อาคารพระสังฆราชานุสรณ์

มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

สํานักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารพระสังฆราชานุสรณ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ณ พื้นที่ตั้งพิพิธภัณฑสถานจังหวัดกำแพงเพชร เฉลิมพระเกียรติ (เรือนไทย) ถนนปิ่นดำริห์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร

อาคารพระสังฆราชานุสรณ์

มี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อัคคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานพิธีฝ่ายพระสงฆ์ และ นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ประธานพิธีฝ่ายฆราวาส

เวลา 11.00 น. พิธีถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ที่อาราธนามาในการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เวลา 12.30 น. ประกอบพิธีบวงสรวงสังเวยเทพยดาบูชาฤกษ์ โดยพระครูสุริยาเทเวศร์ พราหมณ์หลวง เทวสถานโบสถ์พราหมณ์

เวลา 13.00 น. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ประธานพิธีฝ่ายพระสงฆ์ และพระสงฆ์ เข้าสู่มณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์ ในการนี้นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ประธานพิธีฝ่ายฆราวาส เข้าถวายสักการะ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ พร้อมด้วย นายศิวะ แสงมณี ผู้แทนคณะเจ้าภาพ, นายวัลลภ เจียรวนนท์ ผู้แทนทุนนิธิปริยัติศึกษา ญสส ในพระสังฆราชูปถัมภ์ เข้าถวายสักการะ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์

อาคารพระสังฆราชานุสรณ์ อาคารพระสังฆราชานุสรณ์

นายสุวิทย์ วงษ์บุญมาก อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร เข้าถวายสักการะ และกราบเรียนถวายรายงาน การก่อสร้างอาคารสังฆราชานุสรณ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ต่อสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ประธานพิธีฝ่ายสงฆ์

จากนั้น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างอาคารพระสังฆราชานุสรณ์ โดยมีพุทธศาสนิกชนร่วมถือสายสูตรประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างอาคารพระสังฆราชานุสรณ์ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา จำนวน 116 รูป

อาคารพระสังฆราชานุสรณ์

พระราชญาณปรีชา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร มีดำริและดำเนินการก่อสร้าง อาคารพระสังฆราชานุสรณ์ “สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร” ณ พื้นที่ตั้ง พิพิธภัณฑสถานจังหวัดกำแพงเพชร เฉลิมพระเกียรติ เพื่อน้อมถวายเป็นพระกุศล เทิดพระเกียรติเฉลิมพระนาม สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร และเป็นการร่วมแรงกายแรงใจ สนองพระสังฆราชูปถัมภ์ แห่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ที่ทรงมีต่อชาวกำแพงเพชรมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน

อาคารพระสังฆราชานุสรณ์

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร มีพระนามเดิม เจริญ คชวัตร ประสูติเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2456 ที่ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

พระชนมายุย่าง 14 ปี ถือบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเทวสังฆาราม

ต่อมา ทรงย้ายมาศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดเสน่หา อ.เมือง จ.นครปฐม 2 พรรษา ก่อนจะทรงย้ายมาศึกษาต่อที่วัดบวรนิเวศวิหาร ในสมัยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงครองอาราม

พระองค์ทรงสอบได้ประโยคต่างๆ มาโดยลำดับจนถึงเปรียญธรรม 9 ประโยค

อาคารพระสังฆราชานุสรณ์

พ.ศ.2476 ทรงกลับไปอุปสมบท ณ วัดเทวสังฆาราม โดยมีพระครูอดุลยสมณกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูนิวิฐสมาจารย์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ครั้นถึงช่วงออกพรรษา ทรงกลับมาอุปสมบทอีกครั้งหนึ่ง เพื่อญัตติเป็นธรรมยุต ณ วัดบวรนิเวศ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ครั้งยังเป็นสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ และพระรัตนธัชมุนีเป็นพระกรรมวาจาจารย์

ได้รับฉายาว่า สุวัฑฒโน อันมีความหมายว่า ผู้เจริญปรีชายิ่งในอุดมปาพจน์

เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงผนวชและประทับ ณ วัดบวรนิเวศ เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้รับหน้าที่เป็นพระอภิบาลโดยตลอด และต่อมาได้เป็นผู้ถวายพระธรรมเทศนา พระมงคลวิสสกถาในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ปีพุทธศักราช 2507

พ.ศ.2504 เป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร

อาคารพระสังฆราชานุสรณ์

เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์มาโดยลำดับ

พ.ศ.2532 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

วันที่ 24 ต.ค.2556 สิ้นพระชนม์ด้วยพระอาการสงบ เนื่องจากติดเชื้อในกระแสพระโลหิต สิริรวมพระชันษาถึง 100 ปี 21 วัน

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2562 พระราชญาณปรีชา พร้อมคณะ นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร พร้อมด้วยผู้บริหารและพุทธศาสนิกชน เชิญแผ่นศิลาฤกษ์และไม้มงคล เข้าถวายแด่สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศและกรรมการมหาเถรสมาคม ณ อาคารฉลองพระชันษา 100 ปี สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อเจิมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ สำหรับประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างอาคารพระสังฆราชานุสรณ์ ณ สถานที่แห่งนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน