หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ

วัดบางคลาน จ.พิจิตร

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน – “หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ” วัดบางคลาน จ.พิจิตร พระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองพิจิตร มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ

ท่านเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.ย.2353 บิดาชื่อนายอู๋ มารดาชื่อนางฟัก เป็นชาวบ้าน ต.บางคลาน จ.พิจิตร มีพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันทั้งหมด 6 คน

อายุ 3 ขวบ ไปอยู่กับลุง ชื่อนายช่วง ที่กรุงเทพฯ และเข้าเรียนที่บ้านตองปุ (วัดชนะสงคราม) จังหวัดพระนคร

เมื่ออายุ 12 ปี (พ.ศ.2365) บรรพชาศึกษาพระปริยัติธรรม อาคมวิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน

เมื่ออายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดชนะสงคราม ได้รับฉายา พุทธโชติ เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐานอยู่ได้ 3 พรรษา และได้ไปถวายตัวเป็นศิษย์ เพื่อศึกษาศิลปวิทยาคม ตลอดจนเรียนวิปัสสนาธุระ จากสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี วัดระฆังโฆสิตาราม

ต่อมา กลับไปจำพรรษาที่วัดคงคาราม (วัดบางคลานใต้) อ.บางคลาน จ.พิจิตร บ้านเดิมของท่านอยู่ได้ 1 พรรษา ก่อนย้ายไปอยู่หมู่บ้านวังตะโก ซึ่งลึกเข้าไปในทางลำน้ำแควพิจิตรเก่า โดยหักกิ่งโพธิ์ไปด้วย 3 กิ่ง และปักลงตรงบริเวณป่าตะโก อธิษฐานจิตว่า ถ้าได้มาสร้างวัด ณ สถานที่แห่งนี้ ถ้ามีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคตข้างหน้า ขอให้กิ่งโพธิ์ทั้ง 3 กิ่ง เจริญงอกงามตามไปด้วย

ปรากฏว่าเป็นไปตามคำอธิษฐานทุกประการ สร้างกุฏิ วิหาร อุโบสถและเสนาสนะภายในวัด จนสมบูรณ์ครบถ้วน

ต่อมาพื้นที่แถบนั้น ปรากฏเป็น “วัดวังตะโก” เกิดขึ้น พระอารามแห่งนี้ หลวงพ่อเงินเป็นผู้สร้างไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ.2377 ต่อมา วัดวังตะโก หรือวัดหิรัญญาราม เจริญอย่างรวดเร็ว มีผู้คนเคารพนับถือและถวายตัวเป็นศิษย์ ขอเครื่องรางของขลัง และขอให้ช่วยรักษาโรคภัย

โดยเฉพาะพวกชาวเรือที่ขึ้นล่องไปมา ได้พากันมาจอดเรือที่หน้าวัดเป็นประจำ เพื่อขอพรและขออาบน้ำมนต์

นับเป็นพระเกจิอาจารย์ ผู้เลื่องชื่อด้านวิทยาคมแห่งเมืองพิจิตร สามารถรู้ผู้มาเยือนด้วยญาณวิเศษ และยังเป็นหมอเชี่ยวชาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้แก่ชาวบ้านอีกด้วย

อิทธิปาฏิหาริย์ร่ำลือกันไปไกลมาก จนถึงขนาดเสด็จในกรม “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ยังเสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ด้วย

ผลงานที่สำคัญ ด้านการก่อสร้าง มักเป็นธุระในเรื่องการสร้างถาวรวัตถุ เป็นนักก่อสร้าง ควบคุมการก่อสร้างด้วยตนเอง รวบรวมปัจจัยจากการสร้างวัตถุมงคล เงินบริจาค สิ่งที่ท่านชอบสร้างอีกอย่างหนึ่งนอกจากโบสถ์ วิหาร ศาลา คือ ศาลาพักร้อน เพื่อคนสัญจรไปมา

ด้านการรักษาโรคด้วยวิชาแพทย์แผนโบราณนั้น เป็นหมอแผนโบราณ ทางด้านการรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยยาสมุนไพรหรือบางครั้งก็ใช้น้ำมนต์ ซึ่งก็ให้ผลในด้านกำลังใจ

อีกทั้งยังเป็นพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงด้านวิปัสสนา เป็นศิษย์รุ่นเดียวกันกับหลวงพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ซึ่งได้แนะนำให้กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้มาเรียนวิชาทางวิปัสสนากับหลวงพ่อเงิน รวมทั้งสมเด็จพระสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ก็เสด็จมาประทับที่วัดวังตะโกอยู่หลายวัน เพื่อเรียนทางด้านวิปัสสนา

ด้านวัตถุมงคล ไม่นิยมสร้างพระเครื่อง ดังนั้น พระเครื่องรุ่นที่สร้างเมื่อครั้งหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่จึงมีน้อย

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน

สำหรับลูกศิษย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง อาทิ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง, หลวงพ่อน้อย วัดคงคาราม, พระปลัดชุ่ม วัดท้ายน้ำ, หลวงพ่อหอม วัดหลวง, หลวงพ่อนวล วัดหาดมูลกระบือ, หลวงพ่อฟุ้ง วัดปากน้ำ, หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย, หลวงพ่อไป๋ วัดท่าหลวงพล, หลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ เป็นต้น

กาลต่อมา หลวงพ่อเงิน ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับสมณศักดิ์เป็นท่านเจ้าคุณ ฝ่ายวิปัสสนาจารย์

มีโรคประจำตัว คือโรคริดสีดวงทวาร รักษาตัวเองบางครั้งก็หาย บางครั้งก็กลับเป็นอีก

หลวงพ่อเงินเคยกล่าวปรารภว่า “คนอื่นร้อยพันรักษาให้หาย แต่ผงเข้าตาตัวเองกลับรักษาไม่ได้”

ท้ายที่สุดมรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคชรา เมื่อวันศุกร์เดือน 10 แรม 11 ค่ำ ปีมะแม เวลา 05.00 น. ตรงกับวันที่ 20 ก.ย.2462 ที่วัดวังตะโก อ.บางคลาน จ.พิจิตร

สิริอายุ 109 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน