วันศุกร์ที่ 10 ก.ค.2563 ถือเป็นวันมงคล พระอาจารย์เถ่ง ฐิตคุโณ จะมีอายุครบรอบ 61 ปี เหล่าศิษย์ผู้ใกล้ชิดและผู้ที่เลื่อมใสจะร่วมมุทิตาจิตฉลองอายุวัฒนมหามงคลเป็นประจำทุกปี
ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลหนองบัว เขต 1 เจ้าอาวาสวัดหนองกรับ ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ต้องนิมนต์ไปเพื่อทำหน้าที่นั่งปรกอธิษฐานจิต
มีศักดิ์เป็นเหลนแท้ๆ ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และเป็นศิษย์เอกของหลวง พ่อสิน วัดละหารใหญ่
ปัจจุบันสิริอายุ 61 ปี พรรษา 41
เป็นชาวระยอง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 10 ก.ค.2502 บิดาชื่อ นายเจริญ สุขวารินทร์ มารดาชื่อ นางบุญ งามศรี หลานแท้ๆ ของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ส่วนตาเป็นพี่ชายหลวงปู่ทิม
เมื่ออายุครบ 20 ปี อุปสมบทที่วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง โดยมีพระครูวิจิตรธรรมานุวัตร หรือหลวงปูลัด วัดหนองกระบอก เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสุภัททาจารคุณ หรือหลวงพ่อสิน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิจิตรธรรมาภิรัต หรือหลวงพ่อเชย วัดละหารไร่ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า “ฐิตคุโณ”
อยู่จำพรรษาที่วัดละหารไร่ 1 พรรษา แล้วย้ายไปจำพรรษาที่วัดละหารใหญ่ โดยศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย สอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ จบอภิธรรมมัชฌิมโท สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีและปริญญาโท หลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ศึกษาวิชาจากพ่อ หลวงตาเจริญ สุขวารินทร์ รองเจ้าอาวาสวัดละหารไร่ สมัยที่อยู่กับหลวงปู่ทิม ซึ่งได้เรียนวิชาจากหลวงปู่ทิม และหลวงปู่แก้ว หลังจากนั้นโยมพ่อย้ายมาอยู่วัดละหารใหญ่ ได้ถ่ายทอดวิชาของ 2 พระเกจิให้ ดังจะเห็นในปัจจุบันทั้งพุทธาคมและ การเขียนยันต์จะมีเอกลักษณ์
ช่วงที่บวชเรียนอยู่วัดละหารใหญ่ ครูบาอาจารย์ที่ได้เรียนจากหลวงพ่อเพ่ง สาสโน อดีตเจ้าอาวาสวัดละหารใหญ่ ศิษย์ของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ก็มาถ่ายทอดวิชาให้
นอกจากนี้ ยังเรียนวิชาหุงสีผึ้งจากลุงเย็น ศิษย์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อีกทั้งสายหลวงปู่ทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ด้วย จนมีความเชี่ยวชาญในวิชาหุงสีผึ้งเขียวตำรับหลวงปู่ทาบ
นำวิชาแขนงต่างๆ มาช่วยเหลือญาติโยม และใช้ในการเดินธุดงค์ที่เขาใหญ่ จ.นครราช สีมา และถ้ำวัวแดง จ.อุดรธานี รวมทั้งการปฏิบัติธรรมปริวาสกรรม จนกระทั่งพรรษาที่ 38 ได้รับตำแหน่งการปกครองจากคณะสงฆ์ระยอง ให้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ
เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2560 ท่านก็เริ่มสานต่องานบูรณะพัฒนาวัด ด้วยการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามสะอาดตา อาทิ ย้ายศาลา, สร้างกุฏิ เตรียมสร้างเมรุเผาศพหลัง ใหม่ฯลฯ
ที่สำคัญคือ การก่อสร้างอุโบสถตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อสาคร อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ
หลังจากรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองกรับ ประกอบด้วย แพะมหาโภคทรัพย์, เหรียญเสมาไตรจักร, เหรียญรุ่นแรก ทรงหยดน้ำ, เหรียญพญาเต่าเรือน, พระปรกใบมะขาม นำรายได้มาสมทบทุนการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ที่ยังขาดทุนทรัพย์อีกมาก
กิจวัตรประจำวันไม่เคยขาด ทั้งออกบิณฑบาต ให้ความอนุเคราะห์เจิมรถ รดน้ำมนต์ ตามศรัทธาของญาติโยมผู้ที่มาขอ
