คอลัมน์ ชมรมพระเครื่อง

แทน ท่าพระจันทร์

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน เหรียญเก่าแก่ของกทม.ซึ่งเป็นเหรียญดีมาก เป็นเหรียญรูปพระพุทธชินราช และมีปี พ.ศ.ระบุไว้แค่ 2479 ซึ่งอาจจะไม่ค่อยมีใครทราบประวัติความเป็นมาของเหรียญนี้ วันนี้เราจึงมาคุยกันถึงที่ไปที่มาของเหรียญนี้กันนะครับ

เหรียญพระพุทธชินราชเหรียญนี้เป็นเหรียญของวัดโสมนัสวิหาร กทม. ที่ปลุกเสกโดยพระพุทธวิริยากร (จันทร์) ซึ่งท่านเป็นผู้ที่มีความรู้แตกฉานในพระปริยัติธรรม แต่ท่านไม่ยอมเข้าสอบ โดยให้เหตุผลว่าไม่ปรารถนาความเจริญทางโลก แต่กระนั้นก็ได้รับการแต่งตั้งและเลื่อนสมณศักดิ์ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นพระราชาคณะที่ “พระพุทธวิริยากร” หลวงปู่จันทร์เป็นพระสงฆ์ที่มีศีลาจารวัตร เพียบพร้อมด้วยทุกๆ

ด้านปฏิบัติศาสนกิจด้วยความอุตสาหะอย่างสม่ำเสมอ ประกอบด้วยพรหมวิหารสี่ มีความสามารถในการเทศน์จนเป็นที่ศรัทธาของญาติโยมทั่วไป เป็นพระเถระผู้หนึ่งที่ได้รับนิมนต์ร่วมในพิธีครั้งสำคัญๆ ของพิธีหลวงอยู่เสมอ ในปี พ.ศ.2481 พิธีปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดราชบพิธ อันเป็นพิธีใหญ่ที่รวมยอดพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ หลวงปู่จันทร์ก็ได้รับนิมนต์เข้าร่วมปลุกเสกในพิธีครั้งนั้นด้วยเหมือนกัน

หลวงปู่จันทร์เป็นพระสงฆ์ที่มีความเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐานอยู่เป็นนิจ และชอบปฏิบัติอสุภกรรมฐาน ชอบการออกธุดงค์ โดยได้รับการฝึกฝนถ่ายทอดจากสมเด็จพระวันรัต (ทับ) มาจนแตกฉาน กิตติคุณของหลวงปู่จันทร์เป็นที่เลื่องลือกันว่ามีญาณสมบัติที่ล่วงรู้การณ์ในอดีตและอนาคตได้

นอกจากนี้ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ เมืองหลวงยุคนั้นก็เป็นยุคที่พวกอั้งยี่ครองเมือง นักเลงแต่ละก๊กจะมีการยกพวกตีกันเสมอ นักเลงแถววัดโสมฯ ก็เป็นก๊กที่ไม่ค่อยมีใครกล้ามาตอแยด้วยเท่าไรนัก เนื่องจากแต่ละคนเป็นที่กล่าวขวัญกันว่ามีหนังดีอยู่ยงคงกระพัน เป็นที่คร้ามเกรงแก่ก๊กอื่นๆ เช่นกัน และต่างคนก็มีวัตถุมงคลของหลวงปู่จันทร์นั่นเองครับ

ในปี พ.ศ.2479 หลวงปู่จันทร์มีอายุครบ 70 ปี ลูกศิษย์ได้ขออนุญาตท่านสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งท่านก็อนุญาต แต่ให้สร้างเป็นเหรียญพระพุทธชินราชดังกล่าว ในการสร้างเหรียญพระพุทธชินราชรุ่นนี้ หลวงปู่จันทร์ได้พิถีพิถันในการสร้างมาก โดยการนำเอาแผ่นทองแดงมาลงอักขระและปลุกเสกในพระอุโบสถวัดโสมฯ ก่อนด้วยตัวท่านเอง จากนั้นจึงให้เอาแผ่นยันต์เหล่านั้นไปหลอมปั๊มเป็นเหรียญ ซึ่งก็ได้จำนวนเพียงไม่กี่ร้อยเหรียญเท่านั้น เมื่อปั๊มเหรียญเสร็จท่านจึงได้เอาเหรียญนั้นใส่บาตรน้ำมนต์ไปปลุกเสกเดี่ยวในพระอุโบสถวัดโสมฯ อีกครั้งหนึ่ง เหรียญรุ่นนี้หลวงปู่จันทร์ได้แจกให้กับลูกศิษย์ที่มาร่วมในงานทำบุญอายุครบ 70 ปี ของท่านจนเกือบหมด

ปัจจุบันเหรียญรุ่นนี้แทบไม่ค่อยพบเจอกันเลย เนื่องจากผู้ที่ได้แจกมานั้นต่างก็หวงแหน และตกทอดมาสู่ลูกหลานในย่านนั้น ซึ่งมีประสบการณ์มากมาย ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่ค่อยมีใครรู้ประวัติเหรียญนี้กันนักครับ ในวันนี้ผมก็ได้นำรูปเหรียญพระพุทธชินราช วัดโสมนัสวิหาร ของหลวงปู่จันทร์มาให้ชมทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับ

ด้วยความจริงใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน