คอลัมน์ พระเครื่องคนดัง
“ผมเองไม่ได้มีความรู้เชี่ยวชาญมากมายแต่อย่างใด เพียงแต่อาศัยการศึกษาค้นคว้าอยู่ตลอด อาศัยการแลกเปลี่ยนจากผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการพระเครื่อง อีกทั้งอาชีพหลักของเราก็เปิดร้านทอง ถ้ามีเวลาว่างจากงานประจำก็จะให้ความสนใจศึกษาและสะสม ด้วยความนิยมชื่นชอบเป็นสำคัญ”
ดนุรุจ วุฒิปกรณ์กิตติ กรรมการบริหาร บริษัท M Direct Co.,Ltd. จำกัด ที่มีบริษัทในเครือหลายแห่ง
“ผมเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดแถวย่านดินแดง จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะบริหารสาขาอินเตอร์ หลังจากเรียนจบมาก็ได้ไปศึกษาหาความรู้เรื่องการทำงานจากคุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อผมเป็นผู้ที่มอบวิชาชีพให้ผมในทุกด้าน ทั้งด้านการบริหาร การจัดการเรื่องงานต่างๆ จนกระทั่งท่านไว้วางใจจึงให้ผมได้บริหารงานเอง”
ด้วยความที่ชื่นชอบสะสมพระเครื่อง นายดนุรุจได้ออกตัวไว้ก่อนแล้วว่าชอบดูพระเครื่อง ชอบพุทธศิลป์ขององค์พระแต่ละองค์
“ผมไม่ได้รอบรู้ถึงขั้นเซียนพระใหญ่ เพียงแต่คุณพ่อท่านมีเก็บไว้มาก ท่านก็มอบให้ผมไว้ติดตัว เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และไว้ปกปักรักษาคุ้มครอง ตามความเชื่อความศรัทธาในพุทธคุณของพระเครื่อง ผมเริ่มศึกษาเรื่องพระเครื่องเพียง 2-3 ปีเท่านั้น เพราะคุณพ่อมอบพระเครื่องให้ผมไว้หลายองค์ ก็เริ่มนำมาดูศึกษาทีละองค์ หลังจากเลิกงานหรือมีเวลาว่างในการพักผ่อน”
พระเครื่องและเครื่องรางที่นายดนุรุจคล้องติดตัวอยู่เป็นประจำทุกวัน อาทิ พระกรุเก่า เนื้อทองคำ วัวธนูหลวงพ่อน้อย เบี้ยแก้หุ้มด้วยตะกั่วรูปเต่ามีตะกรุด หนุมานไม้แกะสลักหลวงพ่อสุ่นโบราณตัวใหญ่ และตะกรุดหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง จ.พิจิตร เป็นของคุณพ่อที่มอบให้ทั้งหมด
สำหรับหนุมานไม้แกะสลักหลวงพ่อสุ่น มีความชื่นชอบมากเป็นพิเศษ จึงได้เริ่มศึกษาจากประวัติ หลวงพ่อสุ่น จันทโชติ หรือ พระอธิการสุ่น วัดศาลากุน ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พระเกจิชื่อดังเจ้าตำรับเครื่องรางของขลังหนึ่งในชุดเบญจภาคี “หนุมานแกะ” อันโด่งดัง
หลวงพ่อสุ่นเป็นหนึ่งในพระคณาจารย์ผู้ลงอักขระบนแผ่นทองแดงใช้เป็นมวลสารในการจัดสร้างเหรียญที่ระลึกวัดราชบพิธฯ ครั้งที่ 4 (พ.ศ.2481) อีกทั้งยังเป็นสหธรรมิกหลวงพ่อกลิ่น วัดสะพานสูง โดยมีอายุมากกว่าหลวงพ่อกลิ่น ประมาณ 5 ปี
นอกเหนือจากหนุมานแกะที่ทำจากต้นรักและต้นพุดซ้อนแล้ว หลวงพ่อสุ่นยังได้แกะหนุมานจากงาช้างด้วย แต่สร้างในรุ่นหลัง หนุมานหลวงพ่อสุ่นแบ่งแยกได้เป็น 2 พิมพ์ คือ หนุมานพิมพ์หน้าโขน และหนุมานพิมพ์หน้ากระบี่
“หลังจากที่ได้คล้องวัตถุมงคลก็มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต การคล้องพระเครื่องนั้น เชื่อว่าถ้าเรากระทำความดี ยึดถือธรรมะ ตั้งมั่นในศีลธรรม คุณพระก็จะคุ้มครอง เวลาจะออกจากบ้านก็อาราธนาท่าน ให้ปกป้องคุ้มครองให้เดินทางปลอดภัย พบแต่สิ่งที่ดีให้เข้ามาในชีวิต และได้คุ้มครองคนในบ้านทุกคนให้ปลอดภัย ก่อนนอนก็สวดมนต์ขอพรพระ จะทำอย่างนี้ทุกวัน ซึ่งเป็นวิถีของชาวพุทธเรา” นักบริหารหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย
