อายุวัฒนมงคล 78 ปีหลวงพ่อจอน วัฑฒจิตโต

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

อายุวัฒนมงคล 78 ปีหลวงพ่อจอน วัฑฒจิตโต – วันจันทร์ที่ 20 ม.ค.2563 ถือเป็นวันมงคล หลวงพ่อจอน วัฑฒจิตโต จะมีอายุครบรอบ 78 ปี เหล่าศิษย์ผู้ใกล้ชิดและญาติโยมผู้เลื่อมใส จะได้ร่วมกันจัดงานมุทิตาจิตฉลองอายุวัฒนมหามงคล เป็นประจำทุกปี

เจ้าอาวาสวัดบุญฤทธิ์ ต.พญาเย็น อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีใน จ.นครราชสีมา ที่สำคัญท่านยังเป็นศิษย์สายตรงของหลวงปู่โทน กันตสีโล แห่งวัดเขาน้อยคีรีวันด้วย

พื้นเพเดิมเป็นชาว ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เกิดเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2485 บิดา-มารดา ชื่อ นายเชื่อม และนางไซร สุโมตะยะกุล ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

เมื่ออายุครบตามเกณฑ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดบุญฤทธิ์ (บึงบน) ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยมี หลวงปู่พัทธ วัดบึงบวรสถิตย์ เป็นพระอุปัชฌาย์

ในห้วงนี้ มีโอกาสไปฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่โทน กันตสีโล วัดเขาน้อยคีรีวัน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี ศึกษาวิทยาคมอีกหลายแขนง รวมทั้งศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ คือ การเสกน้ำมันมนต์ประสานกระดูก จากหลวงปู่โทนอีกด้วย

ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นตรี แต่ด้วยหน้าที่ของบุตรที่มีต่อบิดามารดา ต้องลาสิกขาออกมาช่วยงานครอบครัวหาเลี้ยงชีพ

อย่างไรก็ตาม แม้จะจากสมณเพศออกไปใช้ชีวิตเยี่ยงคฤหัสถ์แล้วก็ตาม ในใจยังระลึกอยู่เสมอว่าสักวันหนึ่งต้องกลับมารับใช้พระศาสนาตามที่ใจตั้งมั่นไว้ให้ได้

เพียงเวลาไม่นาน ก็สมปรารถนา ได้เข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้ง ที่วัดกลางดง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมี พระครูอนุรักษ์วรัณดร เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ทองย้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์นฤนาท เป็นพระ อนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า วัฑฒจิตโต

หลังจากบวชครั้งนี้ สนใจศึกษาเล่าเรียนในพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง สอบได้นักธรรมชั้นเอก จากสำนักเรียนวัดมิตรภาพวนาราม จ.นครราชสีมา

ต่อมาได้ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานควบคู่กับการศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมกับพระอาจารย์ที่เก่งในทางนี้เคยเดินทางไปวิปัสสนากัมมัฏฐานกับพระอาจารย์ตะเบง ภิกษุสงฆ์ชาวพม่า ซึ่งธุดงค์มาวิปัสสนาอยู่แถบรอยต่อระหว่าง อ.แม่สอด และประเทศพม่าอยู่ระยะหนึ่ง

ได้รับโอกาสถ่ายทอดวิชาความรู้ทางพุทธาคมกับภิกษุชาวพม่าอย่างเข้มข้น

นอกจากนั้น ยังได้มีโอกาสรับเอาตำรับการสร้างเครื่องรางของขลัง การนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในรูปแบบขอมโบราณ และรูปแบบต่างๆ จากหลวงพ่อจันภูมิ พระเกจิอาจารย์ชาวเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา

ตั้งปณิธานจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างถึงที่สุด โดยได้ช่วยพระอาจารย์สุวรรณ วณโพ เจ้าอาวาสรูปแรกพัฒนาบูรณะสำนักฝึกจิตนิมิตธรรม จนกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์

ซึ่งก็คือวัดบุญฤทธิ์ในปัจจุบันนี้ โดยวัดได้รับวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2539

จากเริ่มแรกมีเพียงกุฏิไม้หลังเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาขึ้น จนกระทั่งได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัด

หลังจากสำนักสงฆ์เปลี่ยนเป็นวัด บุญฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว พระอาจารย์สุวรรณ เจ้าอาวาสรูปแรก ท่านได้จาริกธุดงค์ไปอยู่ที่อื่น หลวงพ่อจอน จึงได้เลื่อนเป็นเจ้าอาวาสรูปต่อมา ซึ่งท่านก็ได้ทำนุบำรุงวัดบุญฤทธิ์ให้การปฏิสังขรณ์และพัฒนาก่อสร้าง อาคารเสนาสนะต่างๆ เรื่อยมา เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2528 จวบจนปัจจุบัน

มีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน

วัตถุมงคลประเภทพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง เป็นที่นิยมในหมู่นักสะสม อาทิ ตะกรุดพญาราหูดับเดือนดับตะวัน, พระขุนแผนสะดุ้งมารพรายชุมพล,พญาราหูล้อมจักรวาล, ลูกอมพรายชุมพล, ลูกสะกดนะล้อมโลก, ลูกอมหนุมานพลังฤทธิ์พิชิตชัย, พระกริ่งพญาราหู รุ่นบุญฤทธิ์เจ้าสัวรับทรัพย์ ผ้ายันต์ ฯลฯ

ทุกวันนี้ ยังคงเดินหน้าพัฒนาวัดและจิตใจของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา และเป็นศูนย์รวมใจของชาวชุมชนโดยมิเสื่อมถอย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน