วิถีแห่งการปฎิบัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

เสถียร จันทิมาธร

ภายหลังปุจฉา วิสัชนา ระหว่าง พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต กับ บุรุษลึกลับที่มีกายดำสูงใหญ่ ก็บังเกิดการแปรเปลี่ยน

1 เขาได้ทิ้งตะบองเหล็กลงจากบ่า

1 นฤมิตเปลี่ยนภาพจากร่างของบุรุษลึกลับที่มีกายดำสูงใหญ่มาเป็นสุภาพบุรุษพุทธมามกะ ผู้อ่อนโยนนิ่มนวลด้วยมารยาทอัธยาศัย

1 แสดงความเคารพคารวะ กล่าวคำขอโทษแบบบุคคลผู้เห็นโทษสำนึกในบาปอย่างถึงใจ

ชีวประวัติ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต สำนวน พระมหาบัว ญาณสัมปันโน กล่าวถึงสถานการณ์ในห้วงนี้ว่า

ต่อไปนี้เป็นใจความของเขาที่กล่าวตามความสัตย์จริงต่อท่านพระอาจารย์มั่นว่า

กระผมรู้สึกแปลกใจและสะดุ้งกลัวท่านแต่เริ่มแรก มองเห็นแสงสว่างที่แปลกอัศจรรย์มาก ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อนพุ่งจากองค์ท่านมากระทบตัวกระผม

ทำให้อ่อนไปหมด แทบไม่อาจแสดงอาการอย่างใดออกมาได้

อวัยวะทุกส่วนตลอดจิตใจอ่อนเพลียไปตามๆ กัน ไม่อาจจะทำอะไรได้ด้วยพลการ เพราะมันอ่อนและนิ่มไปด้วยความซาบซึ้งจับใจในความสว่างนั้น

ทั้งๆ ที่ไม่ทราบว่านั้นคืออะไร เพราะไม่เคยเห็น

เท่าที่แสดงกิริยาคำรามว่าจะทุบตีและฆ่านั้นมิได้ออกมาจากใจจริงแม้แต่น้อย แต่แสดงออกตามความรู้สึกที่เคยฝังใจมานานว่า ตัวเป็นผู้มีอำนาจในหมู่อมนุษย์ด้วยกัน และมีอำนาจในหมู่มนุษย์ที่ไม่มีศีลธรรมชอบรักบาปหาบความชั่วประจำนิสัยต่างหาก

อำนาจนี้จะทำอะไรให้ใครเมื่อไรก็ได้ตามต้องการ โดยปราศจากการต้านทานขัดขวาง มานะอันนี้แลพาให้ทำเป็นผู้มีอำนาจแสดงออกพอไม่ให้เสียลวดลาย

ทั้งๆ ที่กลัวและใจอ่อน ทำไม่ลง และมิได้ปลงใจว่าจะทำ หากเป็นเพียงแสดงออกพอเป็นกิริยาของผู้เคยมีอำนาจเท่านั้น

กรรมอันไม่งามใดๆ ที่แสดงออกให้เป็นของน่าเกลียดในวงนักปราชญ์ที่แสดงต่อท่านวันนี้ ขอให้เมตตาอโหสิกรรมแก่กรรมนั้นๆ ให้กระผมด้วย อย่าต้องได้รับบาปหาบทุกข์ต่อไปเลย เท่าที่เป็นอยู่เวลานี้ก็มีทุกข์อย่างพอตัวอยู่แล้ว

ยิ่งจะเพิ่มทุกข์ให้มากกว่านี้ ก็คงเหลือกำลังที่จะทนต่อไปไหว

ได้ยินดังนั้น พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต จึงถาม

ท่านเป็นผู้ใหญ่มีอำนาจวาสนามาก กายก็เป็นกายทิพย์ ไม่ต้องพาตัวหอบหิ้วเดินเหินไปมาให้ลำบากเหมือนมนุษย์ การเป็นอยู่หลับนอนก็ไม่เป็นภาระเหมือนมนุษย์ทั่วโลกที่เป็นกัน แล้วทำไมจึงยังบ่นว่าทุกข์อยู่อีก ถ้าโลกทิพย์ไม่เป็นสุขแล้วโลกไหนจะเป็นสุขเล่า

คำตอบจากสุภาพบุรุษพุทธมามกะคือ

ถ้าพูดอย่างผิวเผินและเทียบกับกายมนุษย์ที่หยาบๆ พวกกายทิพย์จากมีความสุขมากกว่าพวกมนุษย์จริงเพราะเป็นภูมิที่ละเอียดกว่ากัน แต่ถ้ากล่าวตามชั้นภูมิแล้ว กายทิพย์ก็ย่อมมีทุกข์ไปตามวิสัยของภูมินั้นๆ เหมือนกัน

มาถึงตอนนี้ พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ยอมรับว่า

“ระหว่างที่ผีกับพระสนทนากันรู้สึกว่าละเอียดและลึกลับยากที่ผู้เขียนจะนำมาลงได้ทุกประโยคจึงขออภัยท่านผู้อ่านไว้ด้วยความจนใจ”

สำนวนเขียน พระมหาบัว ญาณสัมปันโน จึงลงเอยด้วย

“สุดท้ายแห่งการสนทนาธรรม ท่านว่า บุรุษลึกลับมีความเคารพเลื่อมใสในธรรมเป็นอย่างยิ่งและปฏิญาณตนถึงพระไตรสรณคมน์ กล่าวอ้างท่านพระอาจารย์เป็นสรณะและเป็นองค์พยานด้วย

“พร้อมทั้งให้ความอารักขาแก่ท่านเป็นอย่างดี และขอนิมนต์ท่านพักอยู่ที่นี่นานๆ

“ถ้าตามใจเขาแล้วไม่อยากให้ท่านจากไปสู่ที่อื่นตลอดอายุของท่านเขาจะเป็นผู้คอยดูแลรักษาท่านทุกอิริยาบถ ไม่ให้มีอะไรมาเบียดเบียนหรือรังแกท่านได้เลย

“ความจริงแล้ว เขามิใช่บุรุษลึกลับและมีร่างกายดำสูงใหญ่ดังที่แสดงภาพต่อท่าน แต่เขาเป็นหัวหน้าแห่งรุกขเทวดาซึ่งมีบริษัทบริวารมากมายที่อาศัยอยู่ในภูเขาและสถานที่ต่างๆ มีเขตอาณาบริเวณกว้างขวางมากติดต่อกันหลายจังหวัดมีนครนายก เป็นต้น”

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่อง “ท่านเล่าว่า” อันผ่านการเรียบเรียงเป็นสำนวนเขียนโดย พระมหาบัว ญาณสัมปันโน

น่ายินดีที่ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันโท จันทร์) ได้นิพนธ์ “โลกวินิจฉัย” เอาไว้

เป็นการเรียบเรียงตังแต่เป็น พระญาณรักขิต และนำมาตรวจพิมพ์ใหม่เมื่อเป็น พระโพธิวงศาจารย์ พ.ศ.2468

ทั้งหมดนี้ตีพิมพ์ซ้ำอีกครั้งเมื่อปี 2549 ผ่านหนังสือ “ประมวลธรรมบรรยาย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน