หลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ

วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

หลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงคราม : อริยะโลกที่ 6 – หลวงปู่ใจ อินทสุวัณโณ หรือ พระราชมงคลวุฒาจารย์ วัดเสด็จ ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งแม่กลอง

อีกทั้งยังเป็นพระนักพัฒนาที่มีผลงานเป็นประจักษ์มากมาย ทั้งในส่วนของการพัฒนาวัดวาอาราม ตลอดถึงสถานศึกษาต่างๆ อิทธิคุณความเข้มขลังด้านพุทธาคม เป็นที่เลื่องลือกล่าวขวัญ จากประสบการณ์ในวัตถุมงคลของท่านที่ได้สร้างและปลุกเสกเอาไว้

เดิมชื่อ “ใจ ขำสนชัย” ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2405 ที่ บ้าน ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม

อายุ 15 ปี ครอบครัวอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่ ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ภูมิลำเนาของบิดา

อายุ 21 ปีบริบูรณ์ อุปสมบทที่วัดบางเกาะเทพศักดิ์ มีพระอาจารย์จุ้ยเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา “อินทสุวัณโณ”

อยู่จำพรรษาวัดบางเกาะเทพศักดิ์ เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย วิปัสสนากัมมัฏฐาน รวมถึงพุทธาคมต่างๆ จากพระอุปัชฌาย์

ตั้งใจเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ทั้งอักษรไทยและขอมจนแตกฉาน มีความสนใจในด้านวิทยาคมต่างๆ และศึกษาวิชา ทางสมาธิจากหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว พระเกจิอาจารย์ชื่อดังกาญจนบุรี

พ.ศ.2434 พระอาจารย์จุ้ยผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ พิจารณาเห็นว่าเป็นผู้มีความสามารถภูมิปัญญาความรอบรู้ พอที่จะดูแลตัวเองและนำหมู่คณะได้เป็นอย่างดี และขณะนั้นวัดใหม่ยายอิ่มซึ่งเป็นวัดสร้างใหม่ไร้เจ้าอาวาสปกครองดูแลพัฒนา จึงมอบหมายให้ท่านไปดูแลปกครองในฐานะเจ้าอาวาส

ทุ่มเทสติปัญญา กำลังกาย กำลังใจ สร้างและพัฒนาวัดแห่งนี้ให้เจริญรุ่งเรืองตามลำดับ จนเป็นวัดแห่งหนึ่งของสมุทรสงคราม ที่มีความใหญ่โต สวยงาม เป็นหน้าเป็นตาของจังหวัด

ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จตรวจการณ์คณะสงฆ์ตามหัวเมืองใหญ่ ได้เสด็จมายังวัดแห่งนี้ ได้ประทานนามวัดเสียใหม่ว่า “วัดเสด็จ”

ทรงมีความคุ้นเคยกับวัดเสด็จ และมีเมตตาต่อหลวงปู่ใจ ดังจะเห็นได้จากอุโบสถที่สร้างใหม่นั้น ประทานทุนทรัพย์จ้างช่างหลวง ดำเนินการออกแบบและก่อสร้างให้ นอกจากนี้ พระบรมวงศานุวงศ์ที่เคยตามเสด็จ ยังร่วมบริจาคทรัพย์สมทบในการสร้างอุโบสถวัดเสด็จด้วย

เป็นพระเถราจารย์ที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในกรอบพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัดเสมอต้นเสมอปลาย พูดน้อย และพูดแต่คำที่เป็นประโยชน์ ไม่ยกตนข่มท่าน และไม่โอ้อวดคุณวิเศษที่มีอยู่ในตัว

ย้อนกลับไปในสมัยที่หลวงปู่ใจกำลังสร้างวัดเสด็จ ต้องเดินทางไปที่จังหวัดกาญจนบุรีอยู่บ่อยครั้ง เพื่อไปหาซื้อไม้มา สร้างวัด ท่านขึ้นล่องอยู่หลายปีจึงสร้างวัดได้สำเร็จ และทุกปีจะมาแวะพักที่วัดหนองบัว นำหมากพลูมาถวายหลวงปู่ยิ้ม ซึ่งท่านเคารพหลวงปู่ยิ้มมาก

ครั้งหนึ่งหลวงปู่ยิ้มพูดกับท่านว่า ถ้าสนใจในวิทยาคมก็จะถ่ายทอดให้ ท่านจึงรีบขอเป็นศิษย์ทันที หลวงปู่ยิ้มมอบบทเรียนบทแรกว่าด้วยการทดสอบพลังจิต โดยจุดเทียนตั้งไว้ที่ขันน้ำมนต์ แล้วให้ท่านเพ่งกระแสจิตไปที่เทียนให้เทียนขาดกลางให้ได้ ถ้าทำได้เมื่อใดจึงจะมอบวิชาให้

หลวงปู่ใจทำอยู่ 7 คืน เทียนก็ไม่ยอมขาด หลังจากกลับมาพักจึงตัดสินใจว่าถ้าหากคืนพรุ่งนี้เทียนยังไม่ขาดก็จะกลับอัมพวา ปรากฏว่าคืนวันที่ 8 ท่านทำได้สำเร็จ

หลวงปู่ยิ้มกล่าวชมว่า “เมื่อแรกเรียนท่านก็เก่งกว่าเสียแล้ว” เพราะหลวงปู่ยิ้มต้องทำอยู่นานถึง 15 วัน หลวงปู่ยิ้มจึงถ่ายทอดวิชาว่าด้วยการสร้างตะกรุดปราบทาษามหาระงับ ตะกรุดลูกอมอันเลื่องลือให้แก่หลวงปู่ใจจนหมดสิ้น

ทั้งนี้ การสร้างวัตถุมงคลจะพิถีพิถันใช้ความประณีตบรรจงอย่างที่สุด เช่น ตะกรุดแต่ละชนิดต้องมีขนาดเท่ากัน การม้วนต้องเหมือนกัน การควั่นไหม 5 สีร้อยตะกรุด ต้องใช้เส้นไหมที่มีขนาดเท่ากันทุกเส้น เวลาควั่นต้องจัดเกลียวให้เป็นระเบียบเดียวกัน เป็นต้น

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2496 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสุทธิสาราวุฒาจารย์

วันที่ 5 ธ.ค.2504 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชมงคลวุฒาจารย์

มรณภาพเมื่อวันเสาร์ที่ 23 มิ.ย.2505

สิริอายุ 100 ปี พรรษา 78

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน