หลวงปู่เขี่ยม โสรโย : อริยะโลกที่ 6
หลวงปู่เขี่ยม โสรโย – อดีตเจ้าอาวาส วัดถ้ำขาม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร พระวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
มีนามเดิมว่า เขี่ยม ค่อนดี เกิดวันเสาร์ที่ 8 เม.ย.2476 เป็นบุตรคนแรกจากทั้งหมด 4 คน ของนายกองและนางเหลี่ยม ค่อนดี ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกร ต.มูลตุ่น อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
ครอบครัว ด.ช.เขี่ยม ย้ายจากบ้านโคกกลางมายังบ้านโนนสำนัก และเข้ารับ การศึกษาเมื่อวัย 11 ขวบ ที่วัดบ่อแก้ว บ้านนาจาน ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นโรงเรียนวัดบ้านนาจานบ่อแก้ววิทยาคาร จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่มีการเปิดการเรียนการสอนในเวลานั้น
หลังออกโรงเรียนได้ช่วยงานทางบ้าน ทำนา ปลูกผัก ใช้ชีวิตแบบเด็กบ้านนอก
จนกระทั่งโตเป็นหนุ่มเข้าสู่วัยฉกรรจ์ ด้วยความที่ทางบ้านมีใจบุญสุนทานเป็นพื้นฐานจิตใจ ทั้งโยมบิดาและมารดาเป็นผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี โยมทั้งสองปลูกฝังให้รู้จักเข้าวัด สวดมนต์ ไหว้พระ ให้ทานทำบุญใส่บาตรเป็นประจำมิได้ขาด
ครั้นถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนา จะพากันไปสวดมนต์ไหว้พระ รักษาศีล ทำให้นายเขี่ยมมีความผูกพันอันดีกับพระสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนา
อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันพุธที่ 9 มิ.ย.2497 ที่พัทธสีมาวัดศรีบุญเรือง ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น โดยมีพระมุนีวรญาณเถร (เขียว มหานาโม) เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระชม อิสสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า “โสรโย”
ภายหลังอุปสมบท ท่านออกแสวงหาครูบาอาจารย์ที่จะชี้นำแสงสว่างในชีวิตให้ได้ ท่านเลือกที่จะมาหาหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
ในปี พ.ศ.2499 พระเขี่ยมธุดงค์มาถึงวัดป่าอุดมสมพร ซึ่งขณะนั้นยังเป็นวัดเล็กๆ หาพระจำพรรษาได้ยาก ชาวบ้านจึงนิมนต์ท่านจำพรรษาอยู่ที่นั่นก่อน ด้วยพระอาจารย์ฝั้นไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ อ.เมือง จ.สกลนคร ท่านก็รับปากชาวบ้าน
กระทั่งออกพรรษาจึงตามไปจนพบหลวงปู่ฝั้นเป็นครั้งแรกที่ถ้ำขาม อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
เมื่อมาถึงวัดถ้ำขามได้พบกับหลวงปู่ฝั้น พระอริยสงฆ์แห่งกองทัพธรรม ศิษย์เอกพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต วัดป่าสุทธาวาส บ้านคำสะอาด ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร ตรงกับปี พ.ศ.2501 ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาจึงได้ถวายตัวเป็นศิษย์ โดยได้อยู่ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติ ระเบียบพระกัมมัฏฐาน อุปัฏฐากหลวงปู่ฝั้น รวมทั้งได้ติดตามจาริกธุดงค์ไปกับท่าน ตามเทือกเขาภูพาน รวมทั้งที่อื่นๆ เพื่อบำเพ็ญสมณธรรม
หากหลวงปู่ฝั้นไม่ได้พำนักอยู่ที่วัดถ้ำขาม ท่านจะมอบการดูแลวัดให้แก่หลวงปู่เขี่ยม และหลวงปู่เขี่ยมศึกษาธรรมจากหลวงปู่ฝั้น อย่างลึกซึ้งจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของท่าน โดยหลวงปู่ฝั้นละสังขาร เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2520
หลังหลวงปู่ฝั้นมรณภาพและพระราชทานเพลิงศพแล้ว หลวงปู่เขี่ยมได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดถ้ำขาม จ.สกลนคร เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2515 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย และมีเมตตาบารมีสูง
นอกจากนี้ หลวงปู่เขี่ยมยังมีโอกาสถวายตัวเป็นศิษย์และศึกษาธรรมปฏิบัติจาก หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แห่งวัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ได้รับคำสอนและแนวทางการปฏิบัติธรรมอย่างใกล้ชิด กระทั่งหลวงปู่เทสก์มรณภาพ
วัตถุมงคลต่างๆ ของหลวงปู่เขี่ยม ไม่ค่อยปรากฏออกมาให้เห็น ด้วยยึดแนวทางหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ผู้เป็นบูรพาจารย์ ที่ไม่ชอบสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคล ส่วนมากจะเป็นคณะศิษยานุศิษย์สร้างถวายเท่านั้น
โดยวัตถุมงคลที่เป็นที่ต้องการ อาทิ พระพุทธประทานพร, เหรียญพระสังกัจจายน์อุ้มทรัพย์ เป็นวัตถุมงคลที่สร้างเพื่อจัดหารายได้สมทบทุนสร้างพระเจดีย์ชื่อว่า “พุทธประทานพรเจดีย์” (พระธาตุเจดีย์มัญจาคีรีศรีโสรโย) ที่วัดป่าขุมดิน
หลวงปู่เขี่ยม ละสังขารหลังจากอาพาธโรคตับอักเสบ ที่วัดป่าขุมดิน จ.ขอนแก่น เมื่อวันพุธที่ 14 ม.ค.2550 เวลา 08.29 น. หลังเข้ารักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น นานกว่า 1 เดือน แล้วกลับมารักษาตัวต่อที่วัดป่าขุมดิน สิริอายุ 74 ปี พรรษา 53
นับเป็นการสูญเสียพระสุปฏิปันโนครั้งใหญ่ของภาคอีสาน