หลวงปู่บัวสา ปิยธัมโม สืบสานสายธรรมพระป่า : มงคลข่าวสด

พระครูวิบูลวิหารการ หรือ หลวงปู่บัวสา ปิยธัมโม เจ้าอาวาสวัดไตรภูมิ บ้านโพนงาม ต.โพนงาม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร พระเกจิที่มีวัตรปฏิบัติสมถะเรียบง่าย เด่นด้วยวิทยาคม สืบสายธรรมจากพระเกจิคณาจารย์หลายรูป

ปัจจุบัน สิริอายุ 83 ปี พรรษา 60

มีนามเดิม บัวสา อุตระหงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2479 ที่บ้านโพนงาม ต.โพนงาม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร บิดา-มารดา ชื่อ นายสิม และ นางทองสุข อุตระหงษ์ เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้องสองคน ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

หลังจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้านแล้ว ออกมาช่วยงานครอบครัวด้วยความขยันขันแข็ง

พออายุครบ 21 ปี ถูกเกณฑ์ทหารเสียเวลาไป 1 ปี 6 เดือน

ด้วยความที่มีใจฝักใฝ่ในทางธรรม ในปี พ.ศ.2502 ขณะอายุ 23 ปี ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดสระแก้ว ต.วาใหญ่ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร โดยมีพระครูวิรุฬห์ธรรมานุวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการโสภา มหาปุญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระชารี โกสโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

มุมานะศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ แต่ด้วยความที่ชอบความสันโดษและการปฏิบัติภาวนา จึงตัดสินใจออกธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรในเขตจังหวัดสกลนคร และใกล้เคียง ทำให้พบกับ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร พระปฏิบัติสายป่าที่มีชื่อเสียง ในยุคนั้น และได้กราบขอเรียนกัมมัฏฐานปฏิบัติภาวนากับหลวงปู่ฝั้นอยู่ระยะหนึ่ง

จากนั้นได้กราบลาออกปลีกวิเวกเดินทางต่อไปยังเขตพื้นที่ จ.อุดรธานี เข้านมัสการขอรับคำชี้แนะการปฏิบัติธรรมจากหลวงปู่ขาว ที่วัดถ้ำกลองเพล ซึ่งเป็นลูกศิษย์สายกัมมัฏฐานในยุคต้นของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า

ช่วงที่เดินธุดงควัตรในเขตเทือกเขาภูพาน เคยตกอยู่ในวงล้อมของช้างป่าเกือบสิบตัว แต่นั่งลงสวดแผ่เมตตา จนช้างป่าทั้งโขลงเดินลับเข้าไปในป่า เปิดทางให้ธุดงค์ต่อไป

นอกจากนี้ ยังออกธุดงค์ไปตามป่าเขาประเทศกัมพูชาโดยเท้าเปล่า และศึกษาไสยเวทจากพระเกจิอาจารย์เขมรนานถึง 1 พรรษา

หลังจากออกพรรษา จึงเดินธุดงค์กลับมายังฝั่งไทย ไปยังพื้นที่ จ.นครพนม ขอเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติม จากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่านในยุคนั้น อาทิ หลวงปู่สาย ฐิตปัญโญ วัดจูมมณี บ้าน มะขามเปี๊ยใหญ่ จ.นครพนม เรียนวิชาตะกรุดและอักขระพระคาถานานถึง 5 พรรษา ซึ่งหลวงปู่สายเมตตาสอนให้โดยไม่ปิดบัง และยังไปกราบ ขอเรียนวิปัสสนากับหลวงปู่สนธิ์ เขมิโย วัดอรัญญานาโพธิ์ จ.นครพนม ร่วม 4 พรรษา

จึงมีความรู้ทั้งด้านวิทยาคมและปฏิบัติกัมมัฏฐาน

จนถึงปี พ.ศ.2515 เดินทางกลับมายังบ้านเกิด บ้านโพนงาม ต.โพนงาม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เห็นวัดไตรภูมิอยู่ในสภาพที่ไม่มีเจ้าอาวาสดูแลปกครองวัด ญาติโยมจึงนิมนต์ให้จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ เพื่อจะได้พัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรือง เป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้าน

หลังจากนั้นก็จำพรรษาปฏิบัติศาสนกิจอยู่ที่วัดแห่งนี้ตราบจนปัจจุบัน

ด้วยวัตรปฏิบัติดี ทำให้เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ในแต่ละวันจึงมีผู้เข้ามากราบนมัสการรับฟังธรรมจากหลวงปู่อย่างไม่ขาดสาย

สำหรับหลักธรรมที่พร่ำสอน เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท และให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตแล้วคุณพระจะรักษาคุ้มครอง

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2518 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดไตรภูมิ พ.ศ.2530 เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นเจ้าคณะตำบล โพนงาม

พ.ศ.2561 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลโพนงาม อีกทั้งยังได้รับแต่งตั้งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมด้วย

ทุกวันนี้ แม้จะอยู่ในช่วงปัจฉิมวัย แต่สุขภาพร่างกายยังแข็งแรง รับงานนิมนต์ตามปกติ ได้รับการยกย่องเป็นพระเถระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน