้องประชุมเถรสมาคม นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ทูลถวายเครื่องสักการะ เปิดกรวยกระทงดอกไม้พานธูปเทียนแพ ถวายพานดอกบัว ผ้าไตร และเครื่องไทยธรรม
สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระโอวาท ความตอนหนึ่งว่า “เจริญพร ท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทุกท่าน, ในนามของคณะสงฆ์ อาตมภาพขออนุโมทนาสาธุการ ที่ท่านมาถวายสักการะ และแสดงเจตจำนงที่จะสนับสนุนกิจการของคณะสงฆ์ และพระพุทธศาสนา ดุจดังที่บรรพชนไทย ได้ปฏิบัติบำเพ็ญ เป็นอุดมการณ์ของชีวิตสืบมาทุกยุคทุกสมัย
ท่านทั้งหลายให้เข้ามาดำรงตำแหน่งสูงสุดในฝ่ายบริหาร ย่อมมีหน้าที่สำคัญในการทำนุบำรุงบ้านเมืองไทย ให้เป็นปกติสุขร่มเย็น มีความมั่นคงปลอดภัย และเจริญก้าวหน้าในทุกด้าน การทำ “หน้าที่” ตาม “ตำแหน่ง” ที่ท่านดำรงอยู่ ย่อมต้องใช้ “อำนาจ” เป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำงาน ธรรมดาของบุคคลผู้มีอำนาจ แต่ขาด “สติ สัมปชัญญะ” ย่อมเผลอตัวเผลอใจใช้อำนาจไปในทางที่ผิด ในทางที่มิชอบ จนก่อให้เกิดภยันตรายทั้งต่อตนเองและต่อสังคมส่วนรวม
อาตมภาพจึงขอเน้นย้ำให้ท่านทั้งหลาย จงหมั่นฝึกฝนอบรมตนให้มีสติระลึกรู้ เป็นเครื่องกำกับการกระทำทางกาย และทางวาจาอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดภาวะเหลิงอำนาจ หรือหลงอำนาจ จนนำไปสู่การกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ว่า สติสัมปชัญญะ เป็นธรรมอันมีอุปการะมาก เพราะฉะนั้น การทำงานในทุกระดับ หากมีสติเป็นเครื่องระลึก มีสัมปชัญญะเป็นเครื่องรู้ตัว ให้สามารถเหนี่ยวรั้งจิตใจตนอยู่เสมอแล้ว ความผิดพลาดก็จะไม่เกิดขึ้น หรือหากมีความผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง ก็จะสามารถแก้ไขได้ทันท่วงที ก่อนจะเกิดความเสียหายใหญ่หลวงมากขึ้นจนเหนือความควบคุม
ขอทุกท่านจงมีสติระลึกรู้ไว้เสมอว่า ความชอบด้วยกฎหมายและความชอบธรรมแห่งฐานะที่ดำรงอยู่ พร้อมทั้งความชอบด้วยกฎหมาย และความชอบธรรมในทุกการกระทำตามฐานะที่ดำรงอยู่ คืออำนาจ
ที่แท้จริง อำนาจไม่อาจเกิดได้โดยชอบ หากไม่มีรากฐานจากคุณธรรม จึงขอให้ ทุกท่านจงมั่นคงในคุณธรรมจริยธรรมของความเป็นผู้ใหญ่ พรั่งพร้อมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ อดทน และพากเพียร ในอันที่จะประกอบกรณียกิจน้อยใหญ่ เพื่อจรรโลงสถาบันหลักของชาติ และประชาชน ให้ประสบความรุ่งเรืองไพบูลย์สืบไป
ขออำนาจแห่งความดีงามที่ท่านได้บำเพ็ญ จงเป็นเครื่องปกป้องคุ้มครองให้ท่านทั้งหลาย ปราศจากทุกข์โทษทั้งปวง เจริญพร้อมด้วย จตุรพิธพรชัย คืออายุ วรรณะ สุขะ พละ ตลอดจนปฏิภาณ และธรรมสารสมบัติ เพื่อเป็นกำลัง ยังให้ประสบความสำเร็จในกิจอันชอบ สมความมุ่งมาดปรารถนา โดยทั่วหน้ากัน เทอญ ขอเจริญพร”
จากนั้นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และกรรมการมหาเถรสมาคม ทรงฉายพระรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เมื่อเสร็จภารกิจ นายกฯ เดินทางกลับ