คอลัมน์ ชมรมพระเครื่อง

แทน ท่าพระจันทร์

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เป็น พระเกจิ อาจารย์ที่มีผู้คนเคารพนับถือกันมาก โดยเฉพาะชาวบ้านและทหารเรือแถบสัตหีบ เสมือนหนึ่งเทพเจ้าแห่งภาคตะวันออกในสมัยนั้น เครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงก็คือปลัดขิก กล่าวกันว่าถ้าปลุกปลัดขิกของท่านแล้วปล่อยลงน้ำจะสามารถวิ่งทวนน้ำได้ทีเดียว

พระครูวรเวทย์มุนี (หลวงพ่ออี๋) เกิดที่ชลบุรี เมื่อปี พ.ศ.2405 โยมบิดาชื่อ กองคำ โยมมารดาชื่อ เอียง ในวัยเด็กเป็นเด็กที่มีความฉลาดหลักแหลม และชอบช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอ ผิดกว่าเด็กทั้งหลายในวัยเดียวกัน

ต่อมาพออายุได้ 21 ปี จึงได้อุปสมบทที่วัดอ่างศิลา ชลบุรี โดยมี หลวงพ่อจั่น วัดเสม็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า “พุทธสโร” อยู่จำพรรษาที่วัดอ่างศิลา และได้ศึกษาวิชาวิปัสสนาธุระ ที่สำนัก พระอาจารย์แตง วัดอ่างศิลา

ท่านจึงพิจารณาเห็นสังขารไม่เที่ยงแท้ เมื่อถึงเวลาออกพรรษาท่านก็เริ่มออกธุดงค์ไปตาม ป่าเขาลำเนาไพร เพื่อหาแหล่งอันสงบวิเวกนั่งวิปัสสนากรรมฐาน เมื่อได้พบกับพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงท่านใด หลวงพ่ออี๋ก็จะศึกษาหาความรู้กับพระอาจารย์ท่านนั้น พร้อมทั้งปฏิบัติจนเห็นจริง แล้วก็จะเริ่มธุดงค์ต่อไปเรื่อยๆ บรรดาพระคณาจารย์ของหลวงพ่ออี๋จึงมีมากมาย แต่ที่พอสรุปได้ก็คือ พระอาจารย์แตง วัดอ่างศิลา พระอาจารย์จั่น วัดเสม็ด หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย

หลวงพ่ออี๋ยึดการธุดงค์และสันโดษเป็นหลัก จนกระทั่งมีฌานสมาบัติ พลังจิตสูงองค์หนึ่ง ท่านสามารถนำพระเวทมาใช้ได้อย่างศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะธุดงค์ไปไหนๆ ก็ตาม มักจะให้ความเมตตาช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย พร้อมทั้งแสดงธรรมให้ลูกศิษย์ลูกหาฟังเสมอ

จนกระทั่งชื่อเสียงของหลวงพ่อโด่งดัง ต่อมาหลวงพ่ออี๋ธุดงค์มาจนถึงอ่าวสัตหีบในราวปี พ.ศ.2450 ณ ที่นั้นเป็นบริเวณที่สงบเงียบพอที่จะยึดเป็นที่ปฏิบัติธรรม หลวงพ่อจึงปักกลดจำวัดที่นั่น พอบรรดาชาวบ้านรู้ข่าวว่าหลวงพ่อมาปักกลด ต่างก็มานมัสการหลวงพ่ออี๋กันมาก ต่างนำอาหารมาถวาย และ ผู้คนก็เดินทางมานมัสการกันแทบทุกวัน

ชาวบ้านในแถบนั้นต่างมีความเห็นตรงกันว่า ควรนิมนต์หลวงพ่ออี๋ให้สร้างวัด ณ ที่ตรงนั้น เพื่อจะได้พึ่งบารมีหลวงพ่อ จึงพากันนิมนต์หลวงพ่ออี๋ให้อยู่จำพรรษาและสร้าง วัด หลวงพ่ออี๋ก็ไม่ขัดข้อง พวกลูกศิษย์ลูกหาต่างก็ดีอกดีใจ ช่วยกันคนละไม้คนละมือและบริจาคทรัพย์สร้างวัดขึ้น และได้นามวัดต่อมาว่า “วัดสัตหีบ” จนถึงทุกวันนี้

ต่อมาปี พ.ศ.2473 วัดสัตหีบได้กำหนดหล่อพระพุทธรูปพระประธาน ประจำพระอุโบสถ คณะศิษย์จึงขออนุญาตหลวงพ่อสร้างเหรียญรูปเหมือนของหลวงพ่อขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อแจกเป็นที่ระลึกแก่ผู้ร่วมสมทบทุนสร้าง มีทั้งเหรียญรูปไข่ และทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ปัจจุบันได้รับความนิยมทั้ง 2 แบบ เหรียญรูปไข่สนนราคาสูงกว่าเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หลวงพ่ออี๋ได้อยู่เป็นมิ่งขวัญจนถึงปี พ.ศ.2489 ก็มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุได้ 85 ปี พรรษาที่ 64

ในวันนี้ผมได้นำรูปเหรียญรุ่นแรก รูปไข่ และเหรียญรุ่นแรก ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มาให้ชมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน