เหรียญหลวงปู่ประไพ

คอลัมน์ วงการพระสุดสัปดาห์

โดย อริยะ เผดียงธรรม

เหรียญหลวงปู่ประไพ – “พระอยู่ที่จริง หมายความว่า อย่าเอาพระที่คนนุ่งห่มเหลืองโกนหัวอยู่ตามวัด ให้เอาพระอยู่ที่จริง คือ พูดจริงทำจริง อะไรก็จริงไปหมด พระอยู่ที่จริงเป็นอย่างนี้” สารธรรมมงคล ท่านพุทธทาสภิกขุ สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี

หลวงพ่อโบสถ์น้อย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 4 ศอก 22 นิ้ว สูง 7 ศอก 21 นิ้ว ประดิษฐานภายในพระอุโบสถน้อย วัดอมรินทรารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา (พ.ศ.2484-2488) เครื่องบินข้าศึกเข้ามาทิ้งระเบิดเพลิงตามจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ รวมถึงพื้นที่เขตบางกอกน้อย ทำให้พระอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานได้รับความเสียหายด้วย

เมื่อสงครามยุติลงในปี พ.ศ.2488 วัดเริ่มดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถุและเสนาสนสถานต่างๆ ในการนี้ วัดอมรินทราราม ได้จัดสร้างเหรียญหลวงพ่อโบสถ์น้อย พ.ศ.2488 ถือเป็นเหรียญปั๊มรุ่นแรกของวัด ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่ หูเชื่อม ยกขอบแบบเส้นลวดแบนทั้งหน้าและหลัง

ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปจำลองหลวงพ่อโบสถ์น้อย ประทับนั่งเหนืออาสนะฐานหน้ากระดาน 5 ชั้น ห่มจีวรริ้วแบบพาดสังฆาฏิ พระพักตร์คมชัด พระรัศมีเป็นแบบเปลวเพลิง มีอักขระขอมโดยรอบ คั่นกลางด้วยวงกลมซ้อนกัน 2 วง ด้านหลัง ตรงกลางเป็น “ยันต์เฑาะว์สมาธิ” โดยรอบมีอักษรไทยแบ่งครึ่งด้วยวงกลมเช่นกัน ด้านบนจารึกพระนาม “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ด้านล่างเป็นชื่อวัด “วัดอมรินทราราม (บางว้า)” ได้รับการยกย่องให้เป็นเหรียญพระพุทธยอดนิยม

ปี พ.ศ.2556 วัดประชาสามัคคี (วัดพระธาตุโพนสวรรค์) ขออนุญาต “หลวงปู่ประไพ อัคคธัมโม” วัดป่าศรีประไพวนาราม ต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม จัดสร้างวัตถุมงคลเป็น เหรียญชนะมาร หลวงปู่ประไพ วัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้สมทบทุนสร้างพระธาตุโพนสวรรค์

ลักษณะเป็นเหรียญรูปทรงคล้ายเสมาหูเชื่อม ด้านหน้าเหรียญมีลวดลายกนกที่อ่อนช้อยสวยงาม ใต้หูเชื่อมสลักอักขระธรรมนับได้ 9 ตัว ถัดลงมามีตัวหนังสือสลักคำว่า หลวงปู่ประไพ อคฺคธมฺโม อายุ ๕๘ ปี ในวงล้อมครึ่งวงกลมเสมาธรรมจักร ตรงกลางเหรียญมีรูปเหมือนหลวงปู่ประไพ เต็มองค์ในท่านั่ง ขัดสมาธิบนขาสิงห์

ด้านล่างสุด เขียนคำว่า ชนะมาร มีอุณาโลม ประกบ 2 ข้าง ด้านหลังเหรียญ มีขอบเส้นสันนูน ใต้หูเชื่อมตอกโค้ด และมีอักขระธรรม 2 ตัวประกบ ตรงกลางเหรียญมียันต์บารมี 30 ทัศ ใต้ยันต์สลักตัวหนังสือ 2 บรรทัดคำว่า ที่ระลึกสร้างพระธาตุโนนสวรรค์ ที่ถูกต้องคือ (โพนสวรรค์) จังหวัดนครพนม พ.ศ.๒๕๕๖ เป็นอีกเหรียญหนึ่งที่มีประสบการณ์

ปี พ.ศ.2561 วัดหนองแดงจัดงานบุญกฐิน คณะศิษย์ที่เลื่อมใสศรัทธา “หลวงปู่ขำ เกสโร” เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองแดง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม มีมติจัดสร้างวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนเตารีด เพื่อมอบให้กับผู้ที่ร่วมบริจาคสมทบทุนกองกฐิน รวมทั้งส่วนหนึ่งสมทบเข้ากองทุนบารมี เกสโร วัตถุมงคลรุ่นนี้ ลักษณะรูปทรงคล้ายเตารีด ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ขำ ห่มจีวรเฉียง นั่งในท่าวิปัสสนากัมมัฏฐาน

ด้านหลังเป็นอักขระยันต์ ด้านล่างมีตัวอักษรเขียนว่า หลวงปู่ขำ เกสโร วัดหนองแดง ไตรมาส ๒๕๖๑ เป็นปีพุทธศักราชที่จัดสร้าง จำนวนการสร้าง อาทิ เนื้อทองคำ สร้างตามสั่งจอง เนื้อเงิน 56 เหรียญ เนื้อนวะ 299 เหรียญ เนื้อเหล็กน้ำพี้ 99 เหรียญ เนื้อชนวน 299 เหรียญ เป็นต้น พระทุกองค์ตอกโค้ดและหมายเลขกำกับ ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกภายในศาลาการเปรียญวัดหนองแดง โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีอธิษฐานจิต ติดต่อวัดหนองแดงหรือศูนย์พระเครื่องในเมืองมหาสารคามบางแห่ง

ในปี พ.ศ. 2555 วัดช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ บูรณะหลังคาอุโบสถ เปลี่ยนกระเบื้องใหม่ พระครูนิวิฐปัญญากร เจ้าอาวาสวัดช่องแครูปปัจจุบันนำเอากระเบื้องหลังคาโบสถ์มาจัดสร้าง “พระหลวงพ่อพรหมซุ้มระฆัง” โดยมี พระอาจารย์ชนินทร์ สำนักปฏิบัติธรรมรัศมีพรหมโพธิโก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ (ศิษย์คนสุดท้ายของหลวงพ่อพรหม) ช่วยออกแบบพิมพ์พระ ลงอักขระขอม เลขยันต์ และเป็นเจ้าพิธี

ลักษณะพระหลวงพ่อพรหมซุ้มระฆัง ปี 2555 เป็นพระพิมพ์สี่เหลี่ยม เนื้อกระเบื้องหลังคาโบสถ์ ด้านหน้ามีขอบรอบ ตรงกลางมีรูปนูนหลวงพ่อพรหม นั่งสมาธิเต็มองค์ มีระฆังครอบ ที่ขอบระฆังด้านล่างมีอักษรไทย “หลวงพ่อพรหม ถาวโร” ส่วนด้านหลังไม่มีขอบ มีอักขระขอมตัวลึก ลักษณะเป็นยันต์สิบ ด้านล่างมีอักษรไทย “ต.พรหมนิมิต อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์” ประกอบพิธีพุทธาภิเษก โดยมีพระเกจิดังร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต เป็นอีกเหรียญที่ควรค่าแก่การสะสม

เหรียญหลวงปู่ผา พ.ศ.2510 พระเกจิดังวัดโนนทราย อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ ลักษณะเป็นเหรียญกลมรูปไข่ มีหูห่วง ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปเหมือนหลวงปู่ผาครึ่งองค์หันหน้า ด้านขวา ใต้รูปเหมือนจารึกข้อความว่า “หลวงปู่ผา” ด้านหลังเหรียญ เขียนข้อความเป็น 2 ชั้น ชั้นแรก “2510” ชั้นสองเขียนว่า “วัดโนนทราย” วัตถุมงคลหลวงปู่ผา ปัจจุบันเริ่มหายาก สนนราคาเช่าหาบูชานับวัน จะสูงขึ้น

หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด (วัดพุทธบูชา) เขตบางมด กรุงเทพฯ ผู้มีวัตรปฏิบัติที่แตกต่างจากพระเกจิอาจารย์รูปอื่น จนได้รับสมญาว่า “ผู้บูชาไฟ เป็นพุทธบูชา” ท่านสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังแจกจ่ายมากมาย ล้วนเป็นที่นิยมและเสาะแสวงหากันอย่างกว้างขวาง พ.ศ.2495 มีการสร้างเหรียญหลวงพ่อโอภาสี รุ่นแรก เป็นเหรียญปั๊มหูเชื่อมทรงกลม เนื้อทองแดง เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.2 เซนติเมตร ขอบเหรียญเป็นขอบสองชั้น ชั้นนอกหนากว่าชั้นใน

ด้านหน้าเหรียญตรงกลางเป็นรูปหลวงพ่อครึ่งองค์ ในหน้าตรง ที่คอสวมลูกประคำ ด้านล่างเป็นรูปเครื่องหมายกาชาด ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์สวัสติกะ มีปลายหันไปทางขวา แสดงถึงความเป็นมงคลต่างๆ และเป็นเครื่องหมายแห่งชีวิตซึ่งมีการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารไม่มีที่สิ้นสุด เหรียญปั๊มรูปเหมือนทรงกลมรุ่นแรก มีบล็อกแม่พิมพ์ด้านหน้าบล็อกเดียว แต่ด้านหลังมี 2 บล็อก คือ บล็อกหลังตัว ป แบนตัวหนังสือใหญ่ และบล็อกตัว ป กลมตัวหนังสือเล็ก ข้อสังเกต ตัว ป ของอักษรคาถาที่ ปะฐะวีคงคา ในบล็อก ป แบน หาง ป จะมีลักษณะบี้แบน นับเป็นเหรียญที่มีลักษณะงดงามและมากด้วยพุทธคุณ สมกับที่ได้รับการยกย่อง

เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแต่งตั้ง พระเทพประสิทธิคุณ (ประจวบ ชุตินธโร) อายุ 80 ปี พรรษา 58 ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดระฆังโฆสิตาราม แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ และเจ้าคณะเขตบางกอกน้อย เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร