รำลึก110ปีชาตกาล หลวงปู่นนท์ วราโภ : อริยะโลกที่ 6
รำลึก110ปีชาตกาล หลวงปู่นนท์ วราโภ – วันอาทิตย์ที่ 22 มี.ค.2563 น้อมรำลึกครบรอบ 110 ปี ชาตกาล พระครูวราโภคพินิต หรือ “หลวงปู่นนท์ วราโภ” อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดเหนือวน ต.คุ้งน้ำวน จ.ราชบุรี
เป็นประทีปธรรมของชาวบ้านคุ้งน้ำวน เชี่ยวชาญการเจริญสมาธิ วิปัสสนากัมมัฏฐาน กระทั่งเป็นที่กล่าวขานเลื่องลือในหมู่ศิษยานุศิษย์ผู้ชิดใกล้ ว่าเป็นพระสงฆ์ทรงคุณวิเศษหลายประการ มีจิตตานุภาพอยู่ในระดับสูง เป็นที่เคารพนับถือแม้ในหมู่พระเถระด้วยกัน
พระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยที่อยู่ในยุคเดียวกัน ยังยอมรับว่าท่านมีปฏิปทาเป็นเลิศงดงามด้วยศีลาจารวัตร เป็นที่ยกย่องสรรเสริญเป็นแบบอย่างของพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ด้วยไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา
เกิดเมื่อวันที่ 22 มี.ค.2453 ที่บ้านเตาอิฐ หมู่ที่ 1 ต.เตาอิฐ (ปัจจุบัน คือ ต.วังเย็น) อ.บางแพ จ.ราชบุรี เป็นบุตรของนายพลอยและนางคำ ศรีจันทร์สุก ได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานจากหลวงพ่อเงิน เจ้าอาวาสวัดหนองม่วง
นอกจากศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านอักขระตามสมัยนิยมแล้ว ยังได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากหลวงพ่อเงินอีกด้วย เพราะหลวงพ่อเงินเป็นพระเกจิอาจารย์อาคมขลังมีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้น
วัดหนองม่วงอยู่ในเขต อ.บางแพ จ.ราชบุรี เคยมีเจ้าอาวาส เป็นพระเกจิอาจารย์เรืองนามระดับแนวหน้าของเมืองไทยคือ พระครูอนุรักษ์วรคุณ (หลวงพ่อสง่า) ภายหลังย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านหม้อ อ.โพธาราม และไปละสังขารที่วัดดังกล่าว เพราะเป็นวัดบ้านเกิด
หลวงพ่อสง่าเป็นสหธรรมิกรุ่นน้องหลวงพ่อนนท์ มีความสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
ในวัยเด็กได้มาเรียนหนังสือต่อที่วัดสัตตนารถปริวัตร อยู่ในตัวจังหวัดราชบุรี โดยพระครูใบฎีกา (วอน) วัดโสมนัสวิหาร กทม. เป็นผู้นำมาฝาก ในสมัยนั้นพระพุทธวิริยากร (จิตร) เป็นเจ้าอาวาส ต่อมาพระครูใบฎีกา (วอน) ย้ายมาจำพรรษาที่วัดเหนือวน
จึงติดตามมาอยู่วัดเหนือวนด้วย และได้บรรพชาเมื่อ พ.ศ.2470 โดยพระครูอุดมธีรคุณ (เงิน วัดสัตตนารถฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมที่วัดสนามพราหมณ์ จ.เพชรบุรี สอบได้นักธรรมชั้นตรี ขณะกำลังเรียนนักธรรมชั้นโท พระครูใบฎีกาวอน เจ้าอาวาสวัดเหนือวน อาพาธหนัก
จึงกลับมาดูแลอาการของพระอาจารย์ กระทั่งมรณภาพ สามเณรนนท์จึงจำพรรษาอยู่ที่วัดเหนือวนตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
นับว่าเป็นโชควาสนา ขณะที่อยู่วัดเหนือวนหลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี พร้อมด้วยพระสหธรรมิกได้ธุดงค์ผ่านมา และจำพรรษาอยู่ที่วัดเหนือวน จึงได้มีโอกาสฝึกฝนการเจริญกรรมฐาน
เมื่ออายุครบ 20 ปี พ.ศ.2474 เข้าพิธีอุปสมบท โดยพระครูอุดมธีรคุณ (เงิน) วัดสัตตนารถปริวัตร เป็นพระอุปัชฌาย์ (ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่พระธรรมเสนานี (เงิน) พระครูเมธีธรรมานุยุติ (เม้ย) วัดลาดเมธังกรเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการเฉื่อย วัดเหนือวน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “วราโภ”
พ.ศ.2500 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดเหนือวน แทนหลวงพ่อเฉื่อยที่มรณภาพด้วยโรคชรา ด้วยอายุ 47 ปี
ใช้ความรู้ความสามารถที่มีสร้างศรัทธาหลอมรวมใจของชาวบ้านให้มาช่วยกันพัฒนาวัดเหนือวน กระทั่งมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ วัดเหนือวนในปัจจุบันสะอาด สงบ ร่มเย็น มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยเป็นที่เจริญศรัทธายิ่งนัก
ช่วงบั้นปลายชีวิต ถูกโรครุมเร้า จนต้องเข้า-ออก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ อยู่ประมาณ 3 เดือน โดยอยู่ในความอุปถัมภ์ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมวชิรญาณสังวร
ละสังขารอย่างสงบด้วยโรคชรา เวลา 16.00 น. วันพุธที่ 10 ม.ค.2550 สิริอายุ 96 ปี 9 เดือน 19 วัน พรรษา 76
