โรงทานยุคใหม่-เดลิเวอรี่

วัดพิชัยญาติจัดส่งถึงบ้าน

โรงทานยุคใหม่-เดลิเวอรี่ วัดพิชัยญาติจัดส่งถึงบ้าน – วัดพิชยญาติการามวรวิหาร หรือวัดพิชัยญาติ แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ดำเนินการจัดตั้งโรงทาน สนองพระดำริสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผล กระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง

โดยได้จัดมอบสิ่งของช่วยเหลือชาวบ้านชุมชนเขตคลองสาน เขตสาทร เขตธนบุรี สำนักพัฒนาสังคม สำนักงานสวัสดิการสังคม กลุ่มงานจัดสวัสดิการและคุ้มครองเด็ก โดยนักพัฒนาสังคมศูนย์สร้างโอกาสเด็ก สะพานพระปกเกล้า โดยมีคณะศิษยานุศิษย์ คณะญาติโยม และหน่วยงานต่างๆ มาร่วมบริจาคสิ่งของกันเป็นจำนวนมาก และล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ได้จัดตั้งโรงทานแจกเครื่องอุปโภคบริโภคให้ชาวชุมชนเขตธนบุรี และเขตคลองสาน จำนวน 1,000 ชุด ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่

พระราชรัตนมุนี (บุญเทียม ญานินโท) ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กล่าวว่า ตามที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่นอกจากส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพ การดำเนินชีวิตประจำวัน และเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความยากลำบากในประชาชน พระองค์จึงมีพระบัญชาให้วัดทั่วประเทศที่มีศักยภาพ จัดตั้งโรงทานช่วยเหลือประชาชน

ในส่วนของวัดพิชยญาติการาม ได้ร่วมกับมูลนิธิพุทธสุวัณณภูมิ โดยพระครูวิศิษฏ์ สรการ (พระครูไทย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม ในฐานะประธานมูลนิธิพุทธ สุวัณณภูมิ จัดตั้งโรงทานและมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบในชุมชนเขตคลองสาน เขตสาทร เขตธนบุรี และสำนักพัฒนาสังคม สำนักงานสวัสดิการสังคม กลุ่มงานจัดสวัสดิการและคุ้มครองเด็ก สะพานพระปกเกล้า โดยมีคณะศิษยานุศิษย์และหน่วยงานต่างๆ มาร่วมบริจาคสิ่งของ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา จัดตั้งโรงทานแจกเครื่องอุปโภคบริโภคให้ชาวชุมชนเขตธนบุรี และเขตคลองสาน จำนวน 1,000 ชุด ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ นอกจากนี้ วัดพิชยญาติการาม ยังได้มีการปรับรูปแบบโรงทาน มีการจัดทำเป็นโรงทานเดลิเวอรี่ ส่งข้าวกล่องช่วยเหลือประชาชนถึงบ้าน โดยดำเนินการแจกข้าวกล่องชุมชนหลังวัดพิชัยญาติทุกวัน วันละ 300 กล่องด้วย

พระราชรัตนมุนีกล่าวต่อว่า การตั้งโรงทานของแต่ละวัด สามารถช่วยชาวบ้านในชุมชนใกล้วัดได้เป็นอย่างดี เพราะคนใกล้วัดพระทิ้งไม่ได้ เห็นกันอยู่ทุกวัน เคยใส่บาตรทำบุญกันตลอด ถ้าโยมไม่รอด แล้วพระจะรอดได้อย่างไร ดังนั้นวันนี้พระต้องเป็นผู้ให้ การที่หลายๆ วัดตั้งโรงทานนับเป็นการ

บรรเทาทุกข์โดยตรง เป็นการแบ่งเบาภาระให้หลายครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 และไม่สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ที่สำคัญในสถานการณ์การเกิดโรคระบาด เราก็ได้เห็นเรื่องราวดีๆ ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ กล่าวคือ พระสงฆ์ได้จัดหาอาหารหวานคาว ของสดของแห้ง พร้อมด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคมาแจกจ่ายให้ญาติโยม บางวัดแจกหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจลล้างมือ เครื่องดื่ม และยังได้นำไปมอบให้แก่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการต่างๆ

“น้ำใจต่างๆ เหล่านี้ที่คณะสงฆ์มีให้ในยามยากเพื่อแบ่งปัน นับเป็นการช่วยเหลือกันในยามที่ทุกข์ยาก ลำบาก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เห็นเป็นรูปธรรมอย่างถ่องแท้ ขณะที่ญาติโยมก็เย็นกายสุขใจ เมื่อได้เห็นพระมาช่วยด้วยหัวใจ อย่างคำที่เคยพูดตั้งแต่วันแรก และบอกกันเสมอๆ ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ‘พระสงฆ์จะไม่ทิ้งโยมโดยเด็ดขาด’ ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็เห็นวัดเป็นที่พึ่งได้ วัดและพระสงฆ์ไม่ทิ้งประชาชน พร้อมจะสู้ไปด้วยกัน” พระราชรัตนมุนีกล่าว