พระธรรมเจดีย์วัดทองนพคุณ : อริยะโลกที่ 6

พระธรรมเจดีย์วัดทองนพคุณ – วันอังคารที่ 5 พ.ค.2563 ถือเป็นวันมงคล “พระธรรมเจดีย์” (สมคิด เขมจารี) วัดทองนพคุณ กรุงเทพฯ จะมีอายุครบรอบ 76 ปี เหล่าศิษย์ผู้ใกล้ชิดและญาติโยมผู้เลื่อมใส จะร่วมมุทิตาจิตฉลองอายุวัฒนมหามงคล

พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา เป็นพระนักปราชญ์ พระนักเทศน์ และพระนักการศึกษา มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลและส่งเสริมกิจการสำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดทองนพคุณ จนทำให้เป็นสำนักเรียนของคณะสงฆ์ที่มีความโดดเด่นติดอันดับต้นของประเทศไทย

ปัจจุบันสิริอายุ 76 ปี พรรษา 56 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ และผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 11

มีนามเดิมว่า สมคิด บุตรทุมพันธ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ค.2487 ที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 8 ต.อุ่มเม่า อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด บิดา-มารดาชื่อ นายบ่าย และ นางคำตา บุตรทุมพันธ์ พ.ศ.2498 สำเร็จการศึกษาชั้น ป.4 ที่โรงเรียนประชาบาลประจำหมู่บ้าน ต่อมาบรรพชาที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2500 โดยมีเจ้าอธิการบุญ เจ้าอาวาสวัดศรีสะเกศ เจ้าคณะตำบลเชียงใหม่ จ.ร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้ย้ายไปศึกษาที่วัดหนองขุ่น ต.ยางโยภาพ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกธรรม พ.ศ.2504 สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก สำนักเรียนวัดหนองขุ่น จ.อุบลราชธานี

จากนั้นศึกษาพระปริยัติธรรม แผนก บาลี พ.ศ.2507 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักเรียนวัดหนองขุ่น จ.อุบล ราชธานี

อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดหนองขุ่น เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2508 โดยมีเจ้าอธิการหอม คุตตจิตโต เจ้าอาวาสวัด โนนรังน้อย เจ้าคณะตำบลยางโยภาพ จ.อุบลราชธานี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการจำปา สิริปุญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาอมร เขมจิตโต วัดหนองขุ่น เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ศึกษาพระปริยัติธรรมเพิ่มเติม พ.ศ.2509 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค แล้วย้ายไปอยู่จำพรรษาที่วัดทองนพคุณ กรุงเทพฯ พ.ศ.2518 สอบได้เปรียญธรรม 8 ประโยค จากสำนักศาสนศึกษาวัดทองนพคุณ

เริ่มต้นจากการดำรงตำแหน่งเป็นครูสอนพระปริยัติธรรมประจำสำนักศึกษาวัดทองนพคุณ จนได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต่างๆ มาโดยตลอด

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2533 เป็นพระอุปัชฌาย์วิสามัญ พ.ศ.2537 เป็น เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ พ.ศ.2541 เป็นรองเจ้าคณะภาค 11

พ.ศ.2561 เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าคณะภาค 11

ปฏิบัติงานการคณะสงฆ์ในหน้าที่ด้านต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายมาด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ทั้งได้บำเพ็ญกรณียกิจอันเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนา ทำให้ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์มาโดยลำดับดังนี้

พ.ศ.2527 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระกิตติสารเมธี พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชปริยัติเวที พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพปริยัติมุนี

พ.ศ.2559 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่พระธรรมเจดีย์

ด้วยความที่เอาใจใส่เรื่องการศึกษาพระปริยัติธรรม เป็นผู้มีส่วนผลักดัน สนับสนุน และส่งเสริมให้พระภิกษุสามเณรสอบได้ประโยคป.ธ.9 และประโยคอื่นๆ เป็นจำนวนมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน