สธ.ชื่นชมพิธี-ทำเป็นต้นแบบ

วัดไผ่ล้อมฌาปนกิจเหยื่อโควิด

สธ.ชื่นชมพิธี-ทำเป็นต้นแบบ – ครอบครัวและญาติสนิทผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 จำนวนกว่า 10 คนนำร่างชายคนขับแท็กซี่ วัย 50 ปี จากโรงพยาบาลรามาธิบดี เดินทางมาประกอบพิธีฌาปนกิจ เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ศาลาชีวะศิริฌาปนสถานวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

สธ.ชื่นชมพิธี-ทำเป็นต้นแบบ วัดไผ่ล้อมฌาปนกิจเหยื่อโควิด

สธ.ชื่นชมพิธี-ทำเป็นต้นแบบ วัดไผ่ล้อมฌาปนกิจเหยื่อโควิด

มีคณะเจ้าหน้าที่ทีมสอบสวนโรคและเคลื่อนที่เร็ว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ช่วยประสานการเตรียมความพร้อมต่างๆ เนื่องจากศพดังกล่าวเป็นศพแรกที่นำจากกรุงเทพฯ เข้ามาทำพิธีฌาปนกิจ ที่วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

เมื่อรถมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตมาถึง เจ้าหน้าที่สวมชุดคลุม PPE ป้องกันร่างกาย มีการนำน้ำยาฆ่าเชื้อฉีดที่โลงศพซึ่งภายในแพ็กบรรจุด้วยการฆ่าเชื้อตามกระบวนการทางการแพทย์ ขึ้นสู่เตาเผา โดยมีคณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม สวดบังสุกุล

จากนั้น พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กิตติจิตโต (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์วางดอกไม้จันทน์ และเริ่มพิธีฌาปนกิจอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ

สธ.ชื่นชมพิธี-ทำเป็นต้นแบบ วัดไผ่ล้อมฌาปนกิจเหยื่อโควิด

นพ.ทินกร ชื่นชม รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม รักษาการ ผอ.โรงพยาบาลสามพราน กล่าวว่า “ในการประสานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม วัดไผ่ล้อม รับเผาศพที่ติดเชื้อโควิด-19 และหลวงพี่น้ำฝนมีความเชื่อทางวิทยาศาสตร์และมีความเข้าใจกับเรื่องนี้ดี

ซึ่งที่ผ่านมาวัดไผ่ล้อมมีกิจกรรมที่ร่วมกัน คือ การเปิดศูนย์การแพทย์ของโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมอยู่แล้ว จึงง่ายต่อการทำความเข้าใจ โดยศพที่นำมาดำเนินการครั้งนี้ ดำเนินการเป็นต้นแบบในจังหวัดนครปฐม และเป็นโมเดลระดับประเทศ ซึ่งวัดไผ่ล้อมคัดกรองคนเข้ามาที่วัด จัดที่นั่งในพิธีมีความห่างที่ถูกต้อง

ส่วนสถานที่มีการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้องและได้มาตรฐานด้านสาธารณสุข ก็ขอให้ทุกคนมั่นใจได้ ซึ่งการเผาศพรับรองฆ่าเชื้อได้หมด เพราะเชื้อโควิด-19 จะถูกฆ่าตายเมื่อถูกความร้อนที่ 65 องศาเซลเซียสในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น”

สธ.ชื่นชมพิธี-ทำเป็นต้นแบบ วัดไผ่ล้อมฌาปนกิจเหยื่อโควิด

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นกิจของสงฆ์ที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว โดยตลอดเวลาได้ประสานข้อมูลกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เรื่องการเผาศพทุกรูปแบบ ศพที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่จะมาถึงวัด โรงพยาบาลแพ็กมาแล้วอย่างน้อย 3 ชั้น ฆ่าเชื้อเป็นอย่างดี

ซึ่งคนที่ทราบจะเกิดความวิตก ร้อยละ 90 เกิดความกลัวแต่ถ้าเราให้ข้อมูลความรู้ นเกิดความเข้าใจเราก็สามารถป้องกันตัวเองได้ไม่ยากและหวังให้วัดที่ยังไม่เข้าใจ ยังปฏิเสธการเผาศพที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ศึกษางานจากหน่วยงานทางการแพทย์ เพื่อเผาศพให้กับญาติโยม

สำหรับเมรุเผาศพ วัดไผ่ล้อม เป็นเมรุเผาแบบไร้มลพิษ ที่มีการใช้การเผาด้วยความร้อนสูง จุดด้วยระบบน้ำมัน 2 หัวฉีด แบบ 2 ชั้น คือชั้นแรกเป็นชั้นเผาศพ จะมีการใช้ความร้อนมากกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ในการเผาโลงและร่างของผู้เสียชีวิต ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นชั้นสำหรับการเผา ละอองและควัน เพื่อไม่ให้มีควันและกลิ่นลอยขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ รักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้มั่นใจว่าไม่มีเศษควัน ลอยขึ้นไปในบรรยากาศอย่างแน่นอน

สธ.ชื่นชมพิธี-ทำเป็นต้นแบบ วัดไผ่ล้อมฌาปนกิจเหยื่อโควิด

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวต่อว่า “ขอแจ้งย้ำว่า กองทุนหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ไม่เคย ออกไปขอเรี่ยไรเงินบริจาคแต่อย่างใด มีแต่ผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสิ่งของ เป็นส่วนใหญ่ อาทิ น้ำยาฆ่าเชื้อโควิด ก็ได้รับจากนายจำรัส ตั้งตระกูลธรรม นายกเทศมนตรีเมืองไร่ขิงนำมาถวาย โดยไม่ได้ไปบอกบุญหรือขอ ใครมา ใครนำมาถวายเราก็ใช้ตามที่ท่านนำมาถวาย แต่หากไม่มีใครมาถวายอาตมาก็ซื้อเองตลอด โดยใช้กองทุนหลวงพ่อพูลขับเคลื่อนนั่นเอง”

ด้านนายณรงค์ ล่ำดี อายุ 39 ปี กล่าวว่าตนเองเป็นบุตรเขยของผู้เสียชีวิต ซึ่ง โรงพยาบาลแจ้งรายชื่อวัดที่เปิดให้ฌาปนกิจผู้เสียชีวิตด้วยเชื้อโควิด-19 ซึ่งพบรายชื่อวัดไผ่ล้อม จึงติดต่อเข้ามาในการขอจัดพิธีการ โดยได้รับการประสานงานและจัดการเป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกมีกำลังใจกับครอบครัว รวมทั้งร่วมทำบุญจัดการดังกล่าวกับวัดไป เพื่ออุทิศส่วนกุศล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน