สิ้น‘พระราชวิจิตรโมลี’ วัดท่าหลวง จ.พิจิตร : มงคลข่าวสด

สิ้น‘พระราชวิจิตรโมลี’ วัดท่าหลวง จ.พิจิตร – พระราชวิจิตรโมลี (บุญมี ปริปุณโณ) พระเถระชั้นผู้ใหญ่แห่งเมืองชาละวัน เป็นพระผู้ปฏิบัติดี เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ปฏิบัติตนเยี่ยงศากยบุตร ทำงานอุทิศให้แก่พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร
เมื่อถึงแก่มรณภาพ จึงเป็นที่อาลัยโศกาดูร ขณะนี้ตั้งบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมที่วัดท่าหลวง
มีนามเดิมว่า บุญมี แตงปั้น เกิดเมื่อวันพุธที่ 13 ก.ค.2470 ที่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 5 บ้านดาน ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.พิจิตร บิดา-มารดา ชื่อ นายแห และ นางตุ๊ แตงปั้น
ช่วงปฐมวัย เข้าศึกษาที่โรงเรียนวัดหาดมูลกระบือ ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2491 ที่พัทธสีมาวัดหาดมูลกระบือ มี พระครูพิมลธรรมานุศิษฏ์ วัดรายชะโด ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายาว่า “ปริปุณโณ”

สิ้น‘พระราชวิจิตรโมลี’ วัดท่าหลวง จ.พิจิตร
จากนั้นย้ายมาพำนักจำพรรษาที่วัดท่าหลวง เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2494 สามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ภายในระยะเวลาไม่นาน
ต่อมาได้รับมอบหมายจากพระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ (หลวงปู่ไป๋ ญาณผโล) เจ้าอาวาสในขณะนั้น ให้เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม เป็นเวลานานกว่า 10 พรรษา เมื่อมีพระภิกษุ-สามเณร จบการศึกษามากขึ้น จึงหยุดการสอน และหันไปช่วยเหลืองานด้านการบริหารคณะสงฆ์
ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2501 เป็นเจ้าคณะตำบลท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร พ.ศ.2529 เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง พ.ศ.2536 เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร พ.ศ.2546 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร พ.ศ.2546 เป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร
พ.ศ.2550 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร
งานด้านศึกษาสงเคราะห์ ท่านเล็งเห็นคุณค่าทางด้านการศึกษาได้เปิดให้มีการสอนพระปริยัติธรรมสามัญ ภายในวัดท่าหลวง เพื่อให้พระภิกษุ-สามเณร จ.พิจิตร ได้ศึกษาและมีความรู้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นให้ทัดเทียมกับการศึกษาทางโลก นอกจากนี้ยังจัดสร้างอาคารเรียนห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ในโรงเรียนต่างๆ และมอบทุนการศึกษาให้แก่พระภิกษุ-สามเณรที่เรียนดี แต่ขาดทุนทรัพย์ ทั้งสายปริยัติและสายสามัญ
พ.ศ.2541-2545 จัดตั้งกองทุนทีฆทัสสีมุนีวงศ์ สำหรับช่วยเหลือพระภิกษุ-สามเณร ที่กำลังศึกษาพระปริยัติธรรม พระปริยัติสามัญ และชั้นอุดมศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
งานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พ.ศ.2521 เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยอบรมประชาชนทุกวันพระ วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันสำคัญของชาติ งานเทศกาลประจำปี และได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระธรรมทูต สายที่ 3 ออกอบรมประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตรและจังหวัดเพชรบูรณ์
พ.ศ.2543 จัดวัดท่าหลวงให้เป็นค่ายอบรมคุณธรรม จริยธรรม ชื่อ ค่ายพุทธบุตร เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา เด็ก และเยาวชน เข้ามารับการอบรมคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนเป็นพระวิทยากร ให้ความรู้แก่พระสังฆาธิการ ประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้เรื่องสมุนไพร
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำสวนสมุนไพรขึ้นภายในวัดท่าหลวง เพื่อใช้เป็นแหล่งศึกษาร่วมกับหน่วยงานราชการต่างๆ รับนักเรียน นักศึกษา เด็ก และเยาวชน ที่มีปัญหาทางครอบครัวและติดยาเสพติด เข้ารับการอบรม และบำบัดรักษาด้วยยาสมุนไพร จนถึงปัจจุบัน
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2510 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูพิศาลธรรมานุศิษฎ์ (จต.ชต.) พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม (จร.ชอ.)
พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก ในราชทินนามเดิม (จล.ชอ.)
พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสุทัสสีมุนีวงศ์ (สย.)
พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชวิจิตรโมลี
ท่านยังได้รับเกียรติคุณจากกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ในด้านการจัดผังวัด การจัดระเบียบเสนาสนะให้แก่วัดต่างๆ ในจังหวัดพิจิตร จนกระทั่งวัดท่าหลวงและวัดอื่นในสังกัดได้รับการยกย่องให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
ทำหน้าที่อย่างมุ่งมั่นสานต่องานการศึกษาสงฆ์อย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย เพื่อสานพระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่สืบไป
ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ที่โรงพยาบาลพิจิตร เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 18 พ.ค.
สิริอายุ 92 ปี 10 เดือน 5 วัน พรรษา 72

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน