รู้ได้ไงว่าพระแท้-เก๊เกิดทันหรือ? : คอลัมน์ ชมรมพระเครื่อง

รู้ได้ไงว่าพระแท้-เก๊เกิดทันหรือ? – สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน วลีที่ว่า “รู้ได้ไงว่าพระแท้-เก๊ เกิดทันหรือ?” เป็นวลีที่เกิดขึ้นมานมนานแล้ว เมื่อ 50 ปี

ก่อนนั้นผมเองก็เคยได้ยิน และยังเป็นวลีที่ยังมีอยู่จนถึงปัจจุบัน ส่วนมากก็เกิดจากความไม่พอใจในคำตอบที่ไม่สมหวังของผู้ที่เป็นเจ้าของพระ และที่สำคัญก็คือจะนำพระมาปล่อยให้เช่าแล้วเขาไม่เช่าก็ผิดหวังและไม่พอใจ พระเก่าๆ อย่างประเภทพระกรุหรือพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่าๆ ก็ไม่ค่อยมีใครเกิดทันหรอกครับ

แต่เขามีแบบอย่างที่ยอมรับกันในสังคมพระเครื่องว่าแบบนี้แท้ใช่ และมีมูลค่ารองรับคือขายได้มีราคา ส่วนที่ทำไม่เหมือนหรือคล้ายๆ ก็ขายไม่ได้ ไม่มีใครรับซื้อก็เท่านั้นเอง

ครับนอกจากพวกที่อยากขายแล้วก็มีพวกที่ขายพระเขาไปแล้ว แต่พอคนที่ซื้อไปนำไปขายหรือนำไปแห่ในสนามพระก็ขายไม่ได้ นำพระไปคืนคนขายก็โมโหจึงถามว่าคนที่ไม่ซื้อนั้นเกิดทันหรือจึงรู้ว่าไม่แท้ พระที่มีปัญหาบ่อยๆ ก็จะเป็นพระที่นิยมกันมากๆ สนนราคาสูงๆ เช่น พระสมเด็จฯ เป็นต้น

จะมีปัญหาแบบนี้บ่อยมาก เรื่องของพระเครื่องนั้นเขาไม่ต้องเกิดทันการสร้างพระนั้นๆ หรอกครับ เขาเล่นหาซื้อ-ขายกันตามที่เขานิยมและเชื่อถือกันว่าใช่ และมีมูลค่ารองรับ คือพูดแบบชาวบ้านก็คือซื้อได้ขายได้ไงครับ

ถ้าไม่ใช่ไม่เหมือนเขาก็ไม่ซื้อเพราะนำไปขายต่อไม่ได้ก็เท่านั้นง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก ในสังคมพระเครื่องคำว่าเก๊ก็คือไม่ใช่ตามที่เขาเล่นหากัน ส่วนใครจะว่าใช่แท้ก็แล้วแต่ เพียงเขาไม่ซื้อไม่เล่นหากัน ก็ต้องยอมรับสิ่งที่สังคมเขากำหนดครับ
ถ้าเราจะขายทองหรือขายเพชร เราจะไปขายที่ไหน? สิ่งแรกที่คิดก็คือขายทองไปร้านทอง ขายเพชรไปร้านเพชร เพราะเขารับซื้อ-ขายโดยตรงอยู่แล้ว แต่ถ้าเอาไปขายแล้วเขาไม่รับซื้อล่ะ จะไปว่าเขาเกิดทันทองหรือทันเพชรไหม? ในทำนองเดียวกันจะขายพระก็คงต้องไปที่สนามพระ-ศูนย์พระ

ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมร้านค้าพระเครื่องต่างๆ ซึ่งเขาทั้งรับซื้อและขาย เมื่อนำพระที่ต้องการจะขายไปขายแล้วขายไม่ได้ ไม่มีใครซื้อ จะหมายความว่าไง? จะว่าเขาเกิดทันหรือเปล่า หรือจะว่าเขาเล่นแต่พระเก๊ของพวกมันเองหรือ ใช่เหรอ?

พวกที่เป็นพ่อค้าพระเครื่อง หรือที่มักเรียกกันว่าเซียนพระเขามีอาชีพซื้อ-ขายพระเครื่อง เขาจะไม่หาสินค้า ที่เขาขายได้เข้ามาในร้านเพื่อขายต่อหรือ? และถ้าคิดว่าเป็นการหลอกต้มกันมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย มันทำเก๊เอง อุปโลกน์กันเองซื้อขายกันเอง และอยู่ยงมาได้จนปัจจุบันหรือ? นอกจากนี้ยังมีสนนราคารองรับเป็นล้านๆ อย่างพระสมเด็จฯ นี่นะจริงเหรอ?

ส่วนที่มีความเห็นต่างก็ย่อมเป็นสิทธิส่วนบุคคล หรือส่วนกลุ่มของตนนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร เชื่ออย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น ย่อมเป็นสิทธิของตนเอง ทำไมต้องไปกล่าวหา หรือว่าร้ายคนอื่นที่ไม่เชื่อตามที่ตนหรือกลุ่มของตนเชื่อ ถ้าเชื่อตามหลักฐานที่ตนมีก็เชื่อไปตามนั้นได้ ไม่ผิดอะไร

แต่เมื่อนำไปขายแล้วเขาไม่ซื้อก็เป็นเรื่องของกลุ่มเขาเช่นกัน เพราะความเชื่อนั้นต่างกันก็เท่านั้นเอง ความเชื่อของกลุ่มเซียนพระเขาก็มีมาตรฐานของเขา ถ้าใช่เขาก็รับซื้ออยู่แล้ว หลักการของใครของมันก็ว่ากันไป เชื่อแบบไหนก็ซื้อกันไป เชื่อแบบไหนก็ซื้อแบบนั้นแล้วก็ไปขายกับกลุ่มที่เชื่อแบบนั้น ปัญหาก็ไม่น่าจะมีอะไร มาถกเถียงกันไปทำไม กล่าวหาว่าร้ายกันไปทำไม ไม่ได้ประโยชน์อะไร จริงไหมครับ

ถ้าเซียนพระหมายถึงคนที่มีอาชีพเป็นพ่อค้าพระซื้อมาขายไป ผมเองก็ไม่ใช่เซียน เพราะไม่เคยมีอาชีพนี้เลย แต่ถ้าถามว่าชอบศึกษาสะสมพระเครื่องไหม ก็ใช่ ก็เล่นหาศึกษาสะสมมาตั้งแต่สมัยสนามพระวัดมหาธาตุยุคปลายๆ จนย้ายมาที่วัดราชนัดดา และท่าพระจันทร์ จนมาถึงปัจจุบันถ้าว่างก็ไปเป็นประจำ ยังเช่าพระอยู่ไหมก็มีบ้าง

เคยขายพระไหมก็เคย เวลาเช่าหาสะสมมามากๆ เข้า พระบางอย่างก็ให้เซียนเขาเช่าไปบ้าง เพื่อมาเช่าองค์ใหม่เข้า บางทีก็เช่าเซียนมานั่นแหละ เช่ามานานหลายปี ราคาพระขึ้นไปมาก เขาก็มาขอเช่าคืนไปโดยบวกกำไรให้พอสมควร พระบางอย่างผมเช่ามาจากชาวบ้านหมายถึงนอกสนาม เป็นพระหน้าใหม่ เมื่อนำมาดูกันเซียนเขาก็ขอเช่าต่อ โดยให้กำไรเช่นกัน ผมว่านะเขาก็มีมาตรฐานในการพิสูจน์ของเขานะ หมายถึงพวกเซียนน่ะ

ถ้าถามผมว่าดูพระเป็นมั้ย ผมก็ตอบว่าไม่เป็นครับ ผมก็ศึกษาตามพวกเซียนพระนี่แหละ ดูว่าเขาดูอย่างไรว่าใช่ไม่ใช่ แล้วก็ไปหาเช่ามา ในสมัยก่อนก็จากข้างนอกสนาม ตามบ้านบ้าง ตามต่างจังหวัดบ้าง แล้วก็เอามาพิสูจน์ที่สนามดูว่าใช่ไหม สอบได้หรือสอบตก ก็เอาไปอวดแล้วตีราคาให้สูงๆ หน่อย ถ้าเขาขอเช่าและต่อรองราคาก็แสดงว่าเราสอบได้เป็นพระแท้

ถ้าราคาพอใจก็ขายไป เป็นทุนไปหาใหม่สอบกันใหม่ให้แม่นยำก็เท่านั้น การเล่นหาสะสมไม่ว่าจะเป็นอะไร ก็มีการซื้อขายกันทั้งนั้น เพียงแต่เราได้เล่นหาเป็นอาชีพหรือไม่ หรือว่าเล่นหาสะสมเป็นงานอดิเรก

ผมเองนั้นชอบเล่นหาสะสมแบบมีมูลค่ารองรับ เพราะเงินเราแท้ ก็ควรจะได้ของที่มีมูลค่ารองรับ เรื่องมันก็ง่ายๆ แค่นี้แหละ พระบางองค์ผมเช่าหามาเก็บไว้นาน ก็มีเซียนมาขอซื้อไปในมูลค่าเพิ่ม 20 เท่า ผมก็ให้เขาไปก็เท่านั้น สิ่งเหล่านี้ผมก็ว่าเขาคงไม่มั่วทำเองขายเอง ไม่งั้นเขาจะมาง้อขอเช่าของผมทำไมไม่ไปทำเองใหม่ล่ะ เพราะเขาก็เป็นเซียนพระประเภทนั้นอยู่แล้วด้วย

ในวันนี้ผมนำพระสมเด็จวัดพลับ พิมพ์ตุ๊กตาเล็กเข่ากว้าง มาให้ชม พระแบบนี้มีมูลค่ารองรับของสังคมพระเครื่องครับ

ด้วยความจริงใจ
แทน ท่าพระจันทร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน